สวัสดีค่ะวันนี้เรากลับมาพบกันอีกครั้งนะค่ะโดยวันนี้เรามีบทความดีๆ มาฝากกันอีกเช่นเคย โดยเมื่อวันที่ 1 ม.ค.61 เป็นต้นไป กรมธนารักษ์ ได้บังคับใช้ ราคาประเมินที่ดินใหม่ เพื่อเป็นราคาอ้างอิง ตลอดทั้งปี 2561 โดยเดี๋ยววันนี้เราไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าพื้นที่ไหนแพงและถูกที่สุดในประเทศไทยกันค่ะเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ
ราคาประเมินที่ดินใหม่ เริ่มใช้แล้วตั้งแต่วันนี้ !!!
โดย อธิบดีกรมธนารักษ์ นายพชร อนันตศิลป์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกรมธนารักษ์ทำการประเมินราคาที่ดินรายแปลงครบทั้งหมด 32 ล้านแปลงแล้ว และได้ประกาศบังคับใช้เพื่อเป็นราคาอ้างอิงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ราคาปรับเพิ่มสูงสุด คือ ทำเลย่านสีลมราคา 1 ล้านบาทต่อตารางวา ต่ำสุด คือ ทำเลบริเวณเขตบางขุนเทียน แถวคลองโล่ง ราคา 500 บาทต่อตารางวา ส่วนต่างจังหวัด อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ราคามาแรงขยับเพิ่มเป็น 400,000 บาทต่อตารางวา บริเวณถนนประชาธิปัตย์ ส่วนราคาต่ำสุดแถวโคกเจริญ จ.ลพบุรี ราคา 20 บาทต่อตารางวา
โดยราคาประเมินที่ดินทั้งหมดสามารถที่จะอ้างอิงจัดเก็บภาษีดินและสิ่งปลูกสร้าง ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หลังจากเบื้องต้นกำหนดขั้นต่ำจัดเก็บภาษีจากราคาบ้านไม่เกิน 20 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี เริ่มจัดเก็บปี 2562 ตอนนี้กรรมาธิการการเงินการคลังฯ สนช.และกระทรวงการคลังกำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นและสำรวจข้อมูลจากกลุ่มต่าง ๆ สำหรับพิจารณาจัดเก็บภาษีที่ดินฯ หลังจากร่างเดิม ที่มี4ประเภท ดังนี้
- ที่ดินเพื่อการเกษตรมีเพดานภาษีร้อยละ 0.2 และยกเว้นเก็บภาษีที่ดินมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาท จัดเก็บสัดส่วนลดลงเมื่อราคาบ้านสูงขึ้นตามสัดส่วนที่กำหนด
- เป็นที่ดินเพื่ออยู่อาศัยเพดานภาษีร้อยละ 0.5 เว้นภาษีบ้านหลังแรกมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาท ราคาเกิน 20 ล้านบาทจัดเก็บร้อยละ 0.05
- ที่ดินเพื่อการพาณิชย์
- ที่ดินว่างเปล่า กำหนดเพดานภาษีไม่เกินร้อยละ 2 โดยมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาท เสียภาษีร้อยละ 0.3 เมื่อต้องทบทวนอัตราการจัดเก็บใหม่ โดยเมื่อกรรมาธิการการเงินการคลังฯ สนช.และกระทรวงการคลังรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเพิ่ม เพื่อต้องการปรับสัดส่วนการจัดเก็บให้ตรงกับข้อมูลอย่างรอบด้าน
สำหรับท่านไหนที่ต้องการจะค้นหาราคาประเมินที่ดินใหม่
สามารถเข้าได้ที่นี้ ราคาประเมิน ที่ดินใหม่
คำแนะนำสำหรับการค้นหาคารประเมินที่ดินรายแปลง
ข้อมูลราคาประเมิน ที่อยู่นอกเหนือจากนี้ เป็นการประเมินรายบล๊อก หากต้องการสอบถามราคาประเมินที่ดิน สามารถไปขอดูที่กรมที่ดิน สำนักงานที่ดินที่ตั้งอยู่ ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดนั้นๆ และสำนักประเมินราคาทรัพย์สินอาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ตรวจสอบข้อมูลที่ดินกับเอกสารสิทธิ ณ สำนักงานที่ดิน ที่ตั้งอยู่
- ตัวเลขระวางทั้งหมดจะแยกเป็น 3 ชุด
- ชุดที่หนึ่งประกอบด้วยเลข 4 หลักเช่น 5036 ตามด้วยภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่คือ I หรือ II หรือ III หรือ IV
- ชุดที่สอง ประกอบด้วยเลขอยู่ 4 ตัวอักษร เช่น 5420
- ชุดที่สามเป็นตัวเลข 2 หลักตั้งแต่ 00 – 64
ถ้าหากค้นหาด้วยเลขที่โฉนดและเลขที่ดินไม่พบราคาประเมิน ให้ติดต่อที่สำนักงานที่ดินที่รับผิดชอบ
แนวทางการพัฒนาที่ราชพัสดุ ปี 2561
โดย รองอธิบดีกรมธนารักษ์ นางสาวอมรรัตน์ กล่ำพลบ เปิดเผยว่า แนวทางการพัฒนาที่ราชพัสดุปี 2561 วงเงินประมาณ 90,000 ล้านบาท เพื่อต้องการผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมหลายโครงการ ประกอบด้วย การพัฒนาอาคารเชิงพาณิชย์บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต หลังจากหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ใช้เงินลงทุน 26,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 30 ปี ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี เพื่อสร้างเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่และยังจัดสรรพื้นที่ชดเชยคืนให้กับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวนพื้นที่ 120,000 ตารางเมตร
เพื่อใช้เป็นสถานที่จอดรถมินิบัสขนาดเล็กเชื่อมโยงการขนส่งผู้โดยสารทั้งรถไฟฟ้าและรถมินิสับขนาดเล็กไปต่างจังหวัด ในด้านการพัฒนาที่ดินบริเวณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่มีมูลค่าลงทุนสูงอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ระยะเวลา 50 ปีนั้น รองอธิบดีกรมธนารักษ์ ย้ำว่า โครงการคืบหน้ามากแล้วจากเดิมที่มีแผนการก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ แต่ติดปัญหาเรื่องความสูง จึงต้องแก้ไขสัญญาเพื่อสร้างเป็นศูนย์ประชุมเพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงต้องเสนอ ครม. พิจารณาเพิ่มอีกครั้ง
ส่วนของท่าเรือสาธารณะและเชิงพาณิชย์
กรมธนารักษ์ยืนยันว่ามอบอำนาจให้กรมเจ้าท่าดำเนินโครงการได้ทั้งหมด ให้ทำการพิจารณาจัดหาผู้เช่าและบริหารท่าเรือที่มีทั้งหมด 35 ท่าเรือโดยจะปรับลดค่าเช่ารายปีลดลงร้อยละ 60-70 ดังนั้น การพัฒนาท่าเรือใดกระทรวงคมนาคมต้องเสนอ ครม.พิจารณาเป็นรายโครงการด้วยตนเองทั้งหมด ในส่วนด้านแผนลงทุนหอชมเมืองกรุงเทพฯ โดยมีวงเงินลงทุน 4,600 ล้านบาท
โดยในตอนนี้ขอัยการอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างสัญญา คาดว่าเริ่มลงทุนได้ในปี 2561 ส่วนแผนการก่อสร้างศูนย์ราชการโซน C ขณะนี้ส่วนราชการยื่นแสดงความจำนงขอเช่าพื้นที่เต็มจำนวนทั้งหมดแล้ว ด้วยเงินลงทุน 30,000 ล้านบาท หากรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นต้องการเพิ่ม ต้องการแผนให้ ครม.พิจารณา ส่วนความคืบหน้าพัฒนาอาคารร้อยชักสามบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามหอชมเมืองกรุงเทพฯ อายุสัญญา 36 ปี ภาคเอกชนเตรียมนำมาพัฒนาเป็นโรงแรมหรูริมแม่น้ำ ด้วยเงินลงทุน 14,000 ล้านบาท
ตอนนี้การเจรจามีความคืบหน้ามากแล้ว ตอนนี้แค่ต้องรอให้อัยการตรวจร่างเพิ่มคาดว่าสรุปได้ไตรมาสแรกปีหน้า โดยมี มีวงเงินลงทุนประมาณ 90,000 ล้านบาท นับว่าโครงการลงทุนทั้งหมดที่ต้องการผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมปี 2561 หวังนำที่ว่างเปล่ามาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โดยคาดว่าน่าจะสรุปได้ไตรมาส แรกของปีนี้
ลงประกาศฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย คลิ๊ก …
ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่