นายสุภัคร ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ หรือ กคช. ได้กล่าวเปิดเผยว่า ในปีงบประมาณปี 2558 นี้ การเคหะแห่งชาติได้มีนโยบายผลักดันการขายโครงการที่มีอยู่อาศัย โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ การขายโครงการบ้านเอื้ออาทร และโครงการเคหะชุมชน โดยในส่วนของโครงการบ้านเอื้ออาทรนั้น การเคหะแห่งชาติสามารถขายเองได้ 50% และสำหรับส่วนที่เหลือจะให้บริษัทเอกชนเข้ามารับบริหารการขายแทน ภายใต้นโยบายที่การเคหะแห่งชาติได้กำหนดเอาไว้เพื่อทำการตรวจสอบ
ซึ่งในส่วนของโครงการบ้านเอื้ออาทรนั้น จะมีจำนวนโครงการที่เหลือขายประมาณ 16000 ยูนิต ซึ่งมีเป้าหมายการขายในปีนี้อยู่ที่ 8400 หน่วยด้วยกัน ซึ่งสำหรับนโยบายของการเคหะแห่งชาติในขณะนี้นั้น จะเป็นการขายที่ดินสินทรัพย์รอการพัฒนา เพื่อที่จะสามารถลดภาระดอกเบี้ยเพื่อหารายได้เข้าองค์กรจากอาคารเช่า และการจัดประโยชน์ที่ดินในโครงการ ส่วนที่ดินแปลงที่เปิดขายไปแล้วนั้น ยังคงอยู่ในระหว่างการขายก็ให้เป็นไปในลักษณะเดิม ซึ่งอย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินงานทั้งหมดนี้ ยังคงอยู่ในระหว่างเป็นการเตรียมความพร้อม ดังนั้น จำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาส่วนหนึ่งบ้าง ซึ่งมีการคาดหมายว่าในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทุกอย่างจะต้องเดินหน้าและมีการขับเคลื่อนแบบเต็มตัวอย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากนี้ นายสุภัครยังคงดำเนินการพัฒนาบุคลากรการขายให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการเคหะแห่งชาติยังคงมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ครอบคลุมผู้ที่มีรายได้ครบทุกกลุ่ม ซึ่งทำให้การเคหะแห่งชาติ ต้องเร่งพัฒนาศักยภาพพนักงานให้มีความรู้ และพร้อมที่จะให้บริการและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าให้ได้มากที่สุด
