นำร่องตีตรา ภาษีออนไลน์ 5 เว็บยักษ์
แหล่งข่าวกล่าวว่า ทันทีที่เกิดการรับเงินหรือเกิดการซื้อขาย การติดต่อทางธุรกิจต่อ 1 Transaction เจ้าของเว็บไซต์เหล่านั้นก็จะต้องเสีย ภาษีออนไลน์ Vat ทันที โดยมีการจัดกลุ่มเว็บไซต์ออกเป็นกลุ่มย่อย ในขณะนี้ 5 กลุ่มย่อย ได้แก่
1.เว็บไซต์กลุ่มธุรกิจขายหรือจำหน่ายสินค้าทั้งแบบขายปลีกและขายส่ง เช่น Alibaba / Lazada /
2.เว็บไซต์หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีรายได้จากเว็บไซต์ เช่น Facebook / Google / Line / Youtubeที่มีการเปิดเป็นเครือข่ายเพื่อขายสินค้าออนไลน์หรือทำรายได้จากการคลิกชมโฆษณา
3.เว็บไซต์จองที่พักหรือโรงแรม เช่น traveloka.com / expedia.co.th / asiatravel.com/th
4.จองตั๋วหรือบัตรชมการแสดง-คอนเสิร์ต
5.เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับนายหน้าการขายสินค้าและบริการ เช่น ประกันออนไลน์ รวมถึงเว็บไซต์ที่มีการรีวิวสินค้าหรือบริการ เว็บไซต์หาคู่ เป็นต้น คาดว่าทั้งระบบจะมีจำนวนนับพันราย
สรรพากรประเมินขณะนี้การค้าขายในธุรกิจออนไลน์ที่เป็นกลุ่มอี-คอมเมิร์ซของไทยมีจำนวน 5 แสนกว่าราย สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1. ผู้ประกอบการกับผู้บริโภค (Business to Consumer – B2C) ถือเป็นการค้าระหว่างผู้ค้าโดยตรงถึงลูกค้า โดยกลุ่มนี้ถือว่าไทยมีจำนวนสูงที่สุดในอาเซียน หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% คิดเป็นจำนวนผู้ประกอบการประมาณ 1.7-1.8 แสนราย 2.ผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ (Business to Business – B2B) มีสัดส่วนประมาณ 30% หรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 7-8 หมื่นราย
ขณะที่ในปี 2559 ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในไทยคาดมีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 2.5 ล้านล้านบาทเติบโตสูงถึง 10% จากปี 2558 ที่มีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านบาทส่วนปี 2560 นี้น่าจะขยายตัวสูงถึง 10% มูลค่าการค้ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท
อย่าใช้ยาแรงธุรกิจไทย
ด้านนายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทตลาดดอตคอม จำกัด ในฐานะกูรูด้านอี-คอมเมิร์ซของไทยกล่าวว่าเห็นด้วยกับกรณีที่กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีของธุรกิจออนไลน์ต่างประเทศ แต่สำหรับธุรกิจในไทยถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งไม่อยากให้รัฐ โดยเฉพาะสรรพากร เดินหน้าจัดเก็บภาษีอย่างเดียว โดยยังมีองค์กรที่เกี่ยวข้องมากมาย ที่ต้องมานั่งหารือ หาแผนและทางออกแบบอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะหากรัฐใช้ยาแรง มีผลต่อการค้าออนไลน์ในประเทศแน่นอนโดยผู้ที่ต้องการทำหรือเริ่มทำการค้าออนไลน์จะตื่นตระหนกไปหมด และกระทบต่อธุรกิจออนไลน์แน่นอน รวมไปถึงผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซและออนไลน์ในไทย
“ที่น่าเป็นห่วงคือ อำนาจสรรพากรเพิ่มมากขึ้น เรียกขอข้อมูลลูกค้าเมื่อไรก็ได้หากสงสัยตรงนี้จะทำให้ลูกค้าหลายๆ คนกังวลว่าจะเปิดธุรกิจออนไลน์ในไทยดีหรือไม่ เราอาจจะเห็นการย้ายฐานการค้าของคนทำการค้าออนไลน์บางกลุ่มย้ายออกไปใช้บริการของต่างประเทศ ที่กฎหมายไทยไม่ครอบคลุม แน่นอนว่าจะกระทบกับวงการอี-คอมเมิร์ซไทยแน่นอน”
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปจากจาก thansettakij
ต้องการซื้อ-เช่า !!!คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่
ลงประกาศขาย-ให้เช่า ฟรี !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินกับ Dot Property ขายง่าย ขายไว ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย