ปิดดีลมหากาพย์ ” ที่ดิน หมอชิต ” คลังไฟเขียว 30 ปี ลงทุน 2.6 หมื่นล้าน

ที่ดิน,ที่ราชพัสดุ,พัฒนาที่ดิน
ที่ดิน,ที่ราชพัสดุ,พัฒนาที่ดิน
ที่ดิน,ที่ราชพัสดุ,พัฒนาที่ดิน
ที่ดิน,ที่ราชพัสดุ,พัฒนาที่ดิน

คลังโล่ง ! ปิดดีลมหากาพย์พัฒนา ” ที่ดิน หมอชิต ” สรุปลงตัวกับ “บางกอกเทอร์มินอล” ยึดกรอบเดิมบริหารสัญญา 30 ปี มูลค่าโครงการพุ่งแตะ 2.6 หมื่นล้านบาท ยันเอกชนรับค่าฐานรากพร้อมค่าเสียโอกาส ล่าสุดส่งอัยการตรวจร่างสัญญาฯ ขั้นตอนต่อไปชงรมว.คลัง-ครม. ตั้งเป้าเซ็นสัญญาภายในปีนี้

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้การเจรจากับเอกชนผู้รับสัมปทานโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุ บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต ได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ได้ร่างสัญญาและเสนอให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการเสนอให้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาตามลำดับ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถลงนามกับเอกชนได้ทันภายในปี 2559 นี้

ที่ดิน,ที่ราชพัสดุ,พัฒนาที่ดิน
ที่ราชพัสดุ,พัฒนาที่ดิน

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การเจรจากับเอกชนคู่สัญญาในโครงการพัฒนาที่หมอชิตที่ผ่านมายืนยันว่า เงื่อนไขต่าง ๆ ดีขึ้นกว่าเดิมทุกอย่าง โดยเฉพาะผลตอบแทนที่ภาครัฐจะได้รับ เมื่อเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) และมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ถือว่าดีขึ้นทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นการเจรจาภายใต้กรอบระยะเวลาโครงการ 30 ปีเท่าเดิม

“อยากเซ็นให้ทันปีนี้ ถ้าเสร็จแล้ว เอกชนก็จะต้องมาวางหลักทรัพย์ วางแบงก์การันตี แล้วเขาก็ต้องไปทำการออกแบบรายละเอียด (Detail Design) มา และถ้าเอกชนคู่สัญญาจะหาพันธมิตรมาร่วมลงทุนก็สามารถทำได้ เพียงแต่เวลาเจรจาเงื่อนไขสัญญากับภาครัฐ ก็จะต้องเป็นคู่สัญญารายเดิมเท่านั้น” นายจักรกฤศฏิ์กล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ผลการเจรจาระหว่างกรมธนารักษ์กับบริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด ได้ข้อสรุปอยู่ภายใต้กรอบสัญญาเดิมที่ระยะเวลาการบริหาร 30 ปี ถือว่าเหมาะสมแล้ว อย่างไรก็ตามมีการปรับให้เป็นไปตามเงื่อนไข พ.ร.บ.ร่วมทุน และปรับมูลค่าโครงการให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งจะเพิ่มจาก 18,000 ล้านบาท เป็น 26,000 ล้านบาท โดยคาดว่าอัยการสูงสุดจะใช้เวลาในการตรวจร่างสัญญาไม่เกิน 2 เดือน ขณะเดียวกันจะมีการเสนอรายละเอียดให้ รมว.คลังพิจารณาและเสนอ ครม.ควบคู่กันไปด้วย

ส่วนผลตอบแทนที่รัฐจะได้รับ คือ เอกชนคู่สัญญาจะจ่ายให้กับรัฐสูงกว่ามูลค่า NPV นอกจากนี้ เอกชนจะรับผิดชอบในส่วนค่าฐานราก พร้อมกับยอมรับค่าเสียโอกาสไปด้วย คือ ค่าฐานราก 700 ล้านบาท รวมกับส่วนที่กรมธนารักษ์ได้จ่ายให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ซึ่งนับตั้งแต่วันที่กรมธนารักษ์ชำระจนถึงปี 2559 คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 1,400 ล้านบาท

ขอขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net

                                                                                                                                           

Dot Property เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ซื้อ-ขาย อย่างมืออาชีพ…

ท่านต้องการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่หรือไม่ ลงประกาศขายกับ Dot Property ฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงประกาศง่าย ขายได้ไว
หรือหากท่านกำลังมองหา คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน เว็บไซต์ Dot Property มีให้ท่านเลือกมากกว่า 300,000 รายการ ได้ตรงตามความต้องการ ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย