สวัสดีค่ะวันนี้เรากลับมาพบกันอีกครั้งโดยวันนี้เราจะขอมาดูแนวโน้ทิศทางภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 61 โดยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากช่วงปี60ที่กำลังจะผ่านไป แล้วอะไรละที่เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี61 นั้นจะดีขึ้นหรือไม่เดี๋ยวเราไปรวมกันดูดีกว่าค่ะว่า ทิศทางแนวโน้ม อสังหา ปี 61 จะสดใสได้มากขนาดไหน
ปัจจัยสนับสนุนให้แนวโน้ม อสังหา ปี 61 ดีขึ้น
โดยปัจจัยสนับสนุนหลักเลยคือ ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศนับว่ามีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น รวมถึงหนี้ภาคครัวเรือนในกลุ่มของลูกค้าระดับกลาง ระดับล่าง ที่มีแนวโน้มการปรับตัวลดลง ได้ทำการช่วยผลักดันให้ภาคอสังหาฯ เติบโตตามไปด้วยด้านภาคการส่งออกที่เติบโตแบบที่ไม่คาดคิด ด้านการท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจของประเทศที่มีแนวโน้มดีต่อไปเรื่อยๆ ทำให้สามารถที่จะสร้างความเช่ือมั่นและยังทำการดึงกลุ่มนักลงทุน ผู้ประกอบการในทุกธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติได้เป็นอย่างดีนอกจากนี้ ปัจจัยเสริมที่จะเกิดในปีหน้านั้นคือกำลังการซื้อที่อยู่อาศัย จะมากขึ้นตามไปด้วยนั้นเอง
ภาพรวมภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 61 จากภาครัฐบาล
หลังจากที่รัฐบาลลงทุนด้านเมกะโปรเจ็กต์ทางคมนาคมในปี 2560 ที่มีมากถึง 43 โครงการ ด้วยเงินลงทุนกว่า 1.77 ล้านล้านบาท โดยสามารถที่จะแบ่ง เป็นโครงการในแผนปี 2560 จำนวน 36 โครงการ ด้วยงบประมาณ 8.96 แสนล้าน และโครงการที่ขยายระยะเวลาจากปี 2559 อีก 7 โครงการ งบประมาณ 8.74 แสนล้านบาททำให้เราได้เห็นผู้ประกอบการมีการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้น
โดยโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ค่อยๆ เปิดตัวโครงการใหม่ขึ้นราวกับดอกเห็ดที่มาพรอมขนาบไปกับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในแต่ละสายตามที่ภาครัฐบาลได้ประกาศ โดยต้องบอกเลยว่าตอนนี้ เป็นเทรนด์ไปแล้ว สามารถที่จะเป็นตัวกำหนดการอยู่อาศัยของครในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง และคนรุ่นใหม่ๆที่ชอบการเดินทางสะดวกสบายและรวดเร็ว นั้นจึงทำให้เหล่าผู้ประกอบการเบนเข็มมาเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวตั้งกันมากขึ้น ราวกับดอกเห็ด แต่ถึงแม้ว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมีปัจจัยบวกก็ตาม แต่ก็ยังประมาณไม่ได้เพราะว่า ปัจจัยด้านลบก้มีให้เราต้องพิจารณาด้วย ได้แก่ซัพพลายที่มีมากจนอาจจะล้นตลาดได้อาจจะส่งผลต่อนักลงทุนที่ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อเก็งกำไร เพราะว่าเมื่อมีซัพพลายมีมาก ก็อาจจะยิ่งเป็นการยากที่จะปรับราคาขึ้น หรืออาจจะไม่ได้กำไรเลยก็ตามค่ะ
อสังหาริมทรัพย์ไทยร่วมทุนนอก มากขึ้้น ?
โดยจากแนวโน้มเทรนด์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการรวมทุนกลับนักลงทุนหลายกลุ่ม รวมทั้งที่ได้ซื้อและควบรวมกิจการก็ยังมีอีกจำนวนมากในปีนี้ จะยังมีต่อเนื่องในปี 61 และจะมีการประกาศความร่วมมือให้เห็นมากยิ่งขึ้น หนึ่งบริษัทอาจจะร่วมทุนกลับนักลงทุนหลายกลุ่มได้อีกด้วย นอกจากนี้ภาครัฐยังคงเดินหน้าประกาศบังคับใช้ภาษีที่ดิน ตามกรอบเวลาที่เคยประกาศไว้นอกจากนี้กลุ่มไหนกู้ไม่ผ่านได้มีการเจรจากับ บตท.หรือบรรษัทตลาดรองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยรองรับผู้กู้ไม่ผ่านให้สามารถกู้เงินซื้อบ้านได้ บริษัทขนาดกลางและเล็กจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น อีกด้วย ทำให้เราสามารถที่จะคาดเดาได้เลยว่าจะได้เห็นโครงการร่วมทุนมากขึ้น และแนวทางไอเดียใหม่ๆที่มากขึ้นอีกด้วย
อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ
โดยเชื่อว่าจะปรับขึ้นไม่ถึง 0.5% เพราะว่าสาเหตุคือรัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการดอกเบี้ยตำเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และดาดเดาว่า ซับพลายที่อยู่อาศัยในตลาดกทม.-ปริมณฑลปี 2561 จะมีจำนวยหน่วยละประมาณ 154,200 หน่วย โดยเราจะแบ่ง โครงการแนวราบคิดเป็น 48.2% หรือประมาณ 74,300 หน่วย อาคารชุดคิดเป็น 51.8% หรือประมาณ 79,900 หน่วย อาคารชุดหรือคอนโดเป็นหน่วยที่มีมากสุด รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ 29.1% และบ้านเดี่ยว 13.6% ส่วนที่เหลือเป็นบ้านแฝดและอาคารพาณิชย์ค่ะ
ทำเลอสังหาฯ 5 จังหวัดปริมณฑลยังขายดีในปี 2561
สำหรับทำเลเด่นที่น่าสนใจในการพัฒนาโครงการในจังหวัดปริมณฑลในปี 2561 นั้นคือต้องอยู่แนวเส้นทางรถไฟฟ้าหรือใกล้พื้นที่พาณิชยกรรมตามแบบในผังเมือง,ใกล้พื้นที่ตามแนวทางด่วนถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก และใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน โดยจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานีและสมุทรปราการเป็นจังหวัดที่น่าลงทุนนั้นก็เพราะว่ามีโครงการเปิดมากสุดเนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้ารวมทั้งผังเมืองรองรับการขยายตัวจากกทม.มานานแล้ว แต่จังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัดที่ยังไม่น่าลงทุนก็เพราะว่าผังเมืองไม่มีค่อยมีสถานที่สำคัญที่ทำให้เกิดชุมชนขนาดใหญ่ นั้นเอง ในส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ที่ส่วนใหญ่เป็นเมืองอุตสาหกรรมมากกว่าไม่ค่อยเติบโต
ดังนั้นทำให้จังหวัดนนทบุรีและสมุทรปราการ เป็นจังหวัดที่น่าสนใจสำหรับจะลงทุนอสังหาริมทรัพย์ นั้นก็เพราะว่า อานิสงส์จากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายและเส้นทางใหม่เช่นกันทำให้มีคอนโดฯเกิดขึ้นมีจำนวนยูนิตที่มากกว่าอีก 3 จังหวัดปริมณฑล โดยอัตราการขายจะเป็น จังหวัด นนทบุรี มีอัตราการขายที่ประมาณ 71% สมุทรปราการ มีอัตราการขายที่ประมาณ 66% ด้านปทุมธานี มีอัตราการขายที่ประมาณ 60% นครปฐม มีอัตราการขายที่ 70% และสมุทรสาคร มีอัตราการขายที่ 73% ค่ะ
สรุปสำหรับแนวโน้มสำคัญที่อาจจะเกิดในปีหน้า
โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดสินค้าใหม่เหมือนเดิมและจะเพิ่มมากขึ้นและมีการร่วมทุนกับต่างชาติมากขึ้น ผู้ประกอบการ กระจายการลงทุน ในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก รวมทั้งการที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติมีมากขึ้นจะทำผู้ประกอบการบางรายมีการนำสินค้าไปขายตลาดต่างประเทศมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้แผนการลงทุนเมกะโปรเจ็คของภาครัฐมีความชัดเจนขึ้น เปิดทำเลใหม่ๆ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟฟ้าสายสีเหลือง
ด้านกลุ่มนัก พัฒนาอาคารชุดจะยิ่งเน้นพัฒนาในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงและการออกแบบพื้นที่ทุกๆส่วนสามารถรองรับการอยู่อาศัยได้จริง ด้านกลุ่มผู้ซื้อเพื่อเก็งกำไร-ลงทุน ลดลง เพราะต้นทุนในการลงทุนสูงขึ้น การปล่อยเช่าได้ยากขึ้น เนื่องจากมีอุปทานออกมาสู่ตลาดมากขึ้น การแข่งขันสูงและผลตอบแทนการลงทุนต่ำลง ด้านผู้ซื้อจะมีตัวเลือกที่หลากหลาย ทั้งราคาที่มีให้เลือกหลายระดับนอกจากนี้เหล่าผู้ประกอบจะเน้นการบริการหลังการขาย เพื่อเอาใจผู้ซื้อ และบอกต่อมากยิ่งขึ้นอีกด้วยแต่ ปัญหาหนี้ครัวเรือนก็จะเพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ส่งผลให้สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อรายย่อยนั้นเองค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างค่ะกับทิศทางแนวโน้ม อสังหาฯปี 61 โดยวันนี้เราก็พอจะคาดเดาได้พอประมาณนะค่ะ แต่ยังไงเราก็คงจะต้องเกาะติดติดตามสถานการณ์กันอย่างต่อเนื่อง เมื่อปีนี้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เราดีขึ้น ปีหน้าก็คาดว่าจะดีขึ้นต่อไปอย่างแน่นอนค่ะ และพบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ
ลงประกาศฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย คลิ๊ก …
ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่