หากย้อนอดีตถึงโครงการประชานิยมของรัฐบาล ยุคทักษิณ ชินวัตร คงจะมีหลายโครงการที่ได้ใจประชาชนชาวไทยหนึ่งในนั้นคือ โครงการ บ้านเอื้ออาทร เป็นหนึ่งในยุคนั้น ที่ได้ใจคนไทยไปหลายคนจนเทคะแนนเสียงให้ แต่รู้หรือไม่ว่าโครงการบ้านเอื้ออาทร นี้เคยเกือบทำให้การเคหะฯล้มละลายจนทุกวันนี้ยังมีการส่งมอบบ้านกันยังไม่หมดจนถึงปัจจุบัน
ย้อนรอย บทเรียนแห่งความผิดพลาด บ้านเอื้ออาทร โครงการที่เกือบทำให้การเคหะฯล้มละลาย
เมื่อมองย้อนไปเมื่อเดือน ม.ค. ปี 2553 เวลานั้นได้เริ่มโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยมีการโครงการบ้านเอื้ออาทร จากทั้งหมด 228,249 หน่วย จาก 450,000 หน่วย เเต่เวลาขายจริงได้แค่ ไม่กี่หมื่นหน่วย เหตุผลหลักๆที่บ้านขายไม่ออกก็เพราะว่า โครงการบ้านไร้ซึ่งคุณภาพราคาไม่คุ้มค่าแถมตัวโครงการก็ยังไปสร้างในพื้นที่ห่างไกลแหล่งชุมชนเดินทางเข้าออกก็ยาก ปล่อยกู้ก็ยากแถมผู้ที่กู้ผ่านสุดท้ายก็ผ่อนต่อกันไม่ไหวกลายเป็นหนี้เน่าเสียจำนวนไม่น้อย สนสุดท้ายบอร์ดการเคหะฯต้องตัดสินใจ ส่ง รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติในเวลานั้น คือคุณ ศิริโรจน์ ชาวปากน้ำ มารับแก้ปัญหาให้ตรงจุดโดยเร็วเพราะหากช้าการเคหะฯล้มละลาย แน่นอน
สารพัดวิธีเพื่อดึงดูดใจผู้ซื้อ
หลังจากที่คุณ ศิริโรจน์ ลงมาเต็มตัวเรียกได้ว่าเจ้าตัวทำทุกวิถีทาง ตั้งแต่ ทั้งลดแลกแจกแถม ขายเหมาโหล ขายยกตึก เรียกได้ว่าทำสารพัดวิธีเพื่อดึงดูดใจผู้ซื้อ จนโครงการเริ่มขายออกและแค่ระยะเวลา 5 เดือนเท่านั้น โครงการบ้านเอื้ออาทร มีกำไรและในไม่ช้าก็พ้นวิกฤติการขาดทุนขึ้นมาได้
โดย รองฯศิริโรจน์ ใช้เวลาตั้งแต่ ต.ค. 2552 จนถึง ก.พ. 2553 ปล่อยบ้านเอื้ออาทรไปแล้ว 27,352 ยูนิต เป็นมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ถือเป็นการทำยอดขายทะลุอย่างสวยงาม ส่งผลให้สามารถลดหนี้ได้ถึง 15,596 ล้านบาทและยังสามารถ ชำระหนี้ ครบกำหนดเป็นการล่วงหน้าไปจนปี 2555
15 ปีก็ยังส่งมอบได้ไม่หมด
ถึงแม้ว่าหนี้เน่าบ้านเอื้ออาทรจะแก้ปัญหาไปแล้ว แต่โครงการยังพบกับปัญหาอยู่นั้นคือ 15 ปีที่ได้มีการพัฒนาโครงการบ้านเอื้ออาทร ขึ้น แต่ก็ยังมีการส่งมอบบ้านกันยังไม่หมดจนถึงปัจจุบัน โดยสาเหตุมาจากตัวโครงการมีนักการเมืองแทรกแซงมากเกินไป ซึ่ง กคช.ไม่สามารถที่จะเลือกที่ดินที่จะนำมาพัฒนาหรือเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างเองได้ สุดท้ายก็ได้ของที่ไม่มีคุณภาพและ กคช.ต้องรับมอบมาแบบนั้น มีทางเดียวที่จะแก้ปัญหาได้คือ เหล่านักการเมืองจะต้องไม่เข้ามาแทรกแซง ปัญหานี้ก็อาจจะหมดไปได้
ก็ได้แต่หวังว่า โครงการบ้านล้านหลัง จะไม่เป็นแบบโครงการบ้านเอื้ออาทร เพราะรัฐบาลได้บทเรียนแล้วว่าเคยเกือบทำให้การเคหะฯล้มละลายจากโครงการบ้านเอื้ออาทรนี้ และคนไทยในประเทศ ก็จำไว้ให้ขึ้นใจด้วยว่าอย่างคิดง่ายๆเห็นว่าเป็นของถูกพากันซื้อจนสุดท้ายมารู้ที่หลังก็ผ่อนต่อไม่ไหว….และภาระทั้งหมดสุดท้ายมันก็ตกมาที่ประชาชนคนเสียภาษีอื่นๆที่รัฐบาลนำเงินเหล่านี้ไปใช้จ่าย แต่ก็ไม่ได้อะไรกับมาให้คนในประเทศได้ใช้ประโยชน์เลยจริงๆทิ้งไว้แต่หนี้เน่าๆที่หามือใครดมไม่ได้สักคน เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
5 อันดับทำเล ที่ดินเปล่า กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ราคาเพิ่มสูงที่สุด ไตรมาส 2/62
