DotProperty.co.th

ทำนายแนวโน้ม ธุรกิจอสังหา ล่วงหน้า!!! ด้วยการวิเคราะห์เศรษฐกิจแบบง่ายๆ

มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทจะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ ดังนั้นเราจะดูได้ว่า ธุรกิจอสังหา จะดีหรือไม่นั้น จะสามารถวิเคราะห์จากเศรษฐกิจได้

การวิเคราะห์เศรษฐกิจเพื่อดูแนวโน้ม ธุรกิจอสังหา

คือการวิเคราะห์ต้นตอหรือปัจจัยต่างๆที่จะเป็นผลให้ภาวะเศรษฐกิจดีหรือแย่ในเวลาต่อมา ซึ่งจะสามารถทำนายแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ได้ล่วงหน้า ปัจจัยที่เป็นตัวแปลสำคัญมี 5 ตัวด้วยกัน คือ

1.พิจารณาจากแนวโน้มด้านเศรษฐกิจ ประเด็นที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษได้แก่

2.พิจารณาจากแนวโน้มด้านรัฐบาล

3.พิจารณาแนวโน้มด้านภูมิภาคและท้องถิ่น

4.การวิเคราะห์ตลาด

5.การวิเคราะห์จากทำเลที่ตั้ง

เศรษฐกิจกับอสังหาริมทรัพย์ ประเด็นที่ควรรู้

1.เศรษฐกิจรากฐานกับมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ หมายถึงธุรกิจที่มีอยู่ในท้องถิ่นซึ่งจะบอกเศรษฐกิจของพื้นที่นั้นๆว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นมากน้อยเพียงใด

2.การเปลี่ยนแปลงความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในระยะสั่น ปกติจะเกิดขึ้นจากการมีธุรกิจหรืออุสาหกรรมใหม่ๆเข้าไปตั้งในท้องถิ่น จะทำให้การสร้างอสังหาริมทรัพย์เพื่อตอบสนองความต้องการทำได้ไม่ทัน ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคาของอสังหาริมทรัพย์ สามารถแยกได้เป็นกรณีต่างๆดังนี้

3.การเปลี่ยนแปลงความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว สิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงนี้คือ รายได้และประชากร

วิเคราะห์จากการเปลี่ยนแปลงของประชากร โดยกลุ่มประชากรที่จะมีกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์จะอยู่ในช่วง 30-50 ปี เพราะในประชากกรกลุ่มนี้จะมีรายได้สูงและมั่นคง ดังนั้นถ้าต้องการดูว่าท้องที่นั้นมีความต้องการอสังหาริมทรัพย์มากน้อยเพียงใดต้องรู้ว่าประชากรในบริเวณนั้นมีมากน้อยเพียงใด

4.เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

ดอกเบี้ย คือผลตอบแทนจากการลงทุน เมื่อใดที่เกิดเงินเฟ้อผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยก็จะยิ่งสูงขึ้นเพื่อชดเชยเงินเฟ้อที่สูงขึ้นด้วยนั้นเอง อัตราดอกเบี้ยทุกตัวล้วนมีผลกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น ดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นต้น เราจะมาดูผลกระทบการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในการลงทุนบ้านและที่ดิน ว่ามีกี่กรณีอะไรบ้าง

กรณีแรก : ภาวะดอกเบี้ยต่ำ กล่าวคือ ผู้ซื้อจะมีกำลังในการซื้อเพิ่มมากขึ้น เพราะการผ่อนชำระแต่ละเดือนที่ต่ำตามอัตราดอกเบี้ย

กรณีที่สอง : ภาวะอัตราดอกเบี้ยสูง มักเกิดจากเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นของตลาด ทำให้ค่าเงินลดลง แต่จะเป็นผลดีกับผู้ที่ถืออสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว เพราะทำให้มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้น ส่วนผลร้ายจะตกมาที่ ผู้ถือหุ้น หุ้นกู้และพันธบัตร เพราะอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทำให้ทำให้ หุ้น หุ้นกู้และพันธบัตร มีราคาต่ำลง

เหตุที่ทำให้อสังหาริมทรัพย์มีราคาสูงขึ้น เมื่อดอกเบี้ยสูง คือ

การวิเคราะห์ทิศทางอัตราดอกเบี้ย

วิเคราะห์ทางอ้อมจากการแปรผันหรือปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดอัตราดอกเบี้ย จะประกอบไปด้วย

  1. อัตราดอกเบี้ยจากการลงทุนอื่นๆ ถ้าโอกาสการลงทุนในลักษณะอื่นๆ ได้ผลตอบตอบแทนดี จะทำให้การปล่อยกู้ดอกเบี้ยจะสูง
  2. เงินเฟ้อ เป็นตัวลดค่าเงินเพราะทำให้กำลังในการซื้อลงลด แต่ดอกเบี้ยก็จะสูงตามไปด้วย เช่น ฝากเงินกับธนาคารตอนเงินเฟ้อธนาคารก็จะปรับดอกเบี้ยให้สูงขึ้นเพื่อที่จะให้คนเข้ามาฝากกัน
  3. ค่าชดเชยความเสี่ยงจากการลงทุน คือ ผลตอบแทนที่ผู้มีเงินนำเงินไปฝากหรือปล่อยกู้นั้นเอง
  4. ปริมาณเงินในตลาด หรือก็คือปริมาณการหมุนเวียนเงินในประเทศ ถ้าสถาบันการเงินมีสภาพคล่องตัว อัตราดอกเบี้ยนั้นจะอยู่ในอัตราที่ต่ำ
  5. ปริมาณความต้องการการใช้เงินในตลาด ถ้าปริมาณการใช้เงินในตลาดมีสูง อัตราดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
  6. นโยบายการเงิน จะดำเนินงานโดยธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในปริมาณเงินในประเทศ ถ้าภาครัฐอยากให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ก็จะออกมาตราการการเงินเพื่อให้สภาพคล่องตัว หรือถ้าอยากให้ดอกเบี้ยต่ำลงก็ออกมาตราการทำให้สภาพคล่องในตลาดเพิ่มสูงขึ้น
  7. นโยบายการคลัง ถ้าการเปลี่ยแปลงรายจ่ายของภาครัฐ ดูจากงบประมาณรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น และนโยบายด้านเก็บภาษีอากร เมื่อไหร่ที่รัฐเพิ่มปริมาณรายจ่ายในงบรายจ่าย และมีการเก็บภาษีน้อยลง จะทำให้ปริมาณเงินเพิ่มขึ้นและอัตราดอกเบี้ยจะต่ำลง

ลงประกาศฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย คลิ๊ก …

ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่