นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร อดีตนายใหญ่ บขส.-บริษัทขนส่ง จำกัด ที่ได้รับตำแหน่งใหม่มานั่งใน ร.ฟ.ท. การรถไฟแห่งประเทศไทย องค์กรเก่าแก่กว่า 118 ปี และมีหนี้สินพ่วงอยู่กว่า 1.1 แสนล้านบาท จึงทำให้สนใจที่จะจับตามอง ซึ่งเราจะตามไปดูแผนงานของผู้ว่าคนใหม่กัน
ภารกิจในช่วง 3-6 เดือนแรก จะเป็นการกู้ภาพลักษณ์การรถไฟ ทั้งในเรื่องของความสะอาด ความปลอดภัย ซึ่งต้องทำอย่างรวดเร็วเนื่องจากคนจับตามองมากเป็นพิเศษ ซึ่งใน 6 เดือนนี้จะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ทั้งเรื่องกลิ่นเหม็นของห้องน้ำ และเรื่องรถไฟตกราง จะป้องกันให้เกิดขึ้นน้อยลง และเร่งการประชาสัมพันธ์เชิงรุกมากขึ้น
เรื่องต่อมาคือการเร่งพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ พัฒนาระบบราง โดยจะทำโครงการต่างๆคู่ขนานไปกับการทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนเรื่องที่สามคือเดินสายตรวจเยี่ยมพนักงานในพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อรับฟังปัญหา โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพชีวิตของพนักงาน และหลังจากนั้นจะทำตัวเลขรายรับ-รายจ่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการดำเนินงานขององค์กร เช่น การหารายได้เพิ่ม หาจากที่ไหน การให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งจะเน้นรถโดยสารปรับอากาศมากยิ่งขึ้น
สำหรับการหารายได้นั้น จะเริ่มจากการบริหารจัดการสิ่งที่รถไฟมีก่อน เช่น ที่ดินและทรัพย์สินต่างๆ ซึ่งขณะนี้ได้ทำงานรวบรวมสัญญาเช่าทั่วประเทศที่มีอยู่กว่า 14,000-15,000 สัญญา และจัดระเบียบที่ดินกันใหม่ ต้องเพิ่มมูลค่ารายได้ให้มากกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี เพราะต่อจากนี้ไม่ใช่มีเพียงแค่รถไฟ แต่จะมีทั้งรถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วปานกลาง ที่จะสามารถต่อยอดพัฒนาสร้างรายได้ต่อไป สำหรับการจัดการที่ดินในทำเลทอง จะเริ่มจากการพิจารณาปัญหาก่อนแล้วบริหารจัดการให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการรถไฟต่อไป
งานเร่งด่วนที่ต้องเร่งให้เสร็จก่อน คือการเร่งรัดรถไฟไทย-จีน ให้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปีนี้ และหากทำสำเร็จการรถไฟไทยก็จะเปลี่ยนโฉมไปเป็นรถไฟที่ทันสมัย และสามารถรองรับการเปิดการค้าในอาเซียน ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นโมเดลนำร่องให้กับกลุ่มอาเซียนเพื่อการพัฒนาต่อไป
ที่มา : ประชาชาติ