คูน เอสเตท และ AISL ปลื้ม!
ปิดยอดจอง VIP Sale ไฮด์พาร์ค การ์เด้น วิภาวดี เฟสแรก 50% รวม 1,400 ล้านบาท พร้อมเปิดบ้านตัวอย่าง Pre-sale 6-8 ตุลาคมนี้ ตั้งเป้าปิดการขายเฟสแรกภายใน 3 เดือน
#KOONxAISL #hydeparkgarden #hydeparkgardenvibhavadi #1FamilyCommunity
2 ตุลาคม 2566 – คูน เอสเตท จำกัด (Koon Estate) และ Asia International School Limited (AISL) ผู้บริหารการศึกษาโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ในระดับภูมิภาคเอเชีย เปิดบ้านตัวอย่าง โครงการ ‘ไฮด์พาร์ค การ์เด้น วิภาวดี’ บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ติดโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพฯ มูลค่าโครงการกว่า 6,500 ล้านบาท มั่นใจตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ยอดจองรอบ VIP Sale เฟสแรกทะลุเป้ากว่า 50% รวม 32 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท ตั้งเป้าปิดการขายโครงการภายใน 3 เดือน พร้อมเปิดบ้านตัวอย่าง Pre-Sale 6 – 8 ตุลาคมนี้
นายณัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ กรรมการบริหาร บริษัท คูน เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัวโครงการ ไฮด์พาร์ค การ์เด้น วิภาวดี บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง คูน เอสเตท กับ Asia International School Limited (AISL) ผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ในภูมิภาคเอเชีย จำนวน 10 แห่ง ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าครอบครัวคนไทยที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพฯ ถึงร้อยละ 90 โดยจุดเด่นของโครงการอยู่ที่ทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนฯ และมีทางเดินเท้าเชื่อมเข้าสู่โรงเรียนโดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่ อีกทั้ง ที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบายโดยทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) และรถไฟฟ้าสายสีแดง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งสนามบินดอนเมือง สนามกอล์ฟ ห้างสรรพสินค้า และ Neighborhood Mall นับเป็นคอมมิวนิตี้ต้นแบบเพื่อการศึกษาและการใช้ชีวิตอย่างลงตัว เหมาะสำหรับทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือการลงทุนในระยะยาวอีกด้วย
ปัจจุบัน มียอดจองเฟสแรก 50% รวม 32 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งโครงการประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 3 ขนาด แบ่งเป็น Type M, Type L และ Type XL เริ่มต้นที่ 73 – 166 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 38 – 81 ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอย 412 – 880 ตารางเมตร ออกแบบในคอนเซปต์ Modern Tropical นำสมัยแต่ยังให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทกับการวางบ้านหันทิศเหนือทิศใต้รับลม ไม่รับแดด พร้อมที่จอดรถสูงถึง 5 คันพร้อมระบบไฟรองรับ EV charger และจัดเตรียมลิฟท์ส่วนตัวไว้ภายในบ้าน โดยแบ่งฟังก์ชั่นแต่ละห้องไว้อย่างลงตัวพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถปิดการขายโครงการในเฟสแรกได้ภายในสิ้นปี 2566 นี้
นางสาววัลเลอรี่ ชิวชร์ ผู้อำนวยการ Asia International School Limited (AISL) กล่าวว่า โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพฯ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะโรงเรียนนานาชาติชั้นนำของประเทศไทย และได้รับรางวัล “Best Top International School” in Thailand จาก The Asian Parent Awards ด้วยประสบการณ์การพัฒนาโรงเรียนที่ผ่านมา ทำให้เข้าใจถึงสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยนอกโรงเรียนที่มีความสำคัญเทียบเท่ากับการศึกษา เราจึงต้องการสร้างต้นแบบ Family Community เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี และเอื้อให้เกิดประโยชน์ทางด้านการศึกษา เราจึงนำประสบการณ์การพัฒนาโรงเรียน มาร่วมพัฒนาเป็นฟังก์ชั่นบ้านและสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการฯที่ตอบโจทย์ผู้ปกครองและเด็ก อาทิ คลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่มีฟังก์ชั่นให้สมาชิกครอบครัวใช้งานได้จริง สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือยาว 25 เมตรพร้อมสระเด็ก สวนขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 5 ไร่ และถนนเลนพิเศษสำหรับจักรยานเพื่อเด็กๆสามารถขี่จักรยานไปโรงเรียนผ่านทางพิเศษที่เชื่อมกับประตูโรงเรียน ห้องออกกำลังกาย สตูดิโอสำหรับคลาสโยคะ พิลาทิส และบัลเลต์ ห้องประชุม พื้นที่อ่านหนังสือ ห้องสำหรับจัดปาร์ตี้ และห้องซ้อมดนตรี เป็นต้น
นายชาญวิชญ์ พสุวัต หัวหน้าแผนกพัฒนาการออกแบบโครงการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก กล่าวว่า “ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ขึ้นไป มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าอัตราการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้น 205% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2565 โดยเฉพาะทำเลกรุงเทพฯ ตอนเหนือ พบว่าเพียงครึ่งปีแรก มีอัตราการเปิดตัวโครงการใหม่สูงขึ้นถึง 81% เมื่อเทียบกับตัวเลขทั้งปีของปี 2565
สำหรับทำเลกรุงเทพฯ ตอนเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำเลย่านวิภาวดีรังสิต/ดอนเมืองถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพ และมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นทำเลที่ได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางคมนาคมทางรถยนต์ รถไฟฟ้า และอยู่ใกล้กับสนามบิน โดยเฉพาะสนามบินดอนเมืองที่มีแผนการขยายสนามบินระยะที่ 3 อีกทั้งยังมีโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการฯ จากแผนพัฒนาดังกล่าวล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ขยายตัว อีกหนึ่งดัชนีชี้วัดความมีศักยภาพของทำเลนี้คือ ราคาประเมินที่ดินในปัจจุบันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นถึง 25% ในขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นเพียง 2.8%
จากการที่ CBRE ได้ทำการตลาดและการขายบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ที่ผ่านมา พบว่าผู้บริโภคมีความต้องการบ้านเดี่ยวในทำเลกรุงเทพฯ ตอนเหนือเป็นอย่างมาก แต่ทำเลดังกล่าวมีการเปิดตัวโครงการเพื่อขายน้อยมากเมื่อเทียบกับทำเลที่อยู่อาศัยอื่นๆ เนื่องจากที่ดินส่วนใหญ่ได้ถูกพัฒนาไปในทางคอมเมอร์เชียล หรือเป็นสถานที่ราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ในปีนี้มีเพียงโครงการ ไฮด์พาร์ค การ์เด้น วิภาวดี ซึ่งถือว่าเป็นโครงการแรกที่มีจุดเด่นในแง่ของการออกแบบบ้านเพื่อตอบสนองความต้องการบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ในทำเลนี้ ที่มีทั้งความสวยงามทันสมัย และเน้นในเรื่องพื้นที่ใช้สอยได้อย่างดีเยี่ยม ให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ได้อย่างลงตัว อีกทั้งการคัดเลือกวัสดุอุปกรณ์เกรดพรีเมี่ยม รวมถึงการออกแบบส่วนกลางที่หลากหลายและเน้นประโยชน์สูงสุด ใช้งานได้จริงและตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย การที่ทำเลดังกล่าวมีสินค้าออกมาน้อยในขณะที่ความต้องการมีอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้อัตราการขายโครงการในทำเลวิภาวดี/ดอนเมืองนี้สูงถึง 100%”
นายชาญวิชญ์กล่าวเสริมว่า “นอกจากเป็นโครงการที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์การซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองแล้ว การที่โครงการตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพฯ ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ซื้อในแง่ของการลงทุนอีกด้วย เพราะมีตลาดเช่าที่พักอาศัยจากครอบครัวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีลูกเรียนในโรงเรียนดังกล่าว ตลอดจนตลาดขายต่อที่คล่องตัวกว่าเพราะมีดีมานด์ใหม่ๆเข้ามาทุกปี ด้วยปัจจัยต่างๆที่กล่าวมาส่งผลให้โครงการมีความโดดเด่นท่ามกลางตลาดบ้านลักซ์ชัวรี่ที่มีการเปิดตัวกันอย่างคึกคักในปีที่ผ่านมา”
โครงการ ‘ไฮด์พาร์ค การ์เด้น วิภาวดี’ เตรียมเปิดโอกาสให้จองในงานพรีเซลล์วันที่ 6 – 8 ตุลาคม 2566 พร้อมข้อเสนอพิเศษ สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถลงทะเบียน และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line @hydeparkgarden หรือโทร 082 491 6166
สำหรับสื่อมวลชน กรุณาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โซกู๊ด คอนซัลติ้ง จำกัด
ปาริฉัตร ช่างเรือ (แอม) [email protected], 095 459 5955
ปิยพงศ์ บรรพปกรณ์ (เอ็ม) [email protected], 081 296 3969