DotProperty.co.th

ซื้อบ้านอย่างไร ? ให้ ผ่อนบ้าน ง่าย ๆ สบายกระเป๋าสุด ๆ

ซื้อบ้าน,กู้ซื้อบ้าน,สินเชื่อบ้าน,ผ่อนบ้าน

ซื้อบ้านอย่างไรให้ ผ่อนบ้าน สบายกระเป๋า By K-Expert

ฝันของใครหลายๆ คนที่กำลังเริ่มต้นมีครอบครัว คงหนีไม่พ้นการซื้อบ้าน ซึ่งนอกจากเรื่องของทำเลแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ งบประมาณในการซื้อบ้าน ซึ่งข้อแนะนำในเรื่องการวางแผนสำหรับการซื้อบ้านมี 2 ส่วนด้วยกัน คือ การเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่อ และ ปัจจัยที่ช่วยให้ผ่อนสบายกระเป๋า

ขอเริ่มที่เรื่องแรกก่อน คือ การเตรียมตัวเตรียมใจก่อนขอสินเชื่อ มีสิ่งที่ต้องเตรียม ดังนี้

  1. เตรียม Statement ให้พร้อม เช่น Slip เงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน แต่หากทำอาชีพอิสระค้าขายทั่วไป ไม่มีเงินเดือนประจำ ก็สามารถกู้ได้ โดยต้องเตรียมหลักฐานแสดงที่มาที่ไปของเงินให้ชัดเจน เช่น บัญชีเงินฝากที่มียอดรายได้เข้าสม่ำเสมอ การเดินบัญชีกระแสรายวัน การใช้เช็ค เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นใจในการชำระหนี้คืนได้
  2. รักษาเครดิต ในการขอสินเชื่อต้องมีการตรวจสอบสถานะสินเชื่อและประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาก่อน โดยการตรวจสอบเครดิตบูโร ดังนั้น ควรจะรักษาเครดิตไว้ให้ดี เพื่อมิให้เป็นข้อจำกัดในการขอสินเชื่อได้
  3. เตรียมออมเงินให้เพียงพอ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการซื้อบ้านคือ เงินดาวน์บ้าน และควรกันเงินสำรองฉุกเฉินไว้อีกอย่างน้อย 6 เดือนก่อนกู้บ้าน ยิ่งมีเงินดาวน์มากก็ช่วยลดภาระการผ่อนชำระลง เวลาขอสินเชื่อจะได้ผ่อนอย่างสบายกระเป๋า

หลังจากที่เตรียมตัวแล้ว ถึงเวลาจะผ่อนบ้านให้สบายกระเป๋า มี 4 ปัจจัยที่ต้องคำนึง ดังนี้

  1. เงินดาวน์มีเท่าไร ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดให้ผู้ที่จะซื้อบ้านต้องมีเงินดาวน์ไม่น้อยกว่า 10% ของราคาบ้าน ดังนั้น หากจะซื้อบ้านราคาสัก 3 ล้านบาท ต้องมีเงินเก็บเพื่อเป็นเงินดาวน์อย่างน้อย 3 แสนบาท การเก็บออมเงินดาวน์อาจจะเก็บออมในรูปของกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อให้มีสภาพคล่องและมีผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป
  2. ยอดผ่อนชำระต่อเดือน ปกติแล้วภาระการผ่อนรายเดือนที่ไม่หนักจนเกินไป หรือไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ก่อนภาษี หากรายได้คนเดียวผ่อนไม่ไหว สามารถกู้ร่วมได้ ทั้งนี้ ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด หรือเป็นสามีภรรยา ปกติทั่วไป หากขอสินเชื่อ จำนวน 1 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อน 30 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 7% ต่อปี จะมียอดผ่อนชำระประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน จึงควรลองพิจารณาปัจจัยดังที่ได้กล่าวในเบื้องต้นว่า จะผ่อนบ้านอย่างไรให้สบายกระเป๋ากัน
  3. ระยะเวลาในการผ่อนชำระ ปกติจะผ่อนสูงสุดไม่เกิน 30 ปี และเมื่อรวมกับอายุของผู้กู้แล้ว ต้องไม่เกิน 60-65 ปี (ช่วงอายุเกษียณ) ระยะเวลาผ่อนสั้นยอดผ่อนชำระรายเดือนจะมากกว่าระยะเวลาผ่อนยาว หากมีความสามารถในการผ่อนสูงสามารถเลือกผ่อนสั้นได้เพื่อให้หมดภาระได้เร็วและประหยัดค่าดอกเบี้ยจ่าย
  4. รูปแบบอัตราดอกเบี้ย สถาบันการเงินมักมีทางเลือกให้กับผู้ขอสินเชื่อ ดังนั้นควรเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ เมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และควรเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว เมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง

นอกจากนี้ อย่าลืมพิจารณาเรื่องการวางแผนภาษี เนื่องจากสิทธิสำหรับผู้ที่ซื้อบ้านสามารถนำดอกเบี้ยจ่ายมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท เป็นการบรรเทาค่าใช้จ่ายทางภาษีได้อีกทางหนึ่ง (เพิ่มเงินในกระเป๋ามากขึ้น) ซึ่งชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านหรือคอนโดฯ ก็เป็นเรื่องสำคัญในการวางแผนภาษีด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก K-Expert

                                                                                                                                           

Dot Property เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ซื้อ-ขาย อย่างมืออาชีพ…

ท่านต้องการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่หรือไม่ ลงประกาศขายกับ Dot Property ฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงประกาศง่าย ขายได้ไว
หรือหากท่านกำลังมองหา คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน เว็บไซต์ Dot Property มีให้ท่านเลือกมากกว่า 300,000 รายการ ได้ตรงตามความต้องการ ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย