รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เปิดเผยว่า จากการสอบถามสถาบันการเงิน คาดว่า ความต้องการสินเชื่อภาคครัวเรือนในไตรมาสแรกปีนี้ จะเพิ่มขึ้นในกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัย เนื่องจากคาดว่าจะมีการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ก่อนมีผลบังคับใช้เรื่องมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือแอลทีวี ในวันที่ 1 เม.ย.62
ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ คาดว่า จะลดลงตามคาดการณ์ที่เชื่อว่าตลาดรถยนต์มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงในปีนี้ หลังจากในปีที่ผ่านมาสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรถยนต์ขยายตัวสูงและสถาบันการเงินมีการแข่งขันกันสูงมาก ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนของประชาชนเพิ่มขึ้นรวดเร็ว
และสินเชื่อบัตรเครดิต ผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ้นเช่นเดียวกัน มาจากการขอสินเชื่อเพื่อใช้บริโภคทั่วไปและกลยุทธ์การขยายตลาดสินเชื่อรายย่อยของธนาคารบางแห่ง โดยมาตรฐานการให้สินเชื่อภาคครัวเรือนในไตรมาสที่ 4 ปี 61 สถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อภาคครัวเรือน โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ จากสัญญาณคุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มด้อยลง ภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอลง และความเสี่ยงของหลักทรัพย์ ค้ำประกันที่สูงขึ้น เนื่องจากธุรกิจให้เช่ารถยนต์ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงและตลาดรถยนต์มือสองมีแนวโน้มชะลอลง ส่วนในไตรมาสแรกปี 62 สถาบันการเงินยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
“ความต้องการสินเชื่อภาคครัวเรือนในไตรมาส 4 ปี 61 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนโดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ขณะที่สถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มากขึ้นเช่นกัน จากภาวะตลาดรถยนต์ที่ได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากงานมหกรรมยานยนต์ต่าง ๆ เช่น มอเตอร์เอ็กซ์โป ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา”
ขณะเดียวกันยังประเมินความต้องการของสินเชื่อภาคธุรกิจในไตรมาสแรกปีนี้ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกขนาดธุรกิจ ทั้งในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ตามความชัดเจนของโครงการลงทุนภาครัฐ ทั้งโครงการลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โครงการรถไฟทางคู่และโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน
ขณะที่ในกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามความต้องการสินเชื่อของภาคเกษตรเป็นหลัก โดยสถาบันการเงินกำหนดมาตรฐานการให้สินเชื่อโดยรวมเข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อที่ให้แก่ธุรกิจขนาดใหญ่ เนื่องจากเศรษฐกิจในปี 62 มีแนวโน้มชะลอตัวและมีความกังวลต่อภาวะของบางอุตสาหกรรม เช่น ปาล์มน้ำมัน ยางพารา เหล็ก เป็นต้น
ส่วนความต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจในไตรมาส 4 ปี 61 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามความต้องการสินเชื่อของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในเขตกรุงเทพฯ เพื่อใช้ลงทุนสินทรัพย์ถาวร ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้ผลิตสินค้าคงคลังสะสม
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
