ชวนส่องแผนธุรกิจอสังหาด้านการปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาฯ ก่อนลุยครึ่งปีหลัง 2563

ผ่านพ้นครึ่งปีแรกของความเปลี่ยนแปลงมาได้สักระยะแล้ว ต้องบอกว่าการเดินทางของวงการอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้นั้น ไม่ต่างกับการออกเรือในช่วงฤดูมรสุมเลยทีเดียว เพราะต้องงัดสารพัดแผนธุรกิจอสังหา ฝ่าคลื่นอุปสรรคลูกใหญ่หลายลูกมาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน และยังต้องมาพบกับพายุลูกใหญ่ในครึ่งปีแรกของปี 2563 อย่างพิษโควิด ที่ต้องแล่นเรือฝ่ามากันแบบประคองตัวสุดๆ เป็นผลให้การเปิดตัวโครงการใหม่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี

         สำหรับครึ่งปีหลัง 2563 เป็นที่น่าติดตามกันต่อไปว่าสถานการณ์เศรษฐกิจที่ดูเหมือนว่าเริ่มจะดีขึ้นแล้ว จะคลี่คลายไปในทิศทางที่สดใสหรือไม่ ซึ่งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายราย ต่างเร่งปรับกลยุทธ์การตลาดอสังหา เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด

ปรับแผนธุรกิจอสังหา สู่ตลาดคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดเผยภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 พบว่ามีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ 5 โครงการ 1,206 ยูนิต มูลค่าการลงทุนเพียง 2,600 ล้านบาท ซึ่งต้องนับว่าเป็นการเปิดโครงการขายใหม่ของคอนโดมิเนียมที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ทำให้คาดการณ์ว่าทั้งปี 2563 จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ไม่เกิน 25,000 ยูนิต

         เหตุผลของยอดเปิดตัวโครงการใหม่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี จนทำให้ติดลบ 40% เนื่องมาจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ มีการปรับแผนธุรกิจอสังหาและกลยุทธ์การตลาดอสังหา ยังเร่งการลดราคาสินค้าเดิมที่มีอยู่ เพื่อระบายสต็อกในมือ โดยบางรายให้ส่วนลดมากกว่า 30-40% พร้อมหยิบยื่นข้อเสนอที่น่าใจหลายด้าน เช่น อยู่ฟรี ผ่อนให้ฟรี สูงสุด 12-36 อดือน หรือ ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งก็ทำให้สถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ สามารถผ่านพ้นอุปสรรคมาได้ เพราะบางโครงการสามารถกระตุ้นยอดขายและ Sold Out ได้ในที่สุด

_pic_1_ (20) (2)

การปรับแผนธุรกิจอสังหาใหม่ ทำให้ยังโตและทำกำไร 13.81%

บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom) บริษัทด้านการวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า ถึงแม้สถานการณ์ในครึ่งปีแรกของปี 2563 ในภาคอสังหาริมทรัพย์จะดูไม่สู้ดีนัก เนื่องด้วยการปรับแผนธุรกิจอสังหาของผู้ประกอบการ ก็ทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก ปี 2563 ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จุดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 29 บริษัท สามารถรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรเฉลี่ยอยู่ที่ 13.81% ซึ่งยังนับว่าสูงกว่าอุตสาหกรรมอื่น โดยมีรายได้รวม 59,207.66 ล้านบาท ลดลง 30.43% กำไรสุทธิ 8,176.88 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 40.68%

เดินหน้าปรับแผนธุรกิจอสังหา รับความต้องการซื้อที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง

ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย นับเป็น Neutral Demand ซึ่งยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหากวิเคราะห์จากกำลังซื้อในไตรมาสแรกของปี 2563 บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom) มองว่า ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย ยังคงมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแนวราบหรือคอนโดมิเนียม โดยรายได้ที่ลดลงของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์โดยเฉลี่ย 30.42% ในไตรมาสแรกนั้น เป็นผลมาจากการที่ไม่สามารถเร่งโอนที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ซื้อต่างประเทศตามแผนดำเนินงานที่วางไว้ และบางส่วนเป็นผลมาจากลูกค้าในกลุ่มนักลงทุน ที่ต้องชะลอการลงทุนในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยการปรับแผนธุรกิจอสังหาในครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มว่าตลาดจะมีความคลี่คลายและเริ่มฟื้นตัว

กลยุทธ์การตลาดอสังหาในยุคนี้ มีปรับตัวเข้าหา New normal

แม้ว่าจำนวนของการเปิดตัวโครงการใหม่มีแนวโน้มว่าจะลดลงถึง 40-50% แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการบางรายยังคงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ในบางทำเลที่มั่นใจ โดยเฉพาะทำเลที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความต้องการซื้อสูงในช่วงนี้ ตามบริบทของพฤติกรรมและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ที่การใช้ชีวิตในบ้านกลายเป็นไลฟ์สไตล์ปกติใหม่ไปแล้ว

         สำหรับสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีแรก 2563 แม้จะผ่านมาอย่างทุลักทุเลจนบางรายถึงกับสะบักสะบอม แต่ก็รอดพ้นคลื่นพายุลูกใหญ่มาได้อย่างสวยงาม เพื่อมาพบกับท้องฟ้าใหม่ที่กำลังค่อยๆ คลี่คลาย ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่า สถานการณ์โรคระบาดนั้นจะคลี่คลาย กลายเป็นฟ้าที่สดใสได้จริงหรือไม่


 

ที่มา:

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/887573

https://www.lpn.co.th/ข่าวประชาสัมพันธ์/ข่าวลุมพินี/lpn-wisdom-วิเคราะห์ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสแรก