DotProperty.co.th

กรุงเทพฯ ติดอันดับที่ 28  ของโลกที่มีศักยภาพสูงสุดในการเติบโต

รายงาน City Momentum Index (ดัชนีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเมือง) ฉบับประจำปี 2561 โดยบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล เปิดเผยว่า กรุงเทพฯ ติดอันดับหนึ่งใน 30 เมืองของโลกที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งสูงสุดในระยะสั้น โดยอยู่ในอันดับที่ 28 ต่อจากดูไบ (อันดับ 27) และสิงคโปร์ (อันดับ 26) และมีค่าดัชนีสูงกว่าซีแอตเทิลของสหรัฐฯ (อันดับ 29) และบูคาเรสต์ เมืองหลวงของโรมาเนีย (อันดับ 30)

กรุงเทพฯ ติดอันดับหนึ่งใน 30 เมืองของโลกที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งสูงสุดในระยะสั้น

รายงานฉบับดังกล่าวของเจแอลแอล วิเคราะห์ปัจจัยหลากหลายด้านที่แสดงถึงศักยภาพในการประสบความสำเร็จของเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจ 131 เมืองทั่วโลก ในแง่มุมของความเข้มแข็งทางด้านสังคม-เศรษฐกิจ และการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงธุรกิจ ทั้งนี้ การจัดอันดับดัชนีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ ดัชนีระยะสั้นและดัชนีระยะยาว โดยดัชนีระยะยาวหมายถึงเมืองที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

สำหรับดัชนีระยะสั้น พบว่า ในกลุ่มเมืองที่มีดัชนีสูงสุด 30 อันดับแรกของโลก เป็นเมืองของเอเชียแปซิฟิก 25 เมือง รวมถึงเมืองที่มีดัชนีสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สองเมืองของอินเดีย คือ ไฮเดอราบัด (อันดับ 1) และบังกาลอร์ (อันดับ 2) และนครโฮจิมินห์ของเวียดนาม (อันดับ 3)

เมืองที่มีดัชนีสูงสุดด้านการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะสั้น 30 อันดับแรกของโลก

  1. ไฮเดราบัด*
  2. บังกาลอร์*
  3. นครโฮจิมินห์*
  4. ปูเน่*
  5. กัลกัตตา*
  6. ฮานอย*
  7. หนานจิง*
  8. เดลี*
  9. หางโจว*
  10. ซีอาน*
  11. ไนโรบี
  12. ฉงชิ่ง*
  13. หวูฮั่น*
  14. เชนไน*
  15. เซี่ยงไฮ้*
  16. กวางโจว*
  17. เทียนจิน*
  18. มะนิลา*
  19. เสินเจิ้น*
  20. มุมไบ*
  21. เฉิงตู*
  22. ปักกิ่ง*
  23. จาการ์ต้า*
  24. กัวลาลัมเปอร์*
  25. ลากอส
  26. สิงคโปร์*
  27. ดูไบ
  28. กรุงเทพฯ*
  29. ซีแอตเทิล
  30. บูคาเรสต์

 * เมืองของเอเชียแปซิฟิก 

ที่มา: City Momentum Index 2018 โดยเจแอลแอล

 

ปัจจัยที่หนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะสั้น

สำหรับดัชนีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะสั้น มีเมืองของอินเดียหลายเมืองที่ติด 30 อันดับแรกของโลก เนื่องจากอยู่ในกลุ่มเมืองที่มีการเติบโตของจำนวนประชากรและเศรษฐกิจรวดเร็วมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากมาตรการของภาครัฐฯ ในการทำให้เป็นแหล่งธุรกิจที่มีความน่าสนใจ และการลงทุนในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

ส่วนเวียดนามได้อานิสงค์จากการหลั่งไหลเข้ามาของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เนื่องจากหัวเมืองหลักๆ ของเวียดนาม อาทิ นครโฮจิมินห์ และฮานอย กลายเป็นแหล่งผลิตและกระจายสินค้าไฮเทคที่สำคัญของภูมิภาคและของโลก ส่งผลให้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจและรายได้

เมืองใหญ่ๆ ของจีนมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีจำนวนมากถึง 11 เมืองที่ติดอยู่ 30 อันดับแรกในรายงานดัชนีฉบับนี้ โดยเฉพาะเมืองที่ถูกใช้เป็นฐานการผลิตสินค้าที่สำคัญของโลก ซึ่งติดอันดับต้นๆ ได้แก่ หนานจิง (อันดับ 7) และหางโจว (อันดับ 9)

ส่วนเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจหลักของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ติดอยู่ในกลุ่ม 30 อันดับแรกของโลก ได้แก่ มะนิลา จาการ์ต้า กัวลาลัมเปอร์ และกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองที่ยังคงมีการเติบโตตามแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ เมืองเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นประตูสู่ภูมิภาคและมีความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยว นวัตกรรม และทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถ การมีศักยภาพการเติบโตสูง ยังทำให้เมืองเหล่านี้ เป็นแหล่งธุรกิจที่มีบริษัทต่างๆ ขยายกิจการ อีกทั้งยังสามารถดึงดูดบริษัทของจีนที่กำลังขยายการลงทุนออกนอกประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ เมืองเหล่านี้ยังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วของภาคอสังหาริมทรัพย์ ตามการสร้าง-ขยายเพิ่มขึ้นของโครงข่ายระบบสาธารณูปโภค

อย่างไรก็ดี การจัดอันดับดัชนีเมืองที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว พบว่า มีเมืองของเอเชียแปซิฟิกเพียง 5 เมืองเท่านั้นที่ติดอยู่นกลุ่ม 30 อันดับแรกของโลก ได้แก่ โตเกียว โซล ซิดนีย์ เมลเบอร์น และสิงคโปร์ ที่น่าสนใจคือ สิงคโปร์ เป็นเมืองเดียวของเอเชียแปซิฟิกที่ติดอยู่ในกลุ่ม 30 อันดับแรกของเมืองที่มีดัชนีสูงสุด ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากในระยะสั้น เศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์มีพลวัตสูง ในขณะที่สิงคโปร์ดำเนินมาตรการต่างๆ ในอันที่จะทำให้เมืองมีการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยาว

เมืองที่มีดัชนีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว 30 อันดับแรกของโลก

  1. ซานฟรานซิสโก
  2. ซิลิคอน วัลเลย์
  3. นิวยอร์ก
  4. ลอนดอน
  5. บอสตัน
  6. ลอสแองเจลีส
  7. ปารีส
  8. อัมสเตอร์ดัม
  9. โตรอนโต้
  10. ซานดิเอโก
  11. ชิคาโก
  12. ซีแอตเทิล
  13. โตเกียว*
  14. ซิดนีย์*
  15. มิวนิค
  16. เบอร์ลิน
  17. เมลเบอร์น*
  18. ออสติน
  19. แวนคูเวอร์
  20. เดนเวอร์
  21. วอชิงตันดีซี
  22. โคเปนเฮเกน
  23. สต็อคโฮม
  24. เอดินเบอร์ก
  25. ฟิลาเดลเฟีย
  26. มอนทรีออล
  27. เฮลซิงกิ
  28. โซล*
  29. สิงคโปร์*
  30. ซูริค

* เมืองของเอเชียแปซิฟิก

ที่มา: City Momentum Index 2018 โดยเจแอลแอล

 

 ปัจจัยที่หนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยาว

เจรามี เคลลีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเจแอลแอลทั่วโลก กล่าวว่า “เมืองต่างๆ ของเอเชียแปซิฟิกยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากการขยายเศรษฐกิจและการเป็นประตูสู่ภูมิภาคที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก ทั้งในแง่ของการลงทุนและการค้าโลก การเติบโตที่กำลังดำเนินอยู่อย่างรวดเร็วในขณะนี้มีผลต่อการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วทั้งภูมิภาค ดังจะเห็นได้จากกิจกรรมการก่อสร้างที่เกิดขึ้นอย่างคึกคักและการเพิ่มขึ้นของอสังหาริมทรัพย์ที่มีความทันสมัยเพื่อรองรับความต้องการ รวมไปจนถึงปริมาณการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงธุรกิจที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปี 2560 ที่ผ่านมา”

“อย่างไรก็ดี การเติบโตที่รวดเร็วดังกล่าว ได้นำไปสู่ปัญหาบางประการ อาทิ การมีสาธารณูปโภคไม่เพียงพอรองรับ ราคาที่สูงขึ้นเร็วกว่ากำลังซื้อ รวมจนถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เพื่อให้สามารถรักษาการเติบโตให้ดำเนินต่อไปได้ในระยะยาว เมืองต่างๆ ของเอเชียแปซิฟิกจะต้องพยายามสร้างความยั่งยืน โดยการทำให้เมืองมีความน่าอยู่มากขึ้นและไม่แพงจนเกินไป มีกฎหมายที่โปร่งใส และมีสาธารณูปโภครองรับอย่างเพียงพอ ทั้งในเชิงกายภาพและด้านเทคโนโลยี”

รายงานฉบับเต็มสามารถดาวน์โหลดฟรีได้ที่ โหลดเลย ( http://www.jll.com/research/203/jll-city-momentum-index-2018)

 

สนใจข้อมูลข่าวสารอื่นๆเพิ่มเติมจาก Dotproperty คลิ๊ก …