DotProperty.co.th

พลิกโฉมแลนด์สเคปกรุงเทพ ทุนใหญ่รื้อเมืองผุดมิกซ์ยูส

ทุนใหญ่รื้อเมืองลุยโครงการมิกซ์ยูสพลิกโฉมกรุงเทพฯ เจ้าสัว เจริญ เหมาทำเลเด็ด เร่งผุดเมืองใหม่พระรามสี่ มูลค่า 5 หมื่นล้าน 1 ล้านตารางเมตร ประชัน “เซ็นทรัล-ดุสิตธานี” ปีหน้าตอกเข็มเวิ้งนาครเขษม ทุบบางลำภูขึ้น “เกตเวย์บางซื่อ” เจ้าพ่อบีทีเอสกว้านซื้อตึกแถวยึดหัวหาดหมอชิตเก่า “อนันดา” ซื้อที่อาบอบนวดแยกพระราม 9 ลุยคอนโดฯหรู “จิราธิวัฒน์” ซื้อแล้วสถานทูตอังกฤษ ตร.ว.ละ 2.2 ล้าน

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า พร็อพเพอร์ตี้เซ็กเตอร์มีเมกะเทรนด์ในเรื่องการจอยต์เวนเจอร์ หรือเจวี เด่นชัดตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นปีแห่งการปรับโครงสร้างองค์กร ปีนี้เป็นปีแห่งการปรับโครงสร้างธุรกิจ

ตัวอย่างโมเดลของกลุ่มดุสิต-เซ็นทรัลกรุ๊ปมาจาก 2 เหตุผลหลัก 1.ราคาที่ดินแพงขึ้น โดยเฉพาะทำเลซีบีดี การลงทุนสร้างใหม่บนที่ดินแปลงเดิมทำให้ใช้ที่ดินได้คุ้มค่ามากกว่า รวมทั้งข้อจำกัดด้านผังเมือง เดิมแปลงหัวมุมดุสิตธานีเคยมีเอฟเออาร์ (การสร้างอาคารต่อขนาดที่ดิน) ในอดีตเมื่อ 20 ปีที่แล้วสร้างได้เพียง 4:1 ปัจจุบันเอฟเออาร์ 12:1 สร้างตึกสูงได้มากกว่าเดิม 3 เท่า ทำให้แผนลงทุนมีความเป็นไปได้ทางธุรกิจดีกว่าคงสินทรัพย์เก่าเอาไว้

“วงการพัฒนาที่ดินมีข้อสังเกตว่าราคาที่ดินตารางวาละ 3 แสนเราจะเห็นซื้อปั๊มน้ำมันทุบทิ้งสร้างตึกสูง, วาละ 5 แสนจะทุบตึกแถว, วาละ 7 แสนจะทุบตึกเก่าสูง 5 ชั้น, วาละ 1 ล้านทุบโรงแรมขนาด 2-3 ดาว ส่วนทำเลวาละ 1.5-2 ล้านบาทจะเห็นปรากฏการณ์ทุบโรงแรมขนาด 4-5 ดาว เพราะคงของเดิมไว้ก็ไม่คุ้ม ปรับคุณภาพก็ยาก อัพราคาก็ไม่ได้ สู้รื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่เลยดีกว่า”

2.ทำเลไพรมแอเรียทำให้ต้องสร้างคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ การลงทุนโดยผู้ประกอบการรายเดียวไม่สามารถทำเองคนเดียวอีกต่อไปแล้ว เช่น ดุสิตมีความชำนาญด้านโรงแรม อย่างมากก็ปรับตัวทำเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์แต่ไม่สามารถทำธุรกิจรีเทลขนาดใหญ่ ทำให้เกิดดีลเจวีขึ้นมา

รถไฟฟ้าหลากสีจุดเปลี่ยนเมือง

แหล่งข่าวจากวงการพัฒนาที่ดินกล่าวว่าปัจจุบันโมเดลมิกซ์ยูสกำลังเป็นเทรนด์การพัฒนาของนักพัฒนาที่ดิน ในช่วงที่ผ่านมาจึงจะเห็นว่าในที่ดิน 1 แปลงจะพัฒนาทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม และศูนย์การค้า ส่วนใหญ่อยู่ทำเลรถไฟฟ้าพาดผ่าน ทั้งในกลางเมืองและทำเลรอบนอก รับรถไฟฟ้าใหม่เปิดใช้ในปี 2561-2565

“ภาพของเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปอีก จะเห็นการซื้อตึกเก่ามารีโนเวทหรือทุบทิ้งแล้วพัฒนาใหม่ เพราะที่ดินแนวรถไฟฟ้าจะปรับตัวสูงขึ้น เช่น ลาดพร้าว แจ้งวัฒนะ พหลโยธิน รามคำแหง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรถไฟฟ้าใหม่ ได้แก่ สีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการ เปิดปลายปี 2561, สีน้ำเงินบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค เปิดปี 2562, สีแดงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิต เปิดปี 2563, สีเขียวหมอชิต-คูคต เปิดปี 2563, สีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) เปิดปี 2564 และสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี เปิดปี 2566

ที่ดินทรัพย์สินกลางเมืองเกลี้ยง

แหล่งข่าวจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ดินใจกลางเมืองของสำนักงานทรัพย์สินมีเอกชนที่ทุนหนาและมีความเชี่ยวชาญได้สิทธิพัฒนาหมดแล้ว ล่าสุดที่ดินหัวมุม ถ.สีลมและพระราม 4 ที่โรงแรมดุสิตธานีเดิม ปัจจุบันดุสิตธานีและเซ็นทรัลร่วมทุนพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส เนื้อที่ 23 ไร่ พื้นที่ก่อสร้าง 403,000 ตร.ม. ประกอบด้วยโรงแรม 5 ดาว เรสซิเดนซ์ ศูนย์การค้า มูลค่า 36,700 ล้านบาท จะเริ่มทำสัญญาเดือน ก.ค.นี้ สัญญาเช่า 30 + 30 ปี (ไม่รวมก่อสร้าง 7 ปี)จะแล้วเสร็จปี 2567

เซ็นทรัลปั้นสีลมแลนด์มาร์กใหม่

“ที่เช่าดุสิตเดิมมี 18 ไร่ เราหาพื้นที่ด้านข้างที่หมดสัญญา เป็นสำนักงาน 10 คูหา มีอาคารโอลิมเปีย ไทยประกัน และแอมโปร คิดเป็นเนื้อที่ 5 ไร่ มารวมกับของเดิมและทำสัญญาเช่าใหม่ ซึ่งดุสิตจะหมดสัญญาอีก 7 ปี แต่เขาสละสิทธิเดิม แล้วเสนอโครงการใหม่ จะเข้าพื้นที่กลางปีཹ ต้องรื้อตึกเก่าทั้งหมดแล้วสร้างใหม่ แบ่งพัฒนาเป็นโซน ๆ เช่น โรงแรม ศูนย์การค้า แบบยังไม่นิ่ง อาจจะมีการพัฒนาอะไรที่ลิงก์กับรถไฟฟ้าด้วย” แหล่งข่าวกล่าวและว่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก  prachachat.net

อ่านหน้า 2

ต้องการซื้อ-เช่ !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน ทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการ คลิ๊กที่นี่

ลงประกาศขาย-ให้เช่า ฟรี !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงประกาศเลย