จากเเหล่งข่าวกล่าวว่า “ฟอร์บส์” นิตยสารด้านธุรกิจชื่อดังของสหรัฐ ได้จัดอันดับ มหาเศรษฐีไทย ติดอันดับ 30 คน โดย 10 คนแรกมีดังนี้
มหาเศรษฐีไทย บริจาคเพื่อสังคม อาจต่ำกว่าชาวบ้าน 1คน
- เจริญ สิริวัฒนภักดี (เบียร์ช้าง) มีทรัพย์สิน 17,900 ล้านดอลลาร์ อันดับ 65 ของโลก
- ธนินท์ เจียรวนนท์ (ซีพี/ธุรกิจหลากหลาย) มีทรัพย์สิน 14,900 ล้านดอลลาร์ อันดับ 95ของโลก
- วิชัย ศรีวัฒนประภา (คิง เพาเวอร์) มีทรัพย์สิน 5,000 ล้านดอลลาร์ อันดับ 388 ของโลก
- สุเมธ เจียรวนนท์ (ธุรกิจหลากหลาย) มีทรัพย์สิน 4,200 ล้านดอลาร์ อันดับ 514 ของโลก
- จรัญ เจียรวนนท์ (ธุรกิจหลากหลาย) มีทรัพย์สิน 4,100 ล้านดอลลาร์ อันดับ 527 ของโลก
- มนตรี เจียรวนนท์ (ธุรกิจหลากหลาย) มีทรัพย์สิน 4,100 ล้านดอลลาร์ อันดับ 527 ของโล
- สารัชถ์ รัตนาวดี (ธุรกิจพลังงาน) มีทรัพย์สิน 3,600 ล้านดอลลาร์ อันดับ 629 ของโลก
- สมโภชน์ อาหุนัย (ธุรกิจพลังงาน) มีทรัพย์สิน 3,400 ล้านดอลลาร์ อันดับ 679 ของโลก
- วาณิช ไชยวรรณ (ไทยประกันชีวิต) มีทรัพย์สิน 3,300 ล้านดอลลาร์ อันดับ 703 ของโลก
- ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ (ธุรกิจโรงพยาบาล) มีทรัพย์สิน 3,000 ล้านดอลลาร์ อันดับ 791 ของโลก
10 อันดับมหาเศรษฐีไทย อาจบริจาคเงินเพื่อสังคม ต่ำกว่าชาวบ้าน 1คน
บทวิเคราะห์ จากดร.โสภณ ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA ที่ให้ข้อคิดเห็นว่าสัดส่วนเงินบริจาคเพื่อสังคมต่อรายได้ของอภิมหาเศรษฐีแต่ละคนของไทยอาจต่ำกว่าชาวบ้านคนหนึ่งด้วยซ้ำไป จากการศึกษาของ ดร.โสภณ พบว่า “จากการวิเคราะห์ข้อมูลของทางสำนักงานสถิติแห่งชาติ ครัวเรือนหนึ่ง ๆ ของไทยใช้จ่ายเงินเพื่อการบริจาคเป็นเงินเดือนละ 422 บาท หรือ 2.69% ของรายได้ต่อเดือนของครัวเรือน”
ที่นี้มาพิจารณาดูถึงอภิมหาเศรษฐีไทย หากสมมติให้แต่ละท่านหารายได้เป็นเงินประมาณ 5% ของมูลค่าทรัยพ์สินเท่านั้น และให้แต่ละคนบริจาคเงิน 2.69% ของรายได้เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป จะพบว่า คุณ เจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่า 17,900 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือคิดเป็นเงินไทย 561,304 ล้านบาท (ประมาณ 1/4 ของงบประมาณแผ่นดินไทย) จะมีรายได้ที่ 5% ของมูลค่าที่ 28,065 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นหากบริจาคเป็นสัดส่วน 2.69% เช่นชาวบ้านทั่วไป ก็เท่ากับว่าต้องบริจาคเป็นเงิน 755 ล้านบาท หรืออย่างกรณี นพ.ปราเสริฐ ประสาททองโอสถ ที่น่าจะมีรายได้ปีละ 5,174 ล้านบาท ก็ควรบริจาคปีละ 127 ล้านบาท
ในที่นี้ ดร.โสภณ ไม่ได้มีข้อมูลยืนยันการบริจาคเงินของอภิมหาเศรษฐีทั้งหลาย แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครบริจาคเงินถึง 2.69% ของรายได้อย่างแน่นอน เพราะเงินบริจาคโดยรวมอยู่ที่ 96,361 ล้านบาท ณ ปี 2548 แต่ในปี 2560 ที่ผ่านมานี้หาก อภิมหาเศรษฐี 10 อันดับแรกบริจาคเงิน ณ 2.69% จริง ก็จะมีมูลค่ารวมกัน 2,678 ล้านบาท หรือเพียง 2.78% ของเงินบริจาคในปี 2548 ถ้าเป็นในฐานปีเดียวกัน ก็คงน้อยกว่านี้มาก
ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าอภิมหาเศรษฐีบริจาคเงินตามสัดส่วนรายได้น้อยกว่าชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง และเมื่อรวมชาวบ้านนับล้านๆ คน ก็นับว่ามหาศาลจริงๆ ตามตัวเลขข้างต้น ผลการบริจาคของชาวบ้านทั่วไปก็เช่น การบริจาคสร้างโบสถ์วิหารทั่วไปที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดมากมายทั่วประเทศ ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้เป็นถาวรวัตถุเพื่อการพัฒนาประเทศโดยตรง แต่เป็นที่นิยมเพราะเชื่อว่าได้บุญดีมากนั่นเอง
เรานับถือคนรวยเพราะเขาคงขยันหมั่นเพียร แต่ต้องไม่สยบยอมต่อความรวยโดยไม่เข้าใจให้ถ่องแท้….
เพราะอะไร 6 ปีผ่านไป 4 เจ้าสัว รวยล้นฟ้า แต่ชาวกรุงจนลง
ที่มา ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย