แต่บางคนอยู่บ้านไม่มีพื้นที่มาก, บางคนอยู่คอนโดยิ่งแล้วใหญ่ และอีกหลากหลายเห็นผลที่เรารู้นะว่า กำลังจะเอามาเป็นข้ออ้างใช่มั้ยล่ะ ยังไงก็ ลองดูก่อนสักหน่อยแล้วกัน เผื่อว่าคุณอาจเกิดเปลี่ยนใจ ขึ้นมาก็ได้นะคะ
ทาวน์เฮ้าส์
พื้นที่ที่พอจะใช้ปลูกได้ในบ้าน “ทาวน์เฮ้าส์” ก็หนีไม่พ้นหน้าบ้านและหลังบ้าน ใช่มั้ยล่ะคะ แต่ พื้นที่ที่ว่าเนี่ย มันห่างไกลจากแสงแดดที่จะส่องถึงม๊าก…มาก หรือถ้าส่องถึงก็ได้รับแสงแดดแค่เพียงครึ่งวัน ก็เท่านั้น ทีนี้เราจะทำยังไงกันดี…
ทางแก้ ก็คือ การปลูกผักที่บริโภคได้เป็นประจำทุกวัน ปลูกแบบที่ไม่กินพื้นที่มากเกินไป และไม่จัดให้แออัดมากเกินไป อาจใช้วิธีการปลูกแบบกระถาง สลับกับปลูกลอยฟ้า แบบติดกำแพง นอกจากจะสวยงามน่ามองแล้วยังเป็นการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกได้อีกด้วยล่ะ
ผักที่ควรค่าแก่การปลูก ได้แก่ ขิง, ข่า, ตะไคร้, กระเพรา ฯลฯ โอย…แค่นี้ก็ต้มยำ ผัดกระเพราได้ตลอดๆแล้ว
คอนโด
รู้อยู่ว่าเนื้อที่น้อย แถมยังไม่มีแสงส่อง หนักกว่าทาวน์เฮ้าส์อีก ทางแก้ก็คือ การปลูกแบบลอยฟ้า, ปลูกในภาชนะ ซึ่งภาชนะที่ใช้ อาจจะเป็นกระถาง, กาบมะพร้าว หรือว่าเปลือกไม้ และเน้นการหมั่นรดน้ำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
ผักที่ควรค่าแก่การปลูก ได้แก่ ผักที่มีรากตื้นๆ เช่น ผักกาดหอม, ผักบุ้งจีน, ตั้งโอ๋, กุ้ยช่าย, ผักชี, ตะไคร้ ฯลฯ โอว..อันนี้ก็ผัดผักกินได้จนเบื่อกันไปข้างนึงได้เลย
บ้านเดี่ยว
ที่สุดของบ้านที่พร้อมที่จะปลูกผักได้เลยค่ะคุณขา….พื้นที่พร้อม, อุปกรณ์หาได้ไม่ยาก เรียกได้ว่ายืดหยุ่นได้สุดๆเลยล่ะค่ะ อยากจะปลูกตรงไหน ก็สามารถ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มลูกเล่น โดยการปลูกไม้เลื้อยไว้ริมรั้ว เช่น ตำลึง, กระถิน, ชะอมหรือผักหวาน อืม…น้ำพริกพร้อม จิ้มได้เลยนะเนี่ย ส่วนผักลงดินชนิดอื่นๆ ก็แล้วแต่รสนิยมการกินของเจ้าของบ้านได้เลยล่ะค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ….อยากปลูกบ้างใช่มั้ยหล่ะ….แบบนี้ คนอยู่คอนโดก็อย่าได้แคร์ มีต้มยำ มีผัดกระเพราะ กินเก๋ๆได้ แบบคลีนๆ ยังไงก็ลองปลูก ลองกิน สุขภาพดีกันทุกท่านค่ะ