โดยจะขยายอายุสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 จะสิ้นสุดวันที่ 27 ก.พ. 2563 ออกไป 37 ปี เพื่อลดหนี้ข้อพิพาทที่มีต่อกันมายาวนานทั้งที่ยุติไปแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.3 แสนล้านบาท พร้อมกับปรับสูตรการปรับค่าผ่านทางใหม่ให้ปรับขึ้นทุกๆ 10 ปี ในอัตรา 10 บาท เท่ากับว่าเอกชนจะปรับค่าผ่านทางได้ 2 ครั้ง และแบ่งรายได้ค่าผ่านทางให้กทพ. 60% ตลอดอายุสัญญาสัมปทาน
นอกจากนี้ BEM ยังจะลงทุนร่วม 40,000 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพการบริการและแก้ปัญหาการจราจร เช่น จะสร้างทางด่วน 2 ชั้นจากประชาชื่น-อโศก ระยะทาง 17 กม. วงเงิน 32,000 ล้านบาท สร้างทางขึ้นลงเพิ่ม ลดค่าผ่านบางด่าน “แนวทางนี้เป็นการเซตซีโร่หนี้ และข้อคิดเห็นต่างๆ ที่ไม่ตรงกันมาตลอด ภายในเดือนธ.ค.นี้จะทำเรื่องเสนอไปกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอไปสคร. บอร์ด PPP พิจารณาเนื่องจากเป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน จากนั้นเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป”
ที่มา prachachat.net