สำหรับคนที่คิดว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ยังจะลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ได้อยู่หรือไม่ และหากว่าคุณมีอสังหาริมทรัพย์ในครอบครองอยู่ในพื้นที่ของเมืองท่องเที่ยวแล้วล่ะก็ เรามีข้อมูลดีๆมาให้ใจชื้นกันหน่อยล่ะค่ะ เพราะเราพบข้อมูลดีๆที่บอกว่าในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา, ศรีราชา, หัวหิน-ชะอำ, ภูเก็ต, เขาใหญ่ หรือว่าเชียงใหม่ ยังมีโอกาสในการทำเงินอยู่นั่นเองค่ะ
ลองมาเริ่มกันตั้งแต่ พัทยา เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย เรียกได้ว่ายังสามารถทำเงินได้อีก กลยุทธ์ในการเจาะกำไรจากนักท่องเที่ยวนั้น จะเป็นการเจาะตลาดเช่าแบบเป็นรายวัน ซึ่งทำเลฮ็อตนั้น เรียกได้ว่ากระจุกตัวอยู่ในบริเวณจอมเทียนกว่า 40% ตามมาด้วยหาดวงศ์อมาตย์ 20% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เท่ากันกับพัทยากลาง นอกจากนี้พื้นที่ที่น่าสนใจลงทุนในพัทยายังอยู่ที่เขาพระตำหนัก 13% และนาจอมเทียนอีก 7% อีกด้วย สำหรับต้นทุนเฉลี่ยในการลงทุนห้องชุดนั้นจะอยู่ที่ 1 ห้องนอน 1.8-3 ล้านบาทต่อยูนิต โดยแนวโน้มอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 1 วัน สำหรับห้องนอนจะอยู่ที่วันละ 1 – 2 พันบาท ถ้าเป็นรายเดือนเจาะกลุ่มคนไทยจะอยู่ที่ 7,000 -23,000 บาท ส่วนหากต้องการเปิดเช่าโดยเน้นที่กลุ่มต่างชาติจะได้ที่ 45,000 – 50,000 บาทเลยทีเดียว
ต่อกันด้วยทำเลเด่นอย่าง “ศรีราชา” ที่เรียกว่าเป็นทำเลยอดฮิตและน่าจับจองสำหรับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่จะเน้นลูกค้าต่างชาติที่เป็นนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวทางธุรกิจ และทำเลฮอตฮิตในศรีราชานั้น ได้แก่ ทำเลพื้นที่ที่ใกล้กับโรบินสันศรีราชา และเจ พาร์คนั่นเอง หากใครที่คิดจะลงทุนก็ขอบอกเลยว่า อาจจะต้องลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในละแวกเดียวกัน เนื่องจากนิสัยของชาวญี่ปุ่นเองที่ชอบอยู่รวมตัวกันเป็นสังคมชนชาติ เนื่องจากให้ความรู้สึกปลอดภัย ไม่ต้องห่วงหรือกังวล ดังนั้น หากผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลลักษณะนิสัย ตลอดจนไลฟ์สไตล์ของชาวต่างชาติก็จะทำให้สามารถเข้าถึงและได้ใจจากลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น สำหรับต้นทุนเฉลี่ยสำหรับการลงทุนห้องชุด 1 ห้องนอนนั้นจะอยู่ที่ 2.5-3 ล้านบาท ต่อยูนิต ส่วนแนวโน้มอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 1 ห้องนอน ต่อวันนั้นจะอยู่ที่ 1,500 – 4,500 บาท ส่วนรายเดือนจะอยู่ที่ 15,000 – 49,000 บาท
เรียกได้ว่ายังมีโอกาสที่ได้กำไรจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์บนพื้นที่เมืองท่องเที่ยวอยู่อีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ลงทุนก็ควรจะศึกษาให้ดีก่อนการลงทุนทุกครั้งด้วยนะคะ ตอนต่อไปจะพูดถึงทำเล หัวหิน-ชะอำ และภูเก็ต ใครสนใจก็รอติดตามกันต่อได้เลยนะคะ
อ้างอิงจาก : Smart finance