แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะดูเงียบเหงาเพราะกำลังซื้อและผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด 19 แต่สำหรับที่ดินในบางทำเลนั้นกลับมีการซื้อขายกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะที่ดินในทำเลแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย เช่นเดียวกับที่ดินจรัญที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำงินส่วนต่อขยาย บางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งมีเส้นทางพาดผ่านถนนจรัญสนิทวงศ์ตลอดทั้งเส้น ทำให้ที่ดินจรัญร้อนแรง เพราะผู้ประกอบการต่างสนใจที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้ ซึ่งพบว่ามีการขายที่ดินจรัญแบบโละยกแปลงหลายแห่ง
ที่ดินจรัญซื้อขายเดือด ร้อนแรงรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
แต่เดิมบริเวณสองข้างถนนจรัญสนิทวงศ์เป็นอาคารพาณิชย์และตึกแถวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งภายหลังจากการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บางซื่อ – ท่าพระ ก็พบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายแห่งในสองข้างของถนนจรัญสนิทวงศ์นี้ โดนเฉพาะบริเวณช่วงจรัญสนิทวงศ์ 0 ท่าพระ ซึ่งมีประกาศขายที่ดินจรัญ เข่าที่ดินจรัญ หลายแห่ง เช่น แปลงที่ดินจรัญโรงเรียนพณิชยการสยาม ก็ได้มีการประกาศขายที่ดิน เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ราคา 400 ล้านบาท ซึ่งโบรกเกอร์หรือนายหน้าที่ดิน ก็ได้ระบุไปในแนวเดียวกันว่า อาคารพาณิชย์ในบริเวณจรัญสนิทวงศ์ส่วนใหญ่ตอนนี้ มีแนวโน้มว่าจะเปลี่ยนสภาพเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในอนาคต และยังเพิ่มเติมอีกว่าราคาที่ดินจรัญมีการปรับตัวขึ้นถึงปีละ 13% โดยปัจจุบันมีอุปทานคอนโดมิเนียมสะสมในทำเลแล้วประมาณ 50,000 ยูนิต
ที่ดินจรัญย่านไหนมาแรงแซงทุกแปลง
หากระบุว่าที่ดินจรัญบริเวณช่วงไหนที่มีแนวโน้มที่จะมีการขายที่ดินจรัญและเปลี่ยนสภาพจากตึกแถวและอาคารพาณิชย์ เป็นคอนโดมิเนียมในอนาคต คาดว่าจะริ่มจากบริเวณสะพานพระราม 7 – ท่าพระ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอาคารพาณิชย์และตึกแถวทิ้งร้างจำนวนมาก โดยมีการติดป้ายประกาศขายที่ดินจรัญและให้เช่าจำนวนมาก นอกจากนั้นตั้งแต่แยกบางพลัด – บรมราชนนี – แยกไฟฉาย จะพบเห็นความคึกคักเป็นจุด ๆ เพราะเริ่มมีความหลากหลายของไลฟ์สไตล์ ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของแหล่งร้านอาหารและร้านกินดื่ม เพราะใกล้กับสถาบันการศึกษาและศูนย์การค้าหลายแห่ง
นอกจากนั้นผู้ประกอบการยังเริ่มมีการพัฒนาโครงการใหมาในบริเวณใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีสิรินธร โดยบริเวณใกล้กันมีการประกาศขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (โรงเรียนพาณิชยการสยาม ในพระอุปถัมภ์) เนื้อที่ 10 ไร่ ตั้งราคาขายตารางวาละ 1 แสนบาท ขายยกแปลงราคา 400 ล้านบาท ถัดไปไม่ไกลบริเวณหัวมุมแยกบางพลัด มุ่งหน้าไปถนนปิ่นเกล้า มีอาคารตึกแถวหัวมุมที่ได้เปลี่ยนสภาพจากการรีโนเวทใหม่ โดยรีโนเวทเป็นอาคารให้เช่า สูง 3 ชั้น 9 คูหา ค่าเช่า 10,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสำหรับกรณีการประกาศเช่าที่ดินและอาคาร เนื่องมาจากเจ้าของที่ดินและอาคารนั้นไม่ยอมประกาศขาย
สำหรับทำเลสี่แยกไฟฉาย บริเวณจุดตัดถนนจรัญสนิทวงศ์ – พรานนก กลับไม่ค่อยพบเห็นความคึกคักของการซื้อขายมากเท่าไรนัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ในขอบเขตการก่อสร้างอุโมงค์ทางลาดสะพานข้ามแยก ที่ดำเนินการโดยกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งจะมีถนนตัดใหม่ที่สามารถตัดเข้าสู่ถนนวงแหวนตะวันตกและถนนพุทธมณฑลสาย 1-4 ได้ ทำให้ในอนาคตโครงข่ายถนนตรงนี้จะเป็นโครงข่ายการคมนาคมที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งคาดว่าจะพบเห็นการเปิดพื้นที่ใหม่ๆ ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น
ทุนใหญ่เริ่มเซอร์เวย์ตลาด
ทีมข่าวจากประชาชาติธุรกิจ ได้มีการสำรวจที่ดินในทำเลจรัญสนิทวงศ์ โดยได้สอบแถมจากประชาชนในทำเบ พบว่าอัตราค่าเช่าตึกแถวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน โดยช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิด 19 ได้มีกลุ่มนายทุนจากจีนมาสำรวจราคาที่ดินในย่านนี้ ซึ่งภายหลังเกิดวิกฤตก็เงียบหายไป ประชาชนในพื้นที่ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วง 5 ปีก่อน พบว่ามีกลุ่ม ซี.พี. ได้เข้ามาเจรจาขอซื้อที่ดินในทำเลแบบยกแปลง มูลค่าที่ดิน 300 ล้านบาท แต่ภายหลังพบว่าเจรจาไม่สำเร็จ และยังมีกลุ่มศุภาลัยเข้ามาเจรจาซื้อที่ดินในย่านขนาด 2 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม บริเวณใกล้กับแยกไผฉาย ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเริ่มพบเห็นการซื้อขายที่ดินอย่างดุเดือดในทำเลจรัญสนิทวงศ์ แต่ก็พบว่ายังเหลือพื้นที่ให้พัฒนา เปิดหน้าที่ดินเพื่อทำโครงการใหม่ ๆ อยู่อีกหลายแห่ง โดยทำเลจริญสนิทวงศ์เป็นอีกทำเลในกรุงเทพมหานคร ที่มีศักยภาพในการพัฒนา เนื่องจากมีรถไฟฟ้าพาดผ่านตลอดสาย อีกทั้งยังหนาแน่นไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และยังมีจุดเด่นคือเป็นทำเลที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย