สวัสดีค่ะ หลายๆท่านเคยถามตัวเองไหมค่ะว่า เรื่อง ปัญหาบ้านใกล้เรือนเคียง ไม่เคารพ สิทธิอาศัย จนทะเลาะกัน บางครั้งอาจจะถึงขั้นฆ่ากันเลยก็มี ครั้งจะโทรไปหน่วยงานภาครัฐให้มาช่วยแก้ปัญหา ก็ไม่มีใครสนใจ หรือเมื่อล่าสุดที่เราเคยลงคือ คอนโดกลางเมืองแพงๆ เจอห้องข้างๆมาห้องพัก air bnb ร้องเรียนทุกช่องทาง ไม่มีใครสนใจ เพราะอะไรมันเกิดอะไรขึ้นและต่างประเทศ ปัญหาแบบนี้เขามีบ้างหรือไม่ และเขากับเรานั้นแตกต่างกันอย่างไร โดยเรามีเพื่อนๆมาช่วยกันเเชร์เรื่องราวในครั้งนี้ให้เราได้เป็นความรู้ค่ะ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ
ประเทศไทยนั้นกฎหมายและการบังคับกฎหมายไม่จริงจังและไม่ใส่ใจเท่าที่ควรจะเป็น บ้างบ้าน เปิดเพลงเสียงดังได้ ยันเช้า จอดรถปิดหน้าบ้านคนอื่นพอเจ้าของบ้านมาพูดก็โมโหใส่จนทะเลาะกัน ไม่ยอมเข้าใจในสิ่งที่ทำผิดจะหาเรื่องมาแก้ต่างให้ตัวเองรอด หรือกรณีที่พบคนปล่อยหมามาขี้หน้าบ้าน หรืออีกมากมาย โดยไม่มีการออกกฎหมายลงโทษให้ชัดเจน ทีนี้แล้วต่างประเทศละเป็นอย่างเราหรือไม่ เดี๋ยวเราไปดูการแชร์ประสบการณ์ตรงจากต่างประเทศกันเลยค่ะ
แชร์ประสบการณ์ความแตกต่างการไม่เคารพ สิทธิอาศัย บ้านใกล้กันในไทยและต่างประเทศ
ที่อเมริกา เมืองที่เราอยู่นี่ ไม่มีใครส่งเสียงดังเกินสี่ทุ่มนะ เพราะผิดกฎเทศบาล ถ้าใครทำไม่รู้ไม่ชี้ ส่งเสียงดังดึก ๆ ดื่น ๆ นี่ตำรวจจะมาเคาะประตูเลยอย่างที่บอกข้างบน ใครจอดรถปิดทางเข้าบ้านใครก็ไม่ได้นะ ไม่งั้นจะโดนใบสั่งโดนปรับอาน หรือถ้าจอดรถบนนถนนหน้าบ้านใครหลาย ๆ วัน โดยไม่เคลื่อนย้ายไปไหนก็จะโดนใบสั่งเหมือนกัน ถ้าเกินกำหนดในหมายสั่งแล้วยังไม่ย้ายก็จะโดนเทศบาลลากไปเลย
อยู่แคลิฟอร์เนีย เคยได้ยินเพื่อนบ่น ๆ เหมือนกันค่ะ ยิ่งถ้าอยู่ใกล้พวกแม็กซิกัน พวกนี้จะอยู่รวมกันหลาย ๆ คน เปิดเพลงเสียงดัง แต่ถ้าตำรวจมาก็จะเงียบ มีรถหลายคันจอดหน้าบ้านคนอื่น จอดล้ำทางเข้าออกก็มี มีทุกที่แหละคะ แต่ต้องดูว่าอยู่ส่วนไหน เราเพิ่งเจอเพื่อนบ้านฝรั่งหัวทองเลย ทำบ้านแล้วรถช่างมาจอดขวางทางเขาออกบ้านเรา ๆ ถนนตรงนี้ห้ามจอดเนื่องจากเป็น fire lane เดินไปบอกนางบอกว่าช่างต้องทำบ้าน ต้องหยิบอุปกรณ์ อ้าวแล้วเราจะเข้าออกต้องเดินไปบอกให้เลื่อนรถทุกครั้ง เรากลัวถ้าเราถอยไปชนรถที่มันจอดอยู่อันนั้นเราจะผิดเต็ม ๆ จนผ่านไปเกือบเดือน เรียกให้เลื่อนก็กว่าจะมาเลื่อนรถได้ จนโมโหเรียกตำรวจซะเลย หมดความอดทน
เยอรมนี โดยคุณ สมาชิกหมายเลข 4007729
ในเยอรมนี ธรรมเนียมปฏิบัติที่คนทั่วไปต้องรู้คือ ช่วงบ่ายโมงถึง 3โมง จะต้องไม่ทำอะไรเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถามว่ามีกฏหมายบังคับหรือไม่? ถ้าเป็นสมัยก่อนจนถึงปี 1970 อาจมีกฏหมายกำหนด แต่ปัจจุบันไม่มีกฏที่เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษรอีกแล้ว แต่ยังคงถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในหมู่ของผู้ที่ทำตัวเหมาะสมในสังคม เช่นเดียวกันที่หลัง 4 ทุ่มไปแล้ว ทุกอย่างควรอยู่ในความสงบเงียบ ใคร ที่ต้องการทำเสียงดังพิเศษต้องแจ้งเพื่อนบ้านให้รับทราบตามมารยาทที่ดี นานๆ ครั้งจะมีการจัดเลี้ยงกันบ้างถือเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ กรณีที่นอกเหนือจากนี้ก็แจ้งตำรวจ หลังจากโทรแจ้งราว 10-15 นาทีก็จะมาจัดการเอง
ในเยอรมนีนั้นแม้แต่การทิ้งขยะประเภทขวดแก้วที่ก่อให้เกิดเสียงดังยังกำหนดเวลาห้ามทิ้งหลัง 1 ทุ่มไปแล้ว และห้ามทิ้งในวันอาทิตย์ทั้งวันอีกด้วย เคยมีคนถูกปรับมาแล้ว 20 ยูโร เพราะไปทิ้งขวดแก้ววันอาทิตย์และเพื่อนบ้านในบริเวณนั้นเห็นก็ถ่ายรูปแจ้งตำรวจเลย หลังจากนั้น 3 วัน ก็มีจดหมายปรับมาแล้ว
หลักกฏหมายเยอรมันนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการแจ้งความเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการและแจ้งต่อผู้แจ้งความให้รับทราบ มิฉะนั้นแล้วถือว่าตำรวจกระทำผิด ผลการทำงานของตำรวจว่าจะได้ผลลัพธ์คลี่คลายคดีอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เช่นคดีลักเล็กขโมยน้อย หรือ การงัดบ้านเข้าไปขโมยของ สถิติการคลี่คลายคดีมีต่ำมากไม่ถึง 20% แต่ถ้ารวมทุกประเภทคดีอาชญากรรมทั้งหมดสถิติการคลี่คลายคดีอยู่ที่ 56.3% มลพิษในทุกเรื่องมีความสำคัญต่อสุขภาพมนุษย์ ไม่เฉพาะแต่มลพิษทางอากาศ น้ำ แม้แต่เสียงก็มีผลกระทบทำให้คนเราสุขภาพเสียได้อย่างแน่นอน
อังกฤษ โดยคุณ สมาชิกหมายเลข 1511167
จะเล่าให้ฟัง ผมมีบ้านที่อังกฤษ ปัญหามีทุกที่ในโลก แต่เราเลือกได้อย่างของผมก่อนที่จะซื้อบ้านนอกจากจะจ้างคนมาเซอร์เวย์ตัวบ้าน ประวัติ ที่ดินเอกสารกรรมสิทธิ์ เรายังจ้างคนสำรวจประวัติเพื่อนบ้านได้ ใครมีปัญหาอะไร อย่างสตอร์กิ้งเที่ยวไล่ตามรบกวน ทำร้ายเด็ก มีประวัติอาชญากรรม ศาลมีคำตัดสินจนถึงที่สุด เราตรวจสอบได้ก่อนที่ซื้อ แล้วทนายช่วยได้มากในกรณีมีข้อพิพาท ทำเรื่องฟ้องร้อง เขียนหนังสือสัญญารับสภาพทำได้หมด หรือแม้แต่กรณีพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินอย่างประเทศมันเป็นเมืองเก่าบ้านผมอายุหลายร้อยปี มีใช้ที่ดินข้างๆไม่มีใครมาอ้างกรรมสิทธิมาหลายชั่วอายุคนแล้วผมก็เลยได้ใช้ประโยชน์เป็นทางเดินเท้ากับสวนเล็กๆ ถนนเป็นหินปูแบบถนนโรมัน ผมก็ซื้อประกันคุ้มครองในเรื่องกรรมสิทธิที่ผืนนั้นไว้ต่อไปจะขายบ้าน หรือใครมาอ้างก็จะได้ใช้เงินสู้คดีฟ้องร้อง หรือชดเชยในความเสียหายกันได้ ผมคิดว่าคนเยอะก็เรื่องเยอะทุกแห่งในโลกแต่ระบบกฏหมาย ระเบียบวินัย ประเพณีเขาพัฒนามานานกว่า มันก็มีทางออกมากกว่าสักวันเมืองไทยก็คงจะพัฒนาไปแบบนั้น
สเปน โดยคุณ สมาชิกหมายเลข 727153
จะเล่าให้ฟังที่เราอยู่สเปนมี 2 เรื่อง
- เราเช่าแฟลตอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร 4 ชั้น เมื่อ 2 ปีก่อน มีคนมาพักชั้น 2 เป็นครอบครัวน่าจะโรมาเนียน ราว 15 คน ซึ่งมีขนาดเท่าของเราคือ 2 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก 1 ห้องน้ำ ครอบครัวนี้มีเด็กอยู่ 12 คน พ่อ 1 แม่ 2 เลยมีตั้งแต่เด็ก 1 ขวบ ถึง 20 แล้วเด็กพวกนี้ไม่ไปเรียนหนังสือ เข้าออกห้องก็จะกระแทกประตู วิ่งกันตลอดเวลา ดึกๆ ตี 1-2 ยังวิ่งกันไม่หยุด เลยทำให้คนที่อยู่ใต้ห้องเราคิดว่าลูกเรา 2 คน เป็นคนทำเสียงดัง เค้าเลยใส่จดหมายที่ตู้จดหมายเราชั้นล่าง สามีเราคิดว่าลูกเราทำเสียงดังจริง เลยไปตีลูกสาว (ต่อมารู้ว่าเข้าใจผิดเลยไปขอโทษลูกสาวตอนนั้นอายุ 5 ขวบ) สามีเราคิดว่าปล่อยไปเดี๋ยวเสียงดังก็หายไปเองเพราะเค้าเพิ่งย้ายมาอยู่ แล้วห้องใต้เราจะเข้าใจเองว่าไม่ใช่เสียงดังจากลูกเรา
แต่สักพักจดหมายฉบับที่ 2 ก็มา เราเลยให้สามีไปชวนคนที่อยู่ชั้นเดียวกับเค้า ซึ่งเป็นคนดูแลเรื่องต่างๆของตึกนี้ไปคุยกับคนที่อยู่ใต้เรา เพราะเราไม่ยอมให้เค้ามาเข้าใจพวกเราผิดว่าลูกเราทำเสียงดัง สามีเราปรึกษาผู้ดูแลซึ่งเค้าก็บอกว่าเราทำอะไรไม่ได้เพราะที่นี่เด็กทำเสียงดังไม่ผิด แต่เราก็ให้สามีกับผู้ดูแลไปคุยกับคนที่อยู่ใต้เรา แต่เค้าไม่ยอมเปิดประตูมาคุย ไปหลายครั้งก็ไม่ยอมเปิด ซึ่งเสียงดังต่างๆก็มีทุกคืนจนตี 1-2 ต่อมาสามีเราพาลูกๆกลับไปเยอรมันเพื่อตรวจสุขภาพตามนัดของลูกๆแต่เราไม่ได้ไปด้วย ตอนเช้าตำรวจ 2 คนมาเคาะห้อง สอบถามเราว่าเรามีเด็กมั้ย เราก็บอกว่ามีแต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่ไปเยอรมัน ตำรวจก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ลงไปชั้น 1 แทน ก็ได้ยินเสียงคนชั้น 1 ไม่ยอมเปิดประตู ต่อมาเรากำลังตากผ้าเลยเห็นว่ามีรถตำรวจอยู่ทั้งหน้าและหลังตึก และตำรวจคนหนึ่งกำลังปีนขึ้นไปที่ชั้น 2 เราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่ระทึกมากไม่เคยเห็นตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่แบบนี้ อีก 3-4 เดือน เราได้ยินเสียงรถเบรคดังมากตอนดี 3 เลยเดินมาดูที่ห้องรับแขก ปรากฏว่าครอบครัวนี้กำลังย้ายออก รีบขนของ ขนเด็กๆขึ้นรถ 3 คัน แล้วเร่งเครื่องขับตามกันออกไป
- เพื่อนบ้าน ตรงข้ามห้องเรา ชอบตะโกนโวยวายกลางดึก เช่นเค้ากลับมาที่ห้อง ตี 2 ตอนเข้าห้องก็ โอ้ลา โอ้ลา เรียกหมา 2 ตัว กลางวันชอบปล่อยหมาลงไปอึชั้นล่าง เวลาเรียกก็ โอ้ลา โอ้ลา แบบนี้ทั้งวัน ทุกวันทุกคืน เคยมีคนที่อยู่ใต้ห้องเค้ามาบอกเค้าให้เงียบหน่อยเค้าบอกว่าเด็ก (หมายถึงลูกเรา)เสียงดังเค้าเลยต้องกรี๊ด คนที่อยู่ติดกับห้องเค้าเคยส่งจดหมายร้องเรียนคงมีคนมาตรวจสอบแต่ไม่ได้ผลอะไรเพราะเห็นกระดาษรายละเอียดการตรวจสอบแปะอยู่ชั้นล่างว่าไม่ประสบความสำเร็จ เลยทำให้ข้างห้องและใต้ห้องคนนี้ย้ายออกกันหมดแล้ว ทีนี้ลูกเราตอนเช้าไปโรงเรียนก็มีอารมณ์งอแงก็มีร้องบ้างตอนออกจากห้อง เพราะกลางคืนหลับไม่สนิทเพราะเสียง โอ้ลา โอ้ลา แล้วต้องตื่นเช้าไปโรงเรียน คนห้องนี้แรกๆก็กรี๊ดตะโกนออกมาว่าเค้าจะนอนอย่าทำเสียงดัง แต่เราไม่เคยไปว่าที่เค้าทำเสียงดังดึกๆดื่นๆ ต่อมาไม่นานมานี้ลูกเรางอแงอีกเค้าเลยเปิดประตูออกมาด่าตามหลังว่าให้หยุดทำเสียงดังเค้านอนไม่ได้ เราเลยสวนกลับเป็นภาษาอังกฤษว่าเค้าทำเสียงดังได้คนเดียวเหรอ ดึกดื่นเที่ยงคืนยังโอ้ลา โอ้ลา กันอยู่ เราเลยต้องกำชับลูกทุกครั้งเวลาเข้าออกอย่าทำเสียงดัง ไม่อยากทะเลาะกับเพื่อนบ้าน ไม่อยากคุยกับเค้าอีก
โดนการแก้ปัญหาเรื่องนี้ในบ้านเรานั้นไม่ใช้เรื่องยากเพียงแค่เรามี การอบรมสั่งสอนมาแต่กำเนิด การให้ความรู้ที่ถูกต้อง การให้รู้จักสิทธิ์ หน้าที่ ของตนเอง แม้ไม่มีกฏระเบียบกำหนดสังคมก็เป็นสุขได้ หรือ เวลามีปัญหาการถูกละเมิดจากใครก็ตามเราควรจะคิดว่าเราเป็นผู้ถูกละเมิด ดังนั้นไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงที่จะไประงับเหตุเดือดร้อนเหล่านั้น ดังนั้นสิ่งที่ดีทุกสุดคือ แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีหน้าที่โดยตรงที่จะมาระงับเหตุ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่สนใจ เราก็พยายามอัดคลิปหรือบันทึกเสียงสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่ ที่ปล่อยป่ะละเลยในการปฏิบัติหน้าที่นั้นๆและทำการฟ้องร้องหรือ กดดันเจ้าหน้าที่รัฐให้ทำงานตรงนี้ให้ได้ค่ะ ดังนั้นอย่างไปเข้าชนด้วยตัวเองนะค่ะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ
ลงประกาศฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย คลิ๊ก …
ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่