สรุปหนี้สินครัวเรือนปี 61 คนไทยเป็นหนี้เฉลี่ย 178,994 บาท ต่อครัวเรือน

หนี้ครัวเรือน

หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงาน หนี้ครัวเรือน ไตรมาส 2 ของปี 2561 ตอนนี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเมื่อดูจากยอดคงค้างสินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ ที่ขยายตัว 8% ด้านความสามารถในการชำระหนี้เมื่อดูสัดส่วนหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมลดลงจาก 2.78% ในไตรมาสแรกปี 2561 เป็น 2.72%  ภาพรวมลดลงในสินเชื่อเกือบทุกประเภท แต่สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

หนี้ครัวเรือน ปี 61  คนไทยเป็นหนี้เฉลี่ย 178,994 บาท ต่อครัวหนี้ครัวเรือน

หลังจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  ได้รายงานตัวเลขเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนไตรมาส 1 ปี 2561 พบว่า ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนขยับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 12.17 ล้านล้านบาท  เพิ่มขึ้น 5.2%  จากปีก่อน  ในด้าน สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี ชะลอลงมาอยู่ที่ 77.6% จาก 78.0% ในไตรมาส 4 ของปีก่อนทำให้ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกมาคาดการณ์ว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี จะชะลออยู่ที่ 76.5-77.5% ต่อจีดีพี  แต่สัดส่วนหนี้เอ็นพีแอลของรายย่อยจะขยับสูงขึ้น และ ต้นทุนดอกเบี้ยอาจมีแนวโน้มทยอยเพิ่มขึ้น

จากการคาดการณ์นี้จะสะท้อนว่า ประชากรไทยส่วนใหญ่มีแนวโน้มยังคงติดกับดักหนี้ เกือบทุกระดับชนชั้นตั้งแต่ หนี้เพื่อการศึกษา หนี้ที่อยู่อาศัย   และหนี้เพื่อกรอุปโภคและบริโภค ไปอีกสักระยะ  ด้านเปอร์เซ็นต์หนี้สินครัวเรือนปี 61 โดยจากการสรุปของทาง  ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  โดยเฉลี่ยครัวเรือนจะมีหนี้สินเฉลี่ยอยู่ที่ 178,994 บาทต่อครัวเรือน โดยจะแยกเป็น 2 หัวข้อใหญ่ๆคือ

  1. หนี้เพื่อใช้ในครอบครัว 76.9 % แยกเป็น หนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคต่างๆ 39.0%  หนี้เพื่อที่อยุ่อาศัย 36.3% และหนี้เพื่อการศึกษาอีก 1.6 %

2.หนี้เพื่อการลงทุน   23.1% โดยจะแยกเป็น คน2กลุ่มคือ  หนื้ในภาคการเกษตรกรรม 14.0% สำหรับกลุ่มเกษตร กับ หนี้สำหรับการลงทุนในธุรกิจ 8.5 % สำหรับคนทั่วไปและพนักงานบริษัท  และ หนี้อื่นๆอีก 0.6%

 

แนวทางการแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนจากธปท.

หนี้ครัวเรือน

จากปัญหาดังกล่าว ธปท.จึงมีนโยบายที่จะนำมาตรการเชิงป้องกันกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ (GenY) นั้นคือ โครงการ Fin.ดี We Can Do โครงการที่จะให้ความรู้ควบคู่การลงมือปฏิบัติในทางการเงินของครูและนักศึกษาในสถาบันอาชีวศึกษาถึง 17 แห่งจากทุกภูมิภาค นอกจากให้ความรู้แล้วยังมีการจัดประกวดโดยมีรายละเอียดดังนี้

1.นวัตกรรมการสอนซึ่งมุ่งให้ครูจัดทำเครื่องมือการสอนที่บูรณาการกับช่องทางการเรียนในวิชาเรียนและกิจกรรมต่างๆ

2.โครงงานสำหรับนักศึกษาโดยนำความรู้ทางการเงินที่ครอบคลุมความรู้ทางการเงินส่วนบุคคลผู้ประกอบการ ผนวก กับหลักปรัญชาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวคิดและจัดทำผลงาน

โดยคนที่ชนะจะได้เป็นต้นแบบแรงบันดาลใจขยายผลในการนำความรู้เชิงวิชาชีพมาประยุกต์ร่วมกับความรู้ทางการเงินและลงมือปฏิบัติจริง เพื่อส่งต่อพลังความสำเร็จในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสริฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก