สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาพบกันอีกครั้งกับบทความแนะนำการสร้างบ้านชั้นเดียว โดยเจ้าของบ้านหลังนี้คือคุณ monster_no9 สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com ที่ได้ทำการเปลี่ยนบ้านหลังเก่าอายุเกือบ 30 ปีมาเป็นบ้านหลังใหม่หลังนี้ เราลองไปดูกันดีกว่าค่ะว่า บ้านชั้นเดียวราคาประหยัด จะสวยงามขนาดไหนไปชมกันเลย
สร้าง บ้านชั้นเดียวราคาประหยัด หลังแรกในชีวิต เพื่อคนที่รักเราที่สุดในชีวิต
หลังจากใช้ชีวิตแอบอ่านรีวิวบ้านคนอื่นในชายคามานาน พร้อมกับฝันว่าสักวันนึงเราจะมีโอกาสสร้างบ้านเองกับเขาบ้าง จนในที่สุดเวลาของผมก็มาถึงเนื่องจากบ้านที่พ่อกับแม่อาศัยอยู่มีอายุเกือบ30ปีแล้ว สภาพทรุดโทรมทั้งภายในภายนอก (คุณภาพการก่อสร้างเมื่อ30ปีที่แล้วยังไม่ดี) ลูกๆก็คุยกันว่าจะสร้างใหม่ให้สักที่ แต่ก็ไม่มีใครว่างพอจะมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงลงมือทำ ทำให้ผมซึ่งสะดวกสุด(ลูกๆคนอื่นทำงานตจว.กันหมด) รับเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง สร้างให้ใหม่
สภาพบ้านเก่า
เริ่มจากวางแบบบ้านก่อน ว่าเราต้องการห้องอะไรบ้าง ห้องนอนกี่ห้อง ห้องน้ำกี่ห้อง ครัวนอก ครัวใน ฯลฯ พอได้สเปกคราวๆแล้วก็เริ่มจับแต่ละห้องวางลงไปในผัง ว่าจะให้ห้องไหนอยู่ตรงไหนบ้าง เริ่มมีการกำหนดขนาดให้ห้องต่างๆ เพื่อให้เหมาะกับพท.บ้านทั้งหมด บ้านผมค่อนข้างมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ด้านกว้าง ซึ่งผมต้องการใช้เต็มพท. ทำให้ตอนว่างผังต้องยุ่งยากนิดนึง สำหรับคนที่ไม่มีข้อจำกัดด้านพท.ก็จะสามารถใช้วิธีลัดโดยไปเลือกแบบบ้านสำเร็จที่ชอบได้เลย
ผังบ้าน
สำหรับรูปร่างหน้าตาภายนอกผมไม่ค่อยซีเรียส ก็เลือกดูจากแบบสำเร็จว่าชอบแนวไหนแล้วก็แจ้งไปกับคนเขียนแบบอีกที ข้อจำกัดอีกอย่างของบ้านผมคือผมเลือกใช้หน้าต่างแบบบานเกร็ด ที่ถอดออกมาจากบ้านเก่า เพื่อจะได้ประหยัดงบทำให้หน้าตาอาจจะไม่โมเดิลเท่าไหร่ แต่ผมชอบใช้หน้าต่างบานเกร็ดมากกว่าแบบอื่นๆ เพราะใช้งานได้สะดวกดี หน้าต่างในแบบยังไม่ตรงกับของจริง ของจริงมีการแก้ไขเล็กน้อย
ผมลองว่างตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์หลักๆลงในผัง ทางผู้ออกแบบก็เขียนเป็น3D มาให้ ทำให้เราเห็นว่าขนาดของห้องต่างๆเหมาะสมหรือไม่ และจะได้เห็นรูปร่างหน้าตาบ้านว่าเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไร ถูกใจหรือไม่ เทคนิกการกำหนดขนาดของห้องต่างของบ้านผมใช้วิธีสังเกตุจากห้องจริงในชีวิตประจำวันของเรา เช่นห้องนอนที่เรานอนอยู่ทุกวันมีขนาดเท่าไหร่ เทียบกับในแบบที่เราต้องการมันเพียงพอมั๊ย เล็กไปหรือใหญ่ไป บางครั้งดูจากตัวเลข หรือห้องว่างๆก็กะไม่ถูกนะครับ
หลังจากได้แบบแล้วต่อไปก็เริ่มทำสัญญาจ้าง ก่อนทำสัญญาต้องมั่นใจว่าได้แบบที่เราต้องการแล้วจริงๆ เพราะหลังจากทำสัญญาแล้วอำนาจการต่อรองของเราจะลดลงทันที ถ้าเราต้องการแก้แบบภายหลังอาจจะโดนชาร์จเงินเพิ่มอย่างมาก หลังจากผมได้แบบที่แน่นอนแล้วก็เริ่มทำสัญญาก่อสร้างกัน ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญ ผมจึงเรียกใช้ที่ปรึกษาช่วยดูให้ว่าสัญญารอบครอบ ครอบคลุม สิ่งที่เราต้องการหรือยัง มีจุดไหนที่เราจะเสียเปรียบมั๊ย จุดนี้เราต้องแสดงให้ผู้รับเหมาเห็นว่าเราจริงจังในการทำสัญญา เข้มงวดตั้งแต่ต้นจะทำให้ผู้รับเหมาเข้าใจ และไม่งอแง้ ไม่ใช้มาเข้มงวดตอนเขาสร้างไปแล้ว จะทำให้แก้ไขลำบาก
ขั้นตอนแรกคือสร้างฐานรากและโครงสร้างบ้านขั้นนี้ก็สำคัญ คนส่วนใหญ่สร้างบ้านจะไปให้ความสำคัญกับงานสถาปัตยกรรมหรืองานตกแต่งเช่น สีบ้าน กระเบื้องห้องน้ำ แต่ที่จริงเราควรให้ความสำคัญกับงานโครงสร้างมากกว่าเพราะงานโครงสร้างถ้าสร้างไปแล้วเรามาแก้ภายหลังยากมาก และอาจจะเป็นปัญหาเรื้อรังแก้ไม่หายขาด ถ้าเราไม่มีพื้นฐานวิศวะกรรมก็ต้องอาศัยที่ปรึกษามาช่วยแนะนำครับ หลายจุดในบ้านผมก็มีปัญหาจากความไม่ละเอียดของผู้รับเหมา ผมก็อาศัยคำปรึกษาจากที่ปรึกษาว่าจะสามารถยอมรับได้หรือไม่ จริงๆก็ไม่อยากให้เขารื้อทำใหม่หรอก เสียเวลา และเสียอารมณ์คนทำงาน
รายละเอียดหรือเทคนิกการก่อสร้างผมอาจจะไม่พูดเยอะ สำหรับผู้สนใจสามารถหาอ่านได้ในกระทู้อื่นๆในชายคานี่แหละครับ ส่วนใหญ่จะอธิบายแนวทางหรือปัญหาที่พบแทนนะครับ การทำโครงสร้างควรจะให้ผู่รับเหมาใช้ปูนที่ผสมเสร็จจากโรงงาน เช่น CPAC หรือโรงปูนท้องถิ่น เพราะปูนจะได้มาตรฐานกว่าแบบผสมเองที่ไซด์งาน สัดส่วนปูน หิน น้ำ มีผลกับความแข็งแรงของโครงสร้าง แต่บ้านหลังเล็กๆอย่างบ้านผมก็มีปัญหาเล็กน้อยเพราะ บางครั้งรถปูนไม่อยากมาส่ง เพราะงานช้าได้งานน้อย อาจจะต้องให้พิเศษ
เขียนข้ามไปนิดนึง ตอนแรกผมติดต่อสร้างกับบริษัทรับสร้างบ้านยอมจ่ายแพงหน่อยเพราะไม่อยากมีปัญหา อ่านชายคาเยอะเลยกลัวผู้รับเหมาทิ้งงาน แต่ยังไม่ทันจะทำสัญญาบริษัทรับเหม่ากับชิ่งซะเอง เลยต้องหันกลับไปใช้บริการเพื่อนที่ทำรับเหมาแทน แต่อย่างที่บอกแม้จะเป็นเพื่อนหรือญาติก็ไว้ใจไปไม่ได้ จึงยอมลงทุนจ้างเพื่อนอีกคนที่เป็นโยธาจังหวัดมาช่วยเป็นที่ปรึกษา ซึ่งผมว่าคุ้มค่ามากเพราะนอกจากจะช่วยให้คำปรึกษาเรื่องบ้าน แล้วยังให้ความรู้เรื่องการก่อสร้างไปในตัว เหมือนได้เรียนวิชาก่อสร้างจากของจริง แนะนำคนที่จะสร้างเองลองหาที่ปรึกษามาช่วยนะครับ ลดปัญหาความกังวลใจไปเยอะเลยครับ บางคนช่วงสร้างบ้านมีปัญหาเยอะถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ลามไปถึงชีวิตหน้าที่การงาน
ผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์จะมีเครือข่าย ผู้รับเหมาย่อยเยอะทำให้งานไม่สดุด เช่นระหว่างรอกระเบื้องมุงหลังคา ก็ให้ทีมก่อผนังรอ มีครั้งนึงขณะที่กำลังทำโครงหลังคา ผมไปสังเกตุเห็นว่ามันไม่เป็นไปตามแบบ เลยสั่งให้หยุดทำก่อน ขอเคลียร์กับผู้รับเหมาก่อน กว่าจะเคลียร์กันได้ คิวของช่างทำโครงหลังคาก็ไม่ว่าง ทำให้งานสดุดไปประมาณ1สัปดาห์
ผมเข้าดูงานเกือบทุกวันหลังเลิกงาน พอเจองานไหนไม่ได้ตามสเปกก็จะสามารถแก้ไขกันได้ทัน ฉะนั้นเราอย่าไปไว้ใจว่าผู้รับเหมาจะดูแลบ้านเราเต็มที เพราะพวกนี้บางที่ไม่ได้มีงานบ้านเราหลังเดียว เขารับซ้อนที 3-4หลัง ต้องวิ่งดูงานหลังอื่นด้วย ถ้าไม่อยากมีปัญหาเราต้องพึ่งตนเอง ตรวจเช็กงานต่างด้วยตัวเอง อีกอย่างเราจะได้รู้จุดปัญหาของบ้านเราด้วย เผื่อวันหลังมันมีปัญหามาอีกจะได้หาสาเหตุได้ง่ายขึ้น
ช่วงงานโครงสร้าง ก่อ ฉาบ ดำเนินการไปด้วยดี สามารถทำเสร็จก่อนกำหนดเวลาด้วยซ้ำ จนผมต้องเบรกช่างเล็กน้อย บอกว่าหาเงินมาจ่ายไม่ทัน 55 งานโครงสร้างจริงๆสร้างเสร็จเร็วไปก็ไม่ดีนะครับ บางครั้งปูนต้องการเวลาในการเซทตัว ถ้ารีบทำอาจจะไม่ได้ความแข็งแรงอย่างที่ต้องการ
ในที่สุดผมก็มีปัญหากับผู้รับเหมาจนได้ หลังสร้างไปได้3เดือน ที่ผ่านมาช่างชุดที่มาทำโครงสร้าง หลังคา ก่อ ฉาบ ก็ทำผลงานได้ดีเป็นที่น่าพอใจ แต่พอกลางเดือนธันวา ช่างเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ผู้รับเหมาบอกเขาขอกลับไปเกี่ยวข้าวและจะลายาวไปถึงปีใหม่ หลังปีใหม่ค่อยว่ากันอีกที่ ผมก็ไม่ว่าอะไรเพราะงานทำได้ตามเป้าหมาย คิดว่าหลังปีใหม่ประมาณต้นกุมภาน่าจะเสร็จ พ่อกับแม่ก็คาดหวังจะได้อยู่บ้านใหม่เร็วๆ
แต่หลังปีใหม่มาเกือบ 2 สัปดาห์ ยังไม่มีช่างมาเลยสักคน พอไปถามผู้รับเหมา เขาก็หาช่างมาทำงานให้แค่1คน จนงานไม่คืบหน้าไปเป็นเดือน เข้าใจว่าผู้รับเหมาไปได้งานหมู่บ้านมาหลายหลังจึงไม่มีช่างมาบ้านผม ที่จริงผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเพราะเงินก็ยังจ่ายไม่ครบตามงาน แต่พ่อแม่และญาติๆเริ่มเอะใจว่าทำไมงานไปเดินจึงเริ่มถามเยอะมากเพราะกลัวเราจะถูกโกง ผมจึงต้องไปเร่งผู้รับเหมาเรื่อยๆ กว่าจะเสร็จเล่นเอาเกือบเสียเพื่อน แต่ในที่สุดก็เสร็จจนได้ รวมเวลาก่อสร้างเกือบ6เดือน (สัญญาทำไว้6เดือน) จริงถ้าไม่ติดช่วงปีใหม่น่าจะเสร็จได้ภายใน4เดือนครึ่งถึง5เดือน แต่โดยรวมก็ถือว่า สร้างบ้านเองงบน้อย เป็นที่น่าพอใจค่าก่อสร้างก็อยู่ในงบไม่บานปลาย ได้บ้านตามแบบบ้านที่ต้องการ อาจจะไม่ได้สวยงามหรูหรา แต่ก็สามารถอยู่ได้อย่างอบอุ่นครับ
ภาพรวมหลังจากอยู่มาเกือบปี เริ่มมีสีเขียวมาแสม เสริมเรื่องการปลูกหญ้าเล็กน้อย หญ้าที่ปลูกเป็นหญ้านวลน้อย เป็นหญ้าที่ชอบแดดจัด น้ำเยอะ ดูแลรักษาง่าย ทน ตอนจะปลูกตั้งใจรอจนถึงต้นหน้าฝนแล้วค่อยปลูกจะได้ลดภาระเรื่องการลดน้ำในช่วงที่หญ้ายังไม่แข็งแรง
มาดูภายในกันเล็กน้อย ห้องนั่งเล่นดูทีวี เนื่องจากไม่ได้ถ่ายตอนจัดเสร็จใหม่ๆ อยู่ๆไปของก็เริ่มรก รวมถึงเฟอร์นิเจอร์เก่าไม่เข้ากับบ้านใหม่เท่าไหร่ แต่พ่อกับแม่เสียดายไม่ให้ทิ้ง ก็ตามใจ เข้าใจว่าของเหล่านี้บางชิ้นก็มีคุณค่าทางจิตใจ บางทีเราไม่ได้คิด อยากจะได้แต่บ้านสวยๆตามใจเราอยากเดียวไม่นึกถึงใจคนแก่
ต่อมาเป็นห้องครัว ห้องครัวกับห้องน้ำจะเป็นห้องที่มีค่าใช้จ่ายในการตกแต่งสูง สำหรับคนที่มีงบจำกัดแต่อยากได้ห้องสวยๆต้องคอยไปเดินพวกงานแฟร์ลดราคา หรือเดินห้างขายวัสดุก่อสร้างบ่อยๆ ระหว่างสร้างบ้านผมมักจะแวะไปเดินโฮมโปรสาขาแถวบ้านบ่อยๆ ได้ขอดีราคาถูกๆมาหลายชิ้นเหมือนกัน แต่เดินห้างพวกนี้บ่อยๆก็มีข้อเสีย เพราะมันจะกระตุ้นให้เราอยากซื้อโน้นซื้อนี่จนเกินความจำเป็น เราต้องใจแข็งครับ ตั้งเป้าหมายที่จะซื้อให้ชัดเจน มิเช่นนั้นแทนที่จะประหยัด จะกลายเป็นหมดตูดแทนนะครับ
สำหรับห้องน้ำ ผมเลือกที่จะมีห้องน้ำขนาดเล็ก เพราะจะได้ลดภาระเรื่องการทำความสะอาด และลดอุบัติเหตุในห้องน้ำ (ลื่นล้มในห้องน้ำเป็นอุบัติเหตุที่เกิดบ่อยกับผู้สูงอายุ) ตอนแรกตั้งใจจะมีฉากกันโซนเปียกโซนแห้ง แต่พอเห็นขนาดห้องคิดว่าห้องมันเล็กเกิน ถ้ามีฉากกันจะดูแคบ และอึดอัดจึงบอกช่างไม่ต้องทำฉากกัน พอทำเสร็จห้องก็ไม่ได้เล็กอย่างที่คิดก็เลยไม่มีฉากกันตามแบบ (ข้อเสียของการกะด้วยสายตา ความรู้สึก)
ภาพสุดท้ายเป็นส่วนหลังบ้าน ให้ช่างต่อหลังคาเพิ่มเติมกะใช้เป็นครัวนอก กับที่ซักล้าง ตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์อย่างที่ต้องการ รอเก็บเงินทำเพิ่มเติม ตอนนี้เอาแค่พออยู่ไปก่อน (หลังบ้านติดกับบ้านญาติเลยทำหลังคาชิดรั้วบ้านได้)
สรุปค่าใช้จ่าย สร้างบ้านเองงบน้อย พร้อมตอบคำถามนะครับ
– พท.ตัวบ้านประมาณ105ตรม. ไม่รวมต่อเติมหลังบ้าน กับที่จอดรถหน้าบ้าน
– ค่าใช้จ่ายเหมา 950,000บาท (ประมาณตรม.ละประมาณ9000 บาท ตจว.นะครับ) หน้าต่างใช้บานเกร็ดเดิมแค่นั้น
– ต่อเติมหลังคาหลังบ้าน ปูกระเบื้อง เทปูนหน้าบ้าน และต่อเติมรั้วบ้านอีก 50,000 บาท
– เหล็กดัด มุ้งลวด ผ้าม่าน แท้งค์น้ำ สนามหญ้า ตู้โชว์ ตู้แขวนในครัว ฯลฯ รวมๆ อีกประมาณ100,000 บาท
ขอจบรีวิวแต่นี้ครับ ขอบคุณครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากคุณ monster_no9 สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com