เก็บตกงานสัมมนาประจำปีธนาคารเกียรตินาคิน หรือ KK จัดสัมมนาประจำปี หัวข้อ “ปรับตัวอย่างไร ในวันที่อนุมัติสินเชื่อไม่ใช่เรื่องง่าย” ธอส.-ออมสิน บอกเอง!!! แชร์เทคนิค วิธีกู้ซื้อบ้าน – กู้เงินซื้อคอนโด
(สำหรับท่านที่ไม่ได้รับชม เทคนิค วิธีกู้ซื้อบ้าน – กู้เงินซื้อคอนโด ตอนแรก สามารถคลิกได้ที่นี้ค่ะ)
โดยมีวิทยากรรับเชิญจาก 2 แบงก์รัฐ ได้แก่ “ไลวรรณ ปองเสงี่ยม” รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มงานสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กับ “วิภาภรณ์ ชัยรัตน์” รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานเสี่ยง ธนาคารออมสิน
วิทยากรอีกรายมาจากเจ้าภาพ “ภัทรพงศ์ รักตะบุตร” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ประธานสายช่องทางการตลาดและพัฒนาฐานลูกค้าของ KKP สรุปสาระสำคัญดังนี้
ลูกค้าหลัก ธอส. 2-3 ล้าน
เริ่มจากตัวแทน ธอส. “ไลวรรณ” เปิดประเด็นการเสวนาด้วยข้อมูลปี 2559 ธอส.ปล่อยสินเชื่อรวม 1.68 แสนล้านบาท ปีนี้วางเป้าเติบโต 6% อยู่ที่ 1.78 แสนล้านบาท
“ธอส.อยู่ในตลาด 63 ปี ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้อย่างเดียว ถ้าลูกค้ามีความสามารถในการกู้เราไม่ปฏิเสธสินเชื่อแน่นอน”
คำถามคือ ทำไมยอดปฏิเสธสินเชื่อหรือรีเจ็กต์เรตจึงได้สูงถึง 40-50% มีคำชี้แจงว่า การพิจารณาสินเชื่อปกติพิจารณาความสามารถผู้กู้เป็นหลัก โดยมีความยืดหยุ่นของรายได้ผู้กู้
ดูจากไม่เกิน 1 ใน 3 ของรายได้หรือ 33% บางกลุ่มอาจขยับไปถึง 50-80% ขึ้นกับความมั่นคงของรายได้ และช่องทางการชำระหนี้ เช่น สินเชื่อสวัสดิการ หักค่างวดจากเงินเดือน ทำให้มีความเสี่ยงต่ำในการชำระเงินกู้
ด้านอาชีพก็เป็นปัจจัยสำคัญ มนุษย์เงินเดือนรายได้มั่นคงแน่นอนถ้าไม่ตกงาน แต่ละปีเงินเดือนจะเพิ่มอย่างน้อย 5% ขณะที่อาชีพอิสระ ผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอี ต้องดูแคชโฟลว์หรือกระแสเงินสด ความสม่ำเสมอของรายได้ที่เข้ามา กับอยู่ในธุรกิจที่มีความเสี่ยงหรือเปล่า
ปัจจุบันสินเชื่อเฉลี่ยรายละ 2-3 ล้านบาทเพราะราคาบ้านปรับแพงขึ้น โดยนโยบายจากรัฐบาลต้องการให้ปล่อยกู้ต่ำกว่านี้ แต่จะเห็นว่าสินค้าบ้านและคอนโดมิเนียมกลุ่มใหญ่ภาคอสังหาริมทรัพย์ราคาต่ำล้านก็น้อยลงแล้ว
เมื่อขอให้แนะนำผู้บริโภคในการเลือกแพ็กเกจสินเชื่อตอนนี้ผู้ประกอบการกับแบงก์ต้องช่วยกันแนะนำให้ลูกค้าเลือกตามกำลังความสามารถของเขา อย่าเกินตัว
“การกู้เงินซื้อบ้านอยากให้มองละเอียดและระยะยาว สังเกตว่าช่วงแรก ๆ ดอกเบี้ยโปรโมชั่น 0% 3 เดือน ตอนนี้เริ่มกลับมาใช้ MRR (ดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี) ดอกเบี้ยโปรโมชั่นได้ประโยชน์แค่ 3 ปีแรก ระยะต่อไปจะสูงขึ้น”
และ “…ในแง่ของแบงก์ ช่วงแรก ๆ แม้ดอกเบี้ยต่ำ แต่การคำนวณงวดผ่อนได้คำนวณทิศทางดอกเบี้ยขึ้นในอนาคตประมาณ 1% เรามองเรื่องป้องกันไม่ให้ลูกค้าเป็น NPL (หนี้เสีย) ถ้าต้องรับภาระดอกเบี้ยขาขึ้น”
ออมสินมี “เอ-บี-ซีสกอร์”
สำหรับธนาคารออมสิน “วิภาภรณ์” กล่าวว่า ปี 2559 ปล่อยสินเชื่อ 12.7% ของทั้งตลาด มีแผนรักษาสัดส่วนตลาด และมีอัตราเติบโตอยู่อีก
การปล่อยสินเชื่อต้องดูประวัติการเป็นหนี้ในอดีตที่ผ่านมา ไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ เช็กเครดิตบูโร มีเอสกอร์, บีสกอร์ เรื่องพฤติกรรม ตอนนี้กำลังพัฒนาซีสกอร์เพิ่มขึ้นมา
“เอสกอร์ คือการวิเคราะห์เบื้องต้นว่ารูปร่างหน้าตาเป็นยังไง รายได้ การสมรส มีบุตรกี่คน (ดูภาระค่าใช้จ่าย), บีสกอร์ ดูพฤติกรรม มีการผ่อนชำระสม่ำเสมอไหม ค้างกี่งวดมาก่อน ส่วนซีสกอร์ หรือคอลเล็กชั่นสกอร์ ช่วยในการวิเคราะห์และเก็บหนี้ มีผลต่อการเพิ่มยอดให้กับลูกค้าที่มีประวัติดี การพิจารณาสินเชื่อจะง่ายขึ้น”
เกณฑ์การประเมินสินเชื่อดูที่มาของรายได้ มีความมั่นคงในอาชีพ รายได้สม่ำเสมอเป็นปัจจัยสำคัญ และเงินงวดผ่อนชำระมีความสามารถด้วย อยู่ที่ 70 : 30 บางรายอาจได้มากถึง 80%
คำถามหลักกรณีแบงก์ออมสิน มีเสียงสะท้อนจากอาชีพอิสระ กิจการรถเข็น กู้ได้ไหม
“เรามีลูกค้ากลุ่มนี้เยอะ ให้สาขาไปคอนแท็กต์ว่าเป็นพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดสด ไปทำบัญชี สเตตเมนต์ช่วย ดูรายได้ว่ามีความสามารถขนาดไหน ขายของประเภทนี้มีกำไรสุทธิกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะรายได้รับเงินสดเป็นรายได้รวม เรามีโปรแกรมคำนวณให้ เราจะให้ฝากสม่ำเสมอ 6 เดือน ดูสภาพคล่อง ดูกระแสเงินสดว่ามีเพียงพอจ่ายหนี้เราได้ไหม”
เฉลี่ยยอดปล่อยกู้กลุ่มนี้ 2-3 ล้านบาท มีจำนวน 1,200 สาขาทั่วประเทศ สามารถรองรับลูกค้าต่างจังหวัดได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
อ่านหน้า 2
ต้องการซื้อ-เช่า !!!คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่
ลงประกาศขาย-ให้เช่า ฟรี !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินกับ Dot Property ขายง่าย ขายไว ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย