สวัสดีค่ะกลับมาพบกันอีกครั้งนะค่ะวันนี้เรามีการ จัดห้อง สุดเท่ของคุณ เบชิต้าน้อย แห่งดาวนาแมกซ์ สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com โดยจัดห้องได้แนวสุดและที่สำคัญราคาถูกมากกับความสวยที่สุดยอดมากๆเอาละค่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ
[DIYห้องนอน+ไม้พาเลท] เมื่อลงมือทำห้องนอน Industrial Loft ด้วยตัวเอง | ความดิบ..ที่นอนได้ ในราคาหมื่นกว่าบาท!!
หลังจากที่รอมานาน ในที่สุดก็ว่างเขียนกระทู้แรกกับเค้าสักที ปกติเป็นคนเขียนเล่าอะไรไม่ค่อยเก่ง แฮ่ๆๆ
แต่วันนี้อยากจะเล่าเพื่อแบ่งปันวิธีตกแต่งห้องนอนแนว Loft ง่ายๆด้วยตัวเองกัน เผื่อใครจะเกิดไอเดียเอาไปใช้ได้บ้างฮะ~
ไปเริ่มกันเลย..
ห้องนอนของผม มีขนาดแค่ 3.50เมตรx3.10เมตร มีกระจกบานเลื่อนบานใหญ่สองฝั่ง และมีผนังสูงถึง 3.20เมตรเลยทีเดียว…
สูงมาก*.* ตอนเห็นห้องนอนครั้งแรกทำเอาคิดหนักเลย เพราะถ้าวางตู้ก็ไม่เข้า สั่งตัดตู้ก็ราคาแพงเว่อวังมาก คงไม่ไหวแล้วกลัวได้แบบธรรมดา ไม่ถูกใจวัยใสแบบผมอีก …ก็เลยเอาฟร่ะ ลุย! ทำเองนี่แหละ แล้วความบันเทิงก็เริ่มต้นขึ้น…
ขั้นตอนแรก
พยายามหาแนวทาง สไตล์ห้องที่ต้องการ และแล้วก็มาจบที่แนว Industrial Loft ซึ่งโจทย์ในการทำห้องครั้งนี้ของผมมีไม่เยอะ แค่
1.เป็นห้องที่ดูโล่ง และไม่มีตู้เสื้อผ้า
2.มีความเป็น Showroom เหมือนร้านเสื้อผ้า
3.ต้องมีที่วางรองเท้าที่โชว์ได้ ฮี่ๆๆๆๆๆ *อันนี้สำคัญมากเพราะผมเป็นคนชอบรองเท้า ที่จริงอยากทำตู้เก็บรองเท้าแบบคุณเวย์ไทเทเนี่ยม แต่คิดที่ห้องแสนจะเล็ก ฮรือออออ*
4.ต้องเป็นห้องที่มีความดิบหน่อย เก็บกดมานาน ฮ่าๆๆๆ ตั้งแต่เล็กจนโตย้ายบ้านบ่อยมาก ทุกครั้งที่ย้ายก็ทำบ้านซื้อเฟอร์ใหม่หมด แล้วห้องนอนก็จะเป็นแนวติดวอลเปเปอร์เรียบๆอบอุ่น เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดก็สั่งเป็นเซตเข้ามาเลย…… ซึ่งจะตามใจตัวเองมากก็ไม่ได้ฮะ ต้องอิงความเห็นของพ่อกับแม่ด้วย แต่ครั้งนี้เป็นไงเป็นกัน!! จะทำห้องนอนขัดใจผู้ใหญ่ 55555
5.ต้องทำได้จริงในงบประมาณที่ไม่เกิน 20,000 บาท (ไม่ใช่อะไรนะฮะ ตั้งงบห้องนอนไว้แค่นั้น ถ้าทำเองแล้วแพงกว่าซื้ออีเกียร์มามิกซ์ก็ไม่ไหวม๊าง แฮ่ๆๆๆๆ)
เมื่อคิดได้แล้วปฏิบัติการก็เริ่มขึ้น เริ่มจากวัดขนาดส่วนสูงจริงของห้องทั้งหมดทุกด้าน แล้วเริ่มที่งานผนังก่อนเลย มาดูห้องตอนแรกกันฮะ
เนื่องจากผนังที่ผมเลือกตอนแรกคิดในใจแค่อยากได้ปูนดิบกับผนังอิฐแดง แต่ก็แอบกังวลเพราะ ทั้งชีวิตเคยอยู่แต่ห้องที่ติดวอลเปเปอร์ -.- เลยไปเดินส่องดูลายวอลเปเปอร์ที่เป็นปูนเปลือยตาม Home Pro ก็เจอที่ถูกใจบ้างแต่ก็ดุดัน มีความโหด ความเถื่อนมากไปหน่อย 5555
เลยตัดสินใจเรียกวอลเปเปอร์เจ้าประจำมาที่บ้านก่อน พอเปิดดูก็เจอลายผนังอิฐตรงปนังโชว์ที่ถูกใจได้อันนึงละ
ทางร้านก็แนะนำให้ผมติดสีพื้นด้วยแต่พอดูแล้วหาที่ถูกใจไม่ได้…
แว่บนั้นในสมองก็แล่นสั่งการว่า “ไม่ ถ้าไม่ถูกใจห้ามสั่ง แค่ผนังปูนเองง่ายจะตาย” ผมเลยสั่งวอลเปเปอร์ลายไปอย่างเดียว ซึ่งทางร้านจะมาติดให้ในอีก 3 วัน แต่เค้าขอว่าก่อนจะมาติดเราต้องทาผนังให้เรียบร้อยก่อน
และแล้วงานของผมก็เริ่มต้นขึ้น~~!
| ส่วนของงานทาสีผนังให้เป็นปูนขัดมันนั้น… |
เพราะงานผนังเปลือยเป็นอะไรที่ผมไม่เคยทำมาก่อน เลยแวะไปที่พึ่งเดิม Home Pro แล้วก็ได้พบสีที่น่าทึงตัวนึง คือ สีลวดลาย Nippon Momento Elegant ผมจึงเลือกซื้อมาซึ่งห้องของผมมีส่วนผนังที่จะต้องทาไม่ถึง 30 ตร.ม. เลยซื้อสีมา 2 แกลอน (1แกลอน : 15-20 ตรม.) พนักงานเค้าบอกมาครับ ^^ ซึ่งในส่วนของงานผนังปูนเปลือยนี้ ผมได้ซื้อทั้งหมด 3 อย่างคือ
-สีรองพื้นปูนเก่า Primer
-สีทาพื้นผิว Nippon Momento Elegant : Sparkle Silver (สีตัวนี้ตอนเห็นในชาร์ตสี กลัวมันอ่อนไปพนักงานเลยใส่แม่สีดำเพิ่มไปให้ ฮี่ๆๆ แหล่มกบเลย)
-เคลือบเงา Clear Coat
ได้เวลาทำงานสี เริ่มด้วยทาสีรองพื้นปูนเก่าเพื่อให้สีที่ทาติดทนนาน
ทาเสร็จทิ้งไว้ 40 นาทีแล้วทาซ้ำอีกรอบแล้วก็นอนผึ่งพุงรอยาวไป 3 ชั่วโมง แล้วต่อด้วยทาสีสร้างลวดลายกันเลย
ตัวสีเป็นสีพร้อมใช้เลย ขั้นตอนก็ไม่ยากแค่….
เอาแปรงจุ่มสี แล้วทาบนผนัง (*ขั้นตอนที่สำคัญสุดสำหรับลายต่างๆ ถ้าต้องการให้ลายไปในทางไหนให้วาดในขั้นตอนนี้ไปเลย~)
ทาได้พื้นที่ประมาณ 1 ตร.ม. ก็เอาเกียงพลาสติกที่แถมมาปาดกลับไปมาได้เล๊ยยยย สีจะอ่อนจะเข้มก็อยู่ที่ขั้นตอนนี้ ถ้าต้องการสีอ่อนก็ปาดเยอะๆ (**สีจะยิ่งเทา แต่ผมไม่อยากได้สีเทาอ่อน เลยปาดแค่เล็กน้อยพอกรุบกริบ ^^)
ทาไป ฟังเพลงไปเพลินๆ เกือบเสร็จผนังนึงแล้ววววว เฮ่ กว่าจะทาแล้วให้ลายได้อย่างใจ พอทาเสร็จความเก่งก็มา ฮ่าา
เมื่อทาครบทั้ง 2 รอบแล้วก็เป็นอันเสร็จ(สำหรับวันนี้) เฮ้ออออ ออกมาเฟี้ยวฟ้าว กระดิ่งแมวอย่างใจคิด TT.TT ปริ่มมาก
เอาหละเช้าวันถัดไป ผนังแห้งสนิทแล้ว(จะเป็นเหมือนสีทาแบบด้านๆ) ถึงเวลาทาเคลือบสี เพื่อให้สีดูเงาดูเป็นปูนเก่าที่สะอาดสะอ้าน และทนทานมากขึ้น ลื่นปรึ๊ด ลื่นปรึ๊ดดด
เนื้อสีเคลียร์โค้ด จะเป็นสีขาวขุ่นๆ แต่พอทาไปแล้วจะแห้งและใสไปเอง ผมทาไปเต็มพื้นที่ 2 แกลอน ทาได้ 3 รอบเลยน๊า เงาแว๊บ มันแพล่บเลย~
รวมใช้เวลาทาสีผนังทั้งหมด 2 วัน ทันเวลาที่ช่างจะมาติดวอลเปเปอร์พอดี
ครบ 3 วันช่างก็มาติดวอลเปเปอร์ลายที่สั่งไว้ ตื่นเต้นมากว่ามันจะออกมาเป็นยังไง ><
**เหตุผลที่ติดเป็นวอลเปเปอร์แทนการใช้อิฐจริง เพราะคิดว่าถ้าทำผนังอิฐเรียงกันที่ผนัง เนื่องจากเป็นกำแพงสูงจะทำความสะอาดยาก และอาจจะสะสมฝุ่น เลยต้องตัดใจเลือกเป็นวอลฯแทนฮะ**
ช่างมาติดแบ้ววววว กำลังติดกันท่ามกลางอากาศที่ร้อนราวอยู่กลางทะเลทราย ฮี่ๆๆ
เฮ้ๆๆๆ ติดแล้ว หน้าตาก็ออกมาประมาณนี้เลย… ง่อวว สวยถูกใจมาก T.T
การทำห้องที่แท้จริง..ได้มาถึงแล้ว!!! ว่ะฮ่าๆๆๆๆ พอเห็นงานแล้วจะร้องไห้ดีมั้ย…TT.TT
ก่อนอื่นต้องทำการร่างแบบและคิดคร่าวๆเกี่ยวกับ รูปแบบ อุปกรณ์ วัสดุต่างๆที่ต้องใช้ รวมทั้งแหล่งจัดซื้อต่างๆ
อันนี้คือแบบที่ผมร่างไว้คร่าวๆด้วยดินสอ(ไม่ถนัดการใช้โปรแกรมแบบคนอื่นเค้า เลยต้องพึ่งวิธีเบสิก55) อาจจะเน่าไปหน่อย เขินจุง
การร่างแบบสำคัญมาก กับการสั่งของต่างๆ ผมเลยวาดค่อนข้างละเอียด เพื่อกำหนดขนาดของที่จะต้องสั่งได้ครบถ้วนถูกต้อง
งานเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกทำครั้งนี้ เป็นแบบดิบๆที่ทำจากท่อแป๊บเหล็ก ผสมกับไม้(พาเลทนอก)
| ส่วนของงานท่อแป๊บนั้น… |
ท่อที่เลือกใช้คือ ท่อกัลวาไนซ์ ขนาด 1/2นิ้ว หรือ 4 หุน ท่อคาดฟ้า | ผมว่ามันทำด้วยตัวเองได้ง่ายๆเลยนะ แต่ที่จะยากคือการหาร้านที่จะรับทั้งตัดท่อแป๊บและต๊าปเกลียวด้วยซึ่งมันเป็นงานจุกจิก ร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไปไม่ค่อยรับ และยิ่งตอนนี้เฟอร์แนวนี้เป็นที่นิยม ร้านค้าต่างๆที่รับตัดเหล็กเลยพากันทำในราคาที่แพงหูฉี่มากกกกก จนงงว่า “อะไรกันแค่ตัดแป๊บเหล็กเนี่ยนะ??”
**ไม่มีส่วนได้เสียกับร้าน** แต่อยากให้กำลังใจคนขยัน และไม่คิดราคาโหดเกิน สำหรับเรื่องอุปกรณ์เกี่ยวกับท่อแป๊บและของตกแต่งลอฟ ไปดูได้ที่ http://www.jaewjaow.com เจ้าของร้านคุยง่าย กระตือรือร้นมากฮะ 555
ตอนหาร้านก็ถอดใจไปมาก เพราะส่งไลน์ไปถามมาสองเจ้าราคาโหดเหี้ยมมั่ก แค่ตัดเหล็กที่รวมความยาว 11 เมตร เค้าคิด 8,000 บาท+ต๊าปเกลียวแพงมากฮะ เหมือนโชคดีของผม ที่เสิร์ชกูเกิ้ลไปเจอร้านนึงที่เค้ารับตัดแป๊บตามขนาด พร้อมต๊าปเกลียวด้วยเลยไลน์ไปถามราคา เจ้าของร้านดีมากครับ นับเป็นเจ้าแรกที่ตอบผมเร็วมาก และกระตือรือร้นแถมราคา ตัดเหล็ก+ต๊าปเกลียว+น็อตและข้อต่อต่างๆ = 3700 บาท + 278 บาท(ค่าส่ง)เท่านั้นเอง แถมถ้าสั่งปุ๊บพรุ่งนี้รอรับของที่บ้านได้เลย บริการเร็วอย่างกับนั่งมอไซต์ไปปากซอย
ได้เหล็กแป๊บมาแล้วก็จัดแจงพ่นสีเหล็กให้เป็นสีดำ **ก่อนพ่นสีจริงและสีรองพื้น ควรทำความสะอาดเหล็กด้วยน้ำสบู่/ผงซักฟอก** จากนั้นก็พ่นสีรองพื้น ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วพ่นสีจริง
พ่นสีรองพื้นสีเทา เกร๋ๆ
แห้งแล้วก็พ่นสีดำด้านทับไปโล๊ดดดดด หล่อๆ
ประกอบตามแบบที่ร่างไว้
เสร็จแล้วไปประกอบติดผนังกันเลย >////< 】ลุ้นมากๆ ว่าจะออกมาได้ตามแบบรึเปล่า
ไข ไข ไข ไข ไข อัดให้แน่น แล้วก็ตู้มมมม กลายเป็น ราวติดผนัง
วันนี้ติดเฉพาะราวที่ไม่ต้องมีไม้เป็นส่วนประกอบไปก่อน ฮี่ๆๆ มี 3 ราว
ราวที่ 1
ราวที่ 2
ราวที่ 3
คราวนี้มาต่อกันที่งานไม้(พาเลท)กันเลย
| ส่วนของงานไม้พาเลทนั้น… |
ไม้พาเลทที่ผมเลือกใช้หาซื้อจากร้านแถวๆบ้าน ย่านบางนา-ตราด กม.20 ร้านนี้เสิร์ชเจอในกูเกิ้ลอีกเช่นกัน ฮี่ๆๆๆๆ แฟนพันธุ์แท้กูเกิ้ล //0//
ร้านนี้เค้าโฆษณาว่าไม้พาเลทเกรทเอ เนื้อขาว ซึ่งราคาก็ไม่แพง ราคามาตรฐานอยู่ที่ 180 บาทต่ออัน ในร้านมีหลายขนาดให้เลือก
ผมเลือกซื้อมาสองแบบ แบบแรกเป็นพาเลทนอกยุโรปขนาด 80×120 ราคา 180 บาท 8 อัน(**ใช้ทำเตียงนอน) และอีกอันเป็นพาเลทญี่ปุ่น(**เอามาทำโต๊ะ) ขนาด 86×135 ตัวนี้ถูกมากและเนื้อสวยมากๆราคาแค่ 100 บาทเท่านั้นเพราะเป็นขนาดที่ไม่นิยมกัน เลยเอามา 1 อัน พร้อมกับซื้อไม้แกะแล้วแบบยกมัด 10 แผ่นขนาด 10×120 มาอีก 1มัดในราคาแค่ 100 บาท รวมเสียกะค่าพาเลทไปแค่ 1,640 บาทเท่านั้นเอง แหล่มกบ
ไม้กองเต็มบ้าน ฮ่าๆๆ
อันที่เป็นไม้สีเข้มมีตราปั้มสวยๆคือของญี่ปุ่น(ทางร้านว่างั้น) ที่จะเอามาทำโต๊ะวางของ วางคอมฯ
เริ่มจากงานยาก งานละเอียด ขัดเสี้ยนด้วยกระดาษทรายเบอร์ 5
ที่ไม่ยอมใช้เครื่องขัดเพราะคิดว่าแค่นิดเดียวเอง เหอๆๆๆๆๆๆ ไม่เคยใช้แรงมานานพอมาทำอะไรแบบนี้ถึงกับปวดตัว
..ตอนขัดชิลมาก…วันถัดไปเกือบตาย!!! ฮ่าๆๆๆ
**แหง่ววววว บรรทัดหมด เด๋ยวมาเขียนต่อฮะ รออ่านกันด้วยน๊า**
รวมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ >> กระดาษทรายหยาบ และละเอียด , สีย้อมไม้ , แปรงขนอ่อน และแรงงานตัวเอง แง่ะ -.-
หลังจากขัดเสี้ยนแล้วก็สวยวิ้ง เห็นลายไม้ชัดเจนสวยขั้นระดับซุปเปอร์!! ทึ่งตัวเองทำไปได้
ขั้นตอนต่อไปก็ละเลงสีย้อมไม้กันเลย ผมทำตามวิธีที่ข้างแกลอนแนะนำเลย คือต้องทารอบแรก ทิ้งให้แห้งแล้วขัดด้วยกระดาษทรายละเอียด ทาซ้ำรอบ 2 แล้วขัดด้วยกระดาษทรายอีกรอบ ส่วนรอบที่ 3 หรือรอบสุดท้ายแค่ทาแล้วปล่อยให้แห้งสนิท ก็จะได้เนื้อไม้ที่ปริ้งปรั้ง ฟรุ้งฟริ้ง อย่างกับไม้เฟอร์นิเจอร์ทั่วไปเลยทีเดียว
เวลาทาจะเห็นความต่างของสีไม้ชัดเจนมากฮะ ยิ่งทายิ่งฟินนนนน ทำไปยิ้มไป…. ท่าทางจะไม่เต็มฮะ 5555
พอชัดเสร็จหมดแล้ว ได้เวลาแยกมาทำโต๊ะอเนกประสงค์
| ในส่วนของการทำโต๊ะอเนกประสงค์นั้น… |
อุปกรณ์ในการตัดไม้ก็ไม่ได้ยากเกินไป แต่ทุกอย่างก็ใหมหมดสำหรับผม 55555 ตอนแรกคิดหนักว่าจะเลื่อยยังไงไม้มันก็แอบแข็ง แต่บังเอิญพ่อบอกว่าที่บ้านมีลูกหมูที่เปลี่ยนใบไว้ตัดไม้ได้ ก็สนุกสิฮะงานนี้ ฮี่ๆๆๆๆๆๆ ครั้งแรกในชีวิตที่จับลูกหมูตัดไม้…
เริ่มด้วยการตัดแบ่งไม้พาเลทออกเป็น 2 ส่วน แล้วเก็บงานขัดไม้ ทาสีย้อมไม้กันอีกรอบ
ทากาวลาเท็กซ์ไม้ ให้ทั่วในบริเวณที่จะประกบไม้เข้าด้วยกัน
ประกบไม้เสร็จแล้วก็จะได้แบบนี้เลย~~~~ สวยอย่างที่คิดไว้เลย
ตั้งใจจะให้โต๊ะตัวนี้เลื่อนไปมาได้ เลยต้องเพิ่มล้อเข้าไปซะหน่อย ไขกันยาวไป 55555
เพิ่มความเก๋ไก๋สไลเดอร์ของโต๊ะด้วยตัวล็อค “สายยู” ราคาแค่ 13 บาทเอง!!! ข้อดีอีกอย่างของการติดสายยู ก็เพื่อให้ไม้ติดกัน ไม่เคลื่อนตัว
เสร็จเรียบร้อยหน้าตาแบบนี้เลย หล่ออย่าบอกใครเลยใช่มั้ยล่ะฮะ ^___________^
จบไปอีกหนึ่งชิ้นที่แสนจะภูมิใจ
มาต่อที่ส่วนของแผ่นไม้ ชั้นวางของที่จะใช้ไม้พาเลทขนาด 10×120 มาต่อกัน ซึ่งการต่อของผมก็แสนจะง่าย 5555 แค่เอาไม้ประกบเป็นคานด้านใต้ 2 ฝั่งหัวท้าย
แล้วยึดไม้เข้าด้วยน็อตตามมีตามเกิด -.-” มีน็อตแบบไหนก็ใช้แบบนั้นฮะ แฮ่ๆๆๆ
หลังจากยึดไม้แล้วก็ ขัดและทาสีย้อมไม้ไปตากแดด (อีกแล้ว)
เจาะรูไม้ตามขนาดท่อแป๊บ อุปกรณ์ในการเจาะไม้หาซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไปราคาไม่แพงครับ ไม่เกิน 200-300 บาท ซึ้อแล้วคุ้มฮะ
เป็นรูปกลม น่ารัก สวยงาม แต่ดำไปหน่อยเพราะเวลาสว่านเจาะมันร้อน ไม้งี้ไหม้เป็นควันขึ้นมาเลย
ได้เวลานำไปประกอบเข้ากับตัวท่อแป๊บ ตามขนาด ตามแบบต่างๆ มาได้เกินครึ่งทางแล้ว เฮ้ๆๆๆ
ประกอบแล้วอย่ารีรอครับ ไปติดตั้งกันเลย….. เห่อมากกก
เวลายึดติดกำแพงต้องให้พี่มาช่วยครับ เค้าถนัดด้านเจาะ
ยึดราวฝั่งผนังเสร็จหมดแล้ว รวมทั้งดาร์ดบอร์ดแสนรัก ฮี่ๆๆๆ
จากนั้นก็ยึดชั้นวางหมวกบนหัวเตียง แหล่มกบไปเล๊ยยยยยย ไม่ได้ถ่ายตอนทำไว้แต่อันนี้ไม่ยากครับ แค่วัดแล้วเจาะง่ายๆ
สภาพหลังจากที่ติดชั้นวาง ยกไม้พาเลทมาวางเป็นเตียง และเอาโต๊ะอเนกประสงค์ขึ้นมาไว้บนห้องแล้ว
**รกมากไปหน่อยพอดีว่าตั้งแต่ย้ายบ้านและทำห้องมาก็ ย้ายตัวไปแทรกนอนตามหลืบตามรูที่ห้องพี่ชายมาตลอด แฮ่ๆๆ อายจุง***
แล้วก็มาถึงโค้งสุดท้าย ชิ้นสุดท้ายสำหรับงานตกแต่งครั้งนี้…. มาดูกันว่ามันจะออกมาเป็นอะไรครับ
ก่อนอื่นนำไม้พาเลทที่ขัดไว้ดีแล้วทั้ง 2 อัน มาแยกส่วนเอาขาออกให้หมด เหลือแค่ส่วนด้านหน้าที่เป็นกระดานเอาไว้…
จากนั้นก็นำมาประกบติดเป็นแผ่นเดียวกันด้วยการเอาไม้มายึดตรงกลางรอยต่อ
ต่อเสร็จแล้ว นำไม้ส่วนที่เหลือมาตอกขวางตามร่อง เสียดายมากไม่ได้ถ่ายรูปขั้นตอนนี้เอาไว้ แงงงงงงงงง
เอาหละเมื่อเสร็จทั้งหมดก็ยกไปตั้งบนห้องได้เล๊ยยยยย ปล.ตอนยกควรมีผู้ช่วยเพราะมันหนักจริงๆฮะ ยกสองคนยังเฮือกเลย
สุดท้ายก็ได้เวลาอัดรูปเพื่อมาตกแต่งเพิ่มเติม เพิ่มความสุนทรีย์ในห้องสักหน่อย ผมเลือกอัดรูปจากที่ตัวเองเคยถ่ายมา ผมว่ามันทรงคุณค่าทางจิตใจดีนะ ห้องตัวเองจะมีรูปที่คนอื่นถ่ายมันก็ไม่แนวป่ะ ส่วนกรอบรูปที่ใช้ผมหาขนาดตามที่ต้องการยากมาก จึงได้สั่งตัดกรอบร้านลุงแถวๆบ้าน ซึ่งถูกมากกกกกกกก จริงๆถ้าอยากได้กรอบรูปแนะนำเลยว่าไปสั่งตัดตามร้านเก่าแก่ดีกว่า เค้าไม่ค่อยชาร์จเยอะ แถมบริการดีเป็นเลิศไม่ต้องรอนานด้วยนะ
มาดูรูปที่ผมเลือกกัน
พอใส่กรอบแล้วดูมีชีวิต ดูงามขึ้นอีก50เปอร์เซนต์เลย
เป็นอันเสร็จหมดทุกอย่าง มาดูกันว่าหลังจากจัดห้องแล้วหน้าตาจะออกมาเป็นยังไงบ้าง ตามมาดูกันเล๊ยยยยยย
ผนังฝั่งประตูทางเข้าห้องนอน ชวิ้งงงงงงง
โต๊ะไม้พาเลทที่แสนจะภูมิใจ ได้สั่งตัดกระจกมาวางปิดหน้าเพื่อทำเป็นโต๊ะได้ด้วย
ที่สำคัญวางของแล้วมองเห็นได้อีกต่างหาก เหมาะมากสำหรับคนชอบหาของไม่เจอ 55555
เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครครับ
ในส่วนของราวแขวนเสื้อผ้าแบบเปลือย ตอบโจทย์ที่อยากได้แบบร้านขายเสื้อผ้า
ราวแขวนกางเกงแนวๆ
ชั้นวางซีดี วางหนังสือก็ได้นะ ฮี่ๆๆๆๆๆ
เตียงนอนไม้พาเลท มีช่องว่างสำหรับเก็บของได้ด้วย เป็นไอเทมที่คุ้มค่ามาก
ในด้านฝั่งที่นอน และชั้นวางหมวก อาจมีการต่อเพิ่มชั้นไปในอนาคต ตามปริมาณหมวกที่เพิ่มขึ้น 5555
ชั้นวางรองเท้า(ส่วนนึง)
มาจบสุดท้ายด้วยมุมที่นอนมองเห็นทุกคืน ^__________^ นอนเองก็คิดว่าไม่ใช่ห้องตัวเอง ปลื้มปริ่ม
สุดท้ายสภาพจริงหลังจากใช้วิธีการทุบพุง ยึดคอมพี่ชายมาใช้เพื่อรวมรูปลงพันทิปฮะ 55555
จบแล้วกับการทำห้องนอนกลิ่นอาย Industrial Loft ในแบบของผม ฮี่_________ฮี่
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ เพราะมันยาวมากกกกกกกกกก
หวังว่าจะเป็นไอเดียของผม จะเป็นประโยชน์และเป็นแรงฮึดให้กับคนที่อยากทำห้องด้วยตัวเองกันนะฮะ
การทำห้องด้วยตัวเอง ไม่ยากครับ ผมเองก็ไม่ใช่ช่างไม้ ไม่ใช่ช่างอะไรสักอย่าง เป็นแค่ ช่างมันเต๊อะ 55555 ยังทำได้เลย ขอแค่คุณมีใจรัก มีเวลา และมีความพยายามฮะ!!!
เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆที่กำลังอยากทำห้องเองครับ
Edit :: สรุปห้องนี้ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด อยู่ที่ 18000+ นิดหน่อย ถือว่าคุ้มค่าการลงทุนลงแรงทีเดียวครับ
ค่าวอลเปเปอร์ 5700
ค่าแป๊บเหล็ก 3700+ค่าส่ง 278
ค่าไม้พาเลท 9 อัน 1640 บาท
ค่าชั้นวางหมวกที่ซื้อจากโฮมโปร ไม่เกิน 350 บาท
ค่าปริ้นรูป+กรอบ ประมาณ 550 บาท
ค่าตู้โชว์อีเกีย 1990 บาท
edit : ค่าไพรเมอร์รองพื้น+ค่าสีโมเม้นโต+เคลียร์โค้ดประมาณ 1700 บาทต่อ 1 ชุด ผมใช้ 2 ชุดเท่ากับประมาณ 3400 บาทครับ แต่ทั้งนี้ผมมีส่วนลดเงินสดของ Home Pro อยู่จึงได้ส่วนลดมากกว่าปกติ ทำให้การบอกราคาผิดพลาดครับ ต้องขออภัยอย่างสูง *อิงราคาขายหน้าเว็บต่างๆก่อนนะครับ เนื่องจากผมไม่ได้เก็บบิลไว้ เลยพูดรายละเอียดราคาได้ไม่ชัดเจนนัก
ค่าสีย้อมไม้+เครื่องมือ ประมาณ 850 บาท
ค่าเครื่องมือจิปาถะประมาณ 500 บาท
ค่ากิน…………(ไม่นับ ฮี่ๆๆ)
Industrail Loft ความดิบที่นอนได้ ไม่ยากอย่างที่คิด มาเริ่มสนุกกับการทำห้องกันเถอะ~~~~
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปจาก คุณ เบชิต้าน้อย แห่งดาวนาแมกซ์ สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com
สำหรับท่านใดที่สนใจอยากซื้อ ขายบ้าน คอนโด หรือ ทาวน์เฮ้าส์ มือ1 มือ 2 สามารถเข้าดูได้เลยที่ https://www.dotproperty.co.th/