3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ เผยตลาด อสังหา ครึ่งปีหลังยังเหนื่อย เพราะต้องเผชิญผลกระทบแอลทีวีฉุดยอดโอนปี 2562 ติดลบ อีกทั้งกำลังซื้อชะลอตัว คาดปีนี้ยอดโอนติดลบ 7.7%
คาดครึ่งปีหลังอสังหายังเหนื่อย ยอดโอนอาจติดลบ
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยวิเคราะห์ในงานเสวนา “ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยปี 2562 หลังมาตรการรัฐ” ว่า แนวโน้มสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังจะเหนื่อย เพราะมีปัจจัยลบรอบด้านทั้งจากปัจจัยภายนอกประเทศ คือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้ผู้ประกอบการรอดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจลงทุน ขณะที่สถานการณ์ในประเทศ การเมืองยังไม่ชัดเจน แม้ว่าในไตรมาสแรกยอดขายดีแต่เป็นยอดขายสต็อกเก่า ส่งผลให้ไตรมาสสอง ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ เช่น พฤกษา อนันดา เริ่มออกมาจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขาย หลังจากชะลอมา 4 เดือน แม้รัฐจะออกมาตรการออกมากระตุ้นแต่ไม่ได้ช่วยตลาดกระเตื้องขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการบางรายยังศึกษาที่จะลงทุนอสังหาฯ ในรูปแบบอื่นๆ เช่น อสังหาฯ ประเภทเดย์แคร์ดูแลสูงอายุ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าจีนที่นิยมเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในหัวเมืองรอง ล่าสุดมีกลุ่มนักลงทุนจีนเข้ามาร่วมคนไทยกำลังทำเดย์แคร์ ขนาด 2,000 ไร่ที่หัวหิน เพื่อรองรับผู้สูงอายุจีนที่เข้ามา ถือเป็นโอกาสธุรกิจที่น่าสนใจ รวมทั้งศูนย์ประชุมสัมมนาในหัวเมืองเพื่อรองรับตลาดไมซ์ ในหัวเมืองใหญ่ เช่น จ.ขอนแก่น จ. อุดรธานี เป็นต้น แทนที่จะไปลงทุนทำบ้าน คอนโดมิเนียม ที่มีซัพพลายล้นตลาด กำลังซื้อน้อย สู้มาลงทุนทำอสังหาฯ ในรูปแบบใหม่ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นรายใหญ่เท่านั้นที่ทำได้ รายเล็ก รายกลาง มาร่วมกันทำสามารถทำได้ดีไม่แพ้รายใหญ่ ในลักษณะมิกซ์ ยูส ดีเวลลอปเปอร์
ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก อย่าลงทุนเกินตัว
นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้าน กล่าวว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก อย่าลงทุนเกินตัว ให้ระวังสภาพคล่อง เพราะจากภาพรวมตลาดแนวราบลดลงไปกว่า 10% ฉะนั้นการทำโครงการจะต้องมั่นใจว่าสามารถทำเงินได้ไม่ใช่ใช้เงิน และอะไรที่จ้างได้ก็จ้างเพื่อไม่เกิดต้นทุนคงที่ ทั้งนี้เนื่องจากตลาดอสังหาฯ มีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าสมัยก่อน การจะตัดสินใจลงทุนอะไรจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลทั้งแง่ดีมานด์ และซัพพลายก่อนว่ามีมากน้อยขนาดให้และจะเข้าไปจับลูกค้ากลุ่มไหน ต้องมีความชัดเจน ไม่ใช่หว่านแหเหมือนในอดีต
ตลาดคอนโดร่วงเพราะการเปิดตัวน้อยลง
นายธนากร ธนวริทธิ์ กรรมการบริหาร สมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ปีนี้ตลาดคอนโดร่วงเพราะการเปิดตัวน้อยลง แต่ผู้ประกอบการต้องปรับตัว จากเดิมที่อาจเปิดตัวโครงการไตรมาสละ 4 โครงการ ก็ต้องลดลง แนวทางการทำตลาดต่อจากนี้ผู้ประกอบการควรจะเร่งระบายสินทรัพย์ให้เป็นเงินสดให้ได้มากที่สุด และไม่ควรทำโครงการขนาดใหญ่เกินกว่า 300ยูนิต มิฉะนั้นลำบากในการระบายสินค้า หลังจากนี้ไปจะเหลือแต่เรียลดีมานด์ ที่เกิดจากกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง กับกลุ่มที่ซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่เป็นนิวมิลเลียนแนร์
ยอดโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ ทั้งประเทศลดลง
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า ปี 2562 ยอดโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ ทั้งประเทศลดลง 7.7% เป็นคาดการณ์ที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงต้นปีที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 15% เนื่องจากมี 2 มาตรการรัฐเข้ามาสนับสนุนภาพรวมยอดโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ ทั่วประเทศในไตรมาสแรกปี 2562 พบว่ามียอดโอนเพิ่มขึ้น 3.1% เพราะมีการเร่งโอนก่อนที่มาตรการคุมเข้มสินเชื่อ (LTV) มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ส่วนไตรมาส 2 ประเมินว่ายอดโอนจะลดลง 13.8%ไตรมาสที่ 3 ลดลง 9.2% และไตรมาสที่ 4 ลดลง 9.6% ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่ายอดโอนทั้งปีจะติดลบ 10.2% โดยครึ่งปีแรกจะลดลง 4.8% ส่วนครึ่งปีหลังลดลง 14.9% ในช่วงที่ผ่านมามีการชะลอเปิดตัวโครงการ เพื่อระบายสต็อกในกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งผลให้นักพัฒนานอกตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มเข้ามาพัฒนาโครงการเข้ามาแข่งขันมากขึ้นกว่าปีก่อน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ
ธอส. ใจดีปล่อย สินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้น
ดับฝันคนกู้บ้าน ธปท.ยันไม่ระงับ มาตรการ LTV ในเร็วๆนี้