DotProperty.co.th

รวมประเด็นเด็ด ข่าวอสังหาฯ ปี 2017

ข่าวอสังหาฯ ประจำปี 2017 รวมประเด็นเด็ดน่าจับตามอง ใน 1 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับปีนี้…

1. ข่าวอสังหาฯ นายกฯ เปิดก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กทม.-โคราช

จากที่วันที่ 21 ธ.ค.60 ที่ผ่านมานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายหวัง เสี่ยวเทา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ร่วมกันเป็นประธาน เริ่มการก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค

ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ – นครราชสีมา จะมีระยะทาง 252.3 กิโลเมตร และวงเงินลงทุนประมาณ 179,000 ล้านบาท มีสถานีทั้งหมด 6 แห่ง คือ สถานีกลาง สถานีดอนเมือง สถานีอยุธยา สถานีสระบุรี สถานีปากช่อง และสถานีนครราชสีมา และมีความเร็วอยู่ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเส้นทางช่วงแรกที่เริ่มก่อสร้าง คือช่วงกลางดง – ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 430 ล้านบาท โดยมีทีมวิศวกรฝ่ายจีนมาดำเนินการทั้งหมด 15 คน และมีวิศวกรฝ่ายไทยเข้าร่วมเพื่อรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจำนวน 6 คน

โดยเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา จะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2565 นั้นเอง โดยนอกจากนี้มีการคาดว่าเมื่อโครงการเสร็จและเริ่มเปิดใช้ โดยมีค่าโดยสารแรกเข้า 80 บาท และบวกด้วยอัตรา 1.8 บาทต่อกิโลเมตร ซึ่งราคาสูงสุดจากเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา จะอยู่ที่ 535 บาท นอกจากนี้รัฐคาดว่าจะมีผู้โดยสาร 5,300 คนต่อวัน และเมื่อถึงปี 2594  ผู้ใช้บริการขั้นต่ำ 26,800 คนต่อวัน ส่วนระยะที่ 2-4 ไม่เกินกลางปีหน้า ก็จะเริ่มเปิดประมูลแล้ว  รวมถึงเปิดให้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย ในปี 2566 ค่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

2.One Bangkok’ พลิกโฉมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในไทยและภูมิภาค

ข่าวอสังหาสุดยอดโครงการอสังหาฯ ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย One Bangkok โดยเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท และ บริษัท เฟรเซอร์ส เซ็นเตอร์พอยท์ ลิมิเต็ด  ได้ผนึกกำลังร่วมกันพลิกโฉมพื้นที่ขนาด 104 ไร่ ใจกลางของกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นเมืองที่จะเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนจะต้องมาเยี่ยมเยือนให้ได้แห่งหนึ่งของโลก โดยโครงการ One Bangkok มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 120,000 ล้านบาท โครงการนี้เลยเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยภาคเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย

ตัวโครงการ One Bangkok จะประกอบไปด้วย  อาคารสำนักงานที่ล้ำยุค โรงแรมหรูที่มุ่งเน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ร้านค้าและพื้นที่ทำกิจกรรม ที่หลากหลายครบครันซึ่งจัดสรรไว้ในบริเวณต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์ ในด้านที่พักอาศัยอยู่ในระดับอัลตราลักชัวรี่ มีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจมากมาย รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่ง ขนาดรวมกัน 50 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ 104 ไร่ โดยโครงการตั้งอยู่บนที่ดินเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในทำเลทองบริเวณหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 ติดกับสวนลุมพินี เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบขนส่งมวลชนมากมายอีกด้วย นอกจากนี้ เมื่อสร้างเสร็จจะสามารถพลิกโฉมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพและสามารถเป็นจุดแลนด์มาร์คระดับโลก อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

3.เชื่อมแล้วรถไฟฟ้าเตาปูน-บางซื่อ ประชาชนใช้บริการคึกคัก

เมื่อวันที่11 ส.ค.2560 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดให้บริการสถานีเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนแรก ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ เปิดให้ประชาชนใช้บริการอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้  ค่าโดยสารมีราคาสูงเพราะหน่วยงานต้องหารายได้มาเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีในระบบการเดินทาง เมื่อมีผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้น คาดหวังว่า ค่าโดยสารจะปรับลดลงทำให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายในภายหลัง โดยการมาของ การเปิดให้บริการสถานีเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนแรกนั้น นอกจากจะเปิดโอกาศการเดินทางที่สะดวกขึ้นของคนในพื้นที่แล้วยังช่วยให้พื้นที่ดินแถวนั้นยิ่งมีราคาที่ดีขึ้นเนื่องจากสามารถเดินทางเข้าไปในตัวเมืองได้ง่ายยิ่งขึ้นนั้นเองค่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

4.รู้จัก ‘อีอีซี’ โครงการความหวังเศรษฐกิจไทย 1.5 ล้านล้านบาท ภาคต่อของ ‘อีสเทิร์นซีบอร์ด’ ยุคป๋าเปรม

อีอีซีคือ โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เป็นภาคสองต่อยอดจากโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด    พื้นที่อุตสาหกรรมที่เกิดจากโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด ในยุคพลเอกเปรมสามารถรองรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูงในอดีต เช่น เม็ดพลาสติก ปิโตรเคมี ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นต้น

แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีและทิศทางอุตสาหกรรมโลกเปลี่ยนแปลงและซับซ้อนขึ้น พื้นที่เดิมจึงไม่สามารถรองรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงในปัจจุบัน หรือแม้แต่ไม่สามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเดิมได้ โดยมีการ ลงทุน 1.5 ล้านล้านบาท รับอีอีซี เพื่อ รองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย แบ่งเป็น 5 อุตสาหกรรมดั้งเดิม แต่ยังไม่ตกเทรนด์ มีแนวโน้มปรับตัวและพัฒนาสู่อนาคตได้

สำหรับแผนการลงทุนของรัฐบาลตามกรอบการลงทุนรวมของภาครัฐและเอกชน ระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) รวมกว่า 1.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในส่วนของภาครัฐไม่เกิน 3 แสนล้านบาท ภาคเอกชน 5 แสนล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกจะเป็นการร่วมทุนของภาครัฐกับเอกชน 7 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นการร่วมลงทุนก่อสร้างท่าเรือ สนามบิน และรถไฟ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

5.เปิดตัวสร้างเสร็จคอนโด 98 Wireless ที่แพงที่สุดในไทย

ข่าวอสังหา โครงการคอนโดระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่  ของแสนสิริ ที่ใช้เวลา7 ปี ในการพัฒนาโครงการ นั้นคือ 98 WIRELESS ตัวโครงการมี 77 ยูนิต เท่านั้น และมูลค่ารวมโครงการถึง 8,700 ล้านบาท นอกจากนี้ทางโครงการยังประกาศว่า จะต้องเป็นคอนโดที่จะต้องสร้างเสร็จก่อนขายเท่านั้นก่อนตัดสินใจซื้อ โดยมีราคาขายเฉลี่ย 580,000 บาท/ตร.ม. หรือราคาประมาณ 70 – 250 ล้านบาทต่อยูนิต และมีห้องที่ราคาสูงสุดอยู่ที่ 650 ล้านบาท ที่สำคัญมีลูกค้าสนใจซื้อตั้งแต่ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ โดยห้องที่ขายได้อย่างรวดเร็ว คือ เพนท์เฮ้าส์ และซูเปอร์เพนท์เฮ้าส์ ที่เรียกว่า “The One” อยู่ชั้นบนสุดของโครงการ ถือเป็นซูเปอร์เพนท์เฮ้าส์ที่ราคาสูงที่สุดในประเทศไทย

โดยตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเล ถนนวิทยุ หรือ Wireless Road ที่ตัวโครงการ98 WIRELESS ตั้งอยู่ถัดจากบ้านพักเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เดินทางสะดวก มีพื้นที่สีเขียวอยู่โดยรอบ มีความหรูหราและศูนย์กลางช้อปปิ้งอยู่โดยรอบ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

6.ศุภาลัยชนะประมูลที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย

โดยบริษัท ศุภาลัย จำกัด ได้เป็นผู้ชนะการประมูลซื้อที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย เนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน 82 ตารางวา บนถนนสาทร  ติดถนนสวนพลู มูลค่าที่ดิน 4,600 กว่าล้านบาท หรือคิดเป็นตารางวาละ 1.45 ล้านบาท ซึ่งจะเตรียมพัฒนาที่ดินเป็นโครงการ โดยจะพัฒนาให้โดดเด่นสวยงามเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในย่านถนนสาทร สีลมโดยคาดว่าจะมีมูลค่ารวมประมาณ 17,000 ล้านบาท อีกทั้งเป็นทำเลที่คุ้นเคยและนิยมของชาวต่างชาติอีกด้วย จึงเป็นทำเลที่ตั้งที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนพัฒนาเป็นอาคารชุดพักอาศัยและอาคารสำนักงานเกรด A ให้เช่า

โดยโครงการวางผังออกแบบอาคารในแนวทาง Green Design ที่อนุรักษ์พลังงาน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มีสวนขนาดใหญ่อยู่ในโครงการและเก็บรักษาต้นไม้ใหญ่ของเดิมส่วนหนึ่งไว้ นอกจากนี้พร้อมจะนำนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มาใช้ในการออกแบบที่ไม่มีในโครงการอื่นๆ มาก่อน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

7.Origin โตแบบก้าวกระโดดก้าวขึ้นเป็น Top 5 บริษัทอสังหาฯของไทย

จัดว่าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มาแรงจริงๆในปี 2016 ที่ผ่านมาสำหรับ  ORIGIN  หลังจากนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ไม่นานก็สามารถโตแบบก้าวกระโดดก้าวขึ้นเป็น Top 5 บริษัทอสังหาฯของไทยได้ จากการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่องและมีก้าวสำคัญใหม่ๆตลอดรวมถึงแนวความคิดใหม่ๆและโลเคชั่นที่ถือว่าถูกใจคนรุ่นใหม่หลายคน

อีกด้วยโดยปีที่ผ่านมา Origin มีแนวคิดและโครงการเด็ดๆดังนี้

1.การแลกหุ้นและร่วมธุรกิจกับ Proud Residence พร้อมแผนพัฒนา Origin 24 เป็น Mixed Use ระดับ 5 ดาว โดย Big Dealนี้  เกิดขึ้น ระหว่างบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กับบริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด ของตระกูลลิปตพัลลภ โดย Origin เข้าไปซื้อหุ้น 100% มูลค่า 4,000 ล้านบาท ในขณะที่กลุ่มผู้ถือหุ้นของพราวฯ เข้าไปถือหุ้นใน Origin สัดส่วน 5% มูลค่าหุ้น 1,000 ล้านบาท และยังมาพร้อมกับแผนพัฒนา Origin 24 เป็น Mixed Use ระดับ 5 ดาวอีกด้วย

2.แผนร่วมทุนกับ Nomura Real Estate จากญี่ปุ่น  เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดร่วมกันในหลายทำเล หวังแลกเปลี่ยน Know-How หนุนความแข็งแกร่ง และประกาศปรับแผนและเป้าปี 60 จากเดิมเปิดโครงการใหม่ 9 เป็น 12 โครงการ มูลค่า 1.805 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป้ารายได้เป็น 9,000 ล้านบาท ข้อดีของการร่วมทุนผ่านบริษัทย่อยในเครือจะทำให้ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ สามารถร่วมมือกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ได้ในหลากทำเลที่ออริจิ้นมีที่ดินพร้อมพัฒนาอยู่แล้ว

3.รุกธุรกิจโรงแรมดึงเชน IHG บริหารโรงแรม 3 แห่งภายใต้แบรนด์ StayBridge แห่งประกอบด้วย 1.สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ (Staybridge Suites Bangkok Thonglor) 2.สเตย์บริดจ์ สวีท ชลบุรี ศรีราชา (Staybridge Suites Chonburi Siracha) และ 3.ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง (Holiday Inn Suites Siracha Laemchabang) โดยทั้ง3โครงการจะทยอยเปิดให้บริการจนครบ ภายในปี 2564 โดยการนำแบรนด์สเตย์บริดจ์ สวีท (Staybridge Suites) เข้ามานั้น ถือเป็นการนำแบรนด์ดังกล่าวเข้ามาใช้เป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

8.แสนสิริเข้าลงทุนและเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ระดับโลก

แสนสิริ เปิดแผนการลงทุนมูลค่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2,800 ล้านบาทใน 6 ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลกอย่าง Standard International – One Night – Hostmaker – JustCo – Farmshelf – Monocle แล้ว โดยทั้ง 6 ธุรกิจล้วนมีอัตราการเติบโตสูงในตลาดโลกซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของแสนสิรินอกประเทศไทย โดยแต่ละแบรนด์ชั้นนำของโลก  ทำอะไรบ้าง

  1. Standard International ทำในด้านธุรกิจบูติกโฮเทลที่มีโรงแรมมีแผนการลงทุน การลงทุนครั้งนี้จะใช้เป็นเงินลงทุนในโรงแรมใหม่ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มใหม่ และในการพัฒนานวัตกรรมแอปพลิเคชั่น One Night สำหรับการจองโรงแรมแบบนาทีสุดท้าย (Last minute booking) เพื่อเข้าพักในวันเดียวกันโดยมีโรงแรมไลฟ์สไตล์ที่คัดสรรมาแล้วจากทั่วโลกให้เลือก
  2. เดอะ สแตนดาร์ด โฮเท็ล ทำแอปพลิเคชั่นสำหรับการจองโรงแรม ชื่อ One Night  โดยแผนการลงทุน แสนสิริจะช่วยส่งเสริมให้ One Night พัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพและเติบโตในตลาดนานาชาติ โดยเฉพาะในเอเชีย
  3. Hostmaker บริษัทผู้ให้บริการบริหารการเช่าที่พักอาศัยและผู้บริหารการจองที่พักอันดับหนึ่งของ Airbnb โดยแผนการลงทุน Hostmaker จะขยายธุรกิจสู่เอเชียภายใต้การสนับสนุนของแสนสิริ ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างรายได้ใหม่ ๆ จากตลาดนอกประเทศไทยให้กับแสนสิริ
  4. JustCo คือ ผู้ให้บริการ Co-Working Space ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแผนการลงทุนที่ แสนสิริและ JustCo จะเปิดตัว JustCo สาขาใหม่ 4 แห่งในกรุงเทพฯ ในปี 2561 รวมทั้งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น จาการ์ต้า กัวลาลัมเปอร์ โฮจิมินซิตี้ และมะนิลา ซึ่งคาดว่าจะสามารถขยาย Co-Working Space ได้ครบ 30 แห่งทั่วเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2561
  5. Farmshelf คือผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมการเพาะปลูกแบบอัตโนมัติผ่านแอปพลิเคชันและ AI ซึ่งช่วยให้ทุกคนสามารถปลูกผักเพื่อการบริโภคได้ง่ายดายภายในบ้านหรือที่ทำงาน แผนการลงทุน Farmshelf มีโอกาสทางธุรกิจอันมหาศาลเพื่อการนำไปใช้ในโครงการที่พักอาศัยต่าง ๆ ของแสนสิริ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ลูกบ้าน การร่วมเป็นพันธมิตรครั้งนี้คือโอกาสสำคัญในการขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชีย
  6. Monocle คือ ทำหน้าที่เป็นสื่อ โดยแผนการลงทุน Monocle จะทำหน้าที่ส่งเสริมแบรนด์แสนสิริและพันธมิตรให้โดดเด่นยิ่งขึ้น โดยช่วยกำหนดและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เชื่อมโยงสู่กลุ่มลูกค้าของ Monocle ในตลาดนานาชาติโดยอาศัยฐานธุรกิจที่มีอยู่ทั่วโลก และยังเล็งเห็นถึงโอกาสสำคัญในการพัฒนาธุรกิจที่ใช้ชื่อแบรนด์ร่วมกันในเซกเตอร์ใหม่ในอนาคต นอกจากนี้แสนสิริยังมีแผนในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยแบบมิกซ์ยูสแนวคิดใหม่ร่วมกับ Monocle ในกรุงเทพฯ ในปี 2561 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

ลงประกาศฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย คลิ๊ก …

ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่