นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ บีทีเอส จะเปลี่ยนบัตรโดยสารประเภทเที่ยวเดียวจากบัตรแถบแม่เหล็ก เป็นบัตรสมาร์ทการ์ดชนิดบาง (Thin Card) ที่มีความบางมากกว่าบัตรแรบบิทการ์ดหรือบัตรทั่วไป เพื่อเปลี่ยนเป็นบัตรเทคโนโลยีที่ทันสมัยยิ่งขึ้นและ การใช้งานในส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสำโรง-สมุทรปราการ ซึ่งจะเปิดให้บริการประมาณ ปลายปี 2561 นี้ และเตรียมไว้สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – คูคต และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และ สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง
บีทีเอส เตรียมเปลี่ยนบัตรโดยสารเที่ยวเดียวจากบัตรแม่เหล็ก (Magnetic) เป็นบัตรสมาร์ท การ์ด ชนิดบาง (Thin Card)
การเปลี่ยนระบบบัตรโดยสารเที่ยวเดียวนี้บริษัทฯ จะเปลี่ยนตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติทั้งหมดให้เป็นแบบจอสัมผัส (Touch Screen) รวมประมาณ 200 ตู้ และติดตั้งตู้จำหน่ายตั๋วที่มีช่องรับธนบัตรเพิ่มอีก 50 ตู้ เพื่อติดตั้งตามสถานีต่างๆ ในระบบ รถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมกันไปด้วย ซึ่งจะเริ่มทยอยเปลี่ยนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 ใน 8 สถานีแรก คือ สถานีสยาม สถานีช่องนนทรี สถานีกรุงธนบุรี สถานีวงเวียนใหญ่ สถานีตลาดพลู สถานีบางหว้า สถานีอุดมสุข และ สถานีแบริ่ง จากนั้นก็จะขยายไปจนครบทุกสถานีโดยมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2561 รวมระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กล่าวว่า การเปลี่ยนระบบนี้จะทำให้ตู้จำหน่ายตั๋วและประตูอัตโนมัติเข้า และออกสถานี ที่กำลังเปลี่ยนไม่สามารถใช้ตั๋วโดยสารเที่ยวเดียวแบบแถบแม่เหล็กรวมทั้งบัตรโดยสารประเภท 1 วันได้ แต่ยังคงใช้บัตรแรบบิทได้ ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้จัดแผนทยอยสลับเปลี่ยนไปตามสถานีต่างๆ เพื่อให้เกิดผลกระทบกับผู้โดยสารน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ก็ต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่จะเกิดขึ้นในช่วงของการปรับเปลี่ยนระบบบัตรโดยสารบ้าง ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการใช้งานร่วมกับระบบขนส่งมวลชนสายอื่นๆ ในอนาคต และบริษัทฯ ขอเชิญชวนให้ทุกท่านใช้บัตรแรบบิทแบบเติมเงิน ซึ่งขณะนี้มีโปรโมชั่นลดค่าโดยสาร 1 บาทต่อ 1 เที่ยวการเดินทาง ซึ่งมีราคาถูกกว่าซื้อทีละครั้ง และมีความสะดวกและประหยัดเวลามากกว่า