กระแสสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) กำลังมาแรงมากเลยใช่ไหมครับ จะไปไหนมาไหนเดี๋ยวนี้แทบไม่ต้องใช้เงินสดในการซื้อขายสินค้ากันแล้ว เพราะแค่หยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเข้าแอปฯ ธนาคารก็โอนซื้อของได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัส หรือถ้าใหม่ขึ้นมาหน่อยก็คือการชอปปิงด้วยการใช้ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ที่ตอนนี้ไม่ได้ใช้ซื้อได้แค่สินค้า อาหารการกิน หรือรถหรูแล้ว แต่ยังสามารถซื้ออสังหาฯ ได้แล้วด้วย
ว่าแต่ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คืออะไร จะใช้ซื้อบ้านหรือคอนโดได้อย่างไร และมีผู้พัฒนาอสังหาฯ เจ้าไหนเข้าร่วมบ้าง ตามไปดูพร้อมกันดีกว่าครับ
คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คืออะไร
คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า คริปโต มาจากคำว่า “Crypto” หมายถึง การเข้ารหัส ส่วนคำว่า “Currency” หมายถึง สกุลเงิน เมื่อสองคำนี้มารวมกันจึงหมายถึง สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่ต้องอาศัยการเข้ารหัส เพื่อใช้ในการป้องกัน และยืนยันตัวตนผ่านระบบที่เรียกกันว่า Blockchain ทำให้ธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเกิดขึ้นได้อย่างปลอดภัย โปร่งใส่ และปลอมแปลงได้ยาก ซึ่งในปัจจุบันนี้เราสามารถนำ Cryptocurrency ที่หลายคนมองว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัล มาใช้จ่ายแทนเงินสดได้แล้ว แถมตอนนี้ยังเข้ามามีบทบาทในการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกด้วย
จริงๆ แล้วมีการใช้คริปโตในการซื้อขายอสังหาฯ มาสักพักแล้ว ด้วยวิธีการซื้อขายในรูปแบบ OTC (Over The Counter) คือ ไม่มีการซื้อขายผ่านตลาดที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ซื้อและผู้ขายจะทำการตกลงราคากันเอง โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เมื่อทำการชำระเสร็จแล้ว ค่อยมาทำสัญญาซื้อขายโครงการกันต่อไป แต่สกุลหลักที่มีการยอมรับในการแลกเปลี่ยน คือ บิทคอยน์ อีเธอร์เลียม เท็ตเธอร์ (USDT) หลังจากนั้นก็มีนายหน้าอสังหาฯ ประกาศว่ายินดีรับเงินคริปโต โดยเจ้าแรกๆ คือ Antalya Homes บริษัทนายหน้าในประเทศตุรกีที่หาโอกาสในช่วงวิกฤติโควิด-19
จนในปัจจุบันมีการใช้ Cryptocurrency เป็นสื่อกลางในการชำระค่าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น จ่ายค่าซื้อบ้าน ซื้อคอนโด หรือ บางธุรกิจมีการบริการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านและคอนโด โดยจ่ายค่าเช่าเป็น Cryptocurrency ล่าสุดกำลังมีการจะนำอสังหาริมทรัพย์มาแปลงสภาพเป็น Token Digital กลายเป็นการออก Token Digital ที่มี Asset จริงๆ มาเป็นเหมือนหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อการลงทุนด้วย
มีอสังหาฯ เจ้าไหนบ้างที่เปิดให้ซื้อ-ขายบ้านหรือคอนโดด้วย “คริปโต”
1. Ananda Development
ประกาศความร่วมมือกับ Bitkub บริษัทชั้นนำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ให้บริการเทคโนโลยี Blockchainและ Cryptocurrency ให้พัฒนาช่องทางการชำระเงินซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียมของอนันดาฯ ทุกโครงการผ่าน Cryptocurrency ผ่าน Wallet ของบิทคับได้
สำหรับโครงการที่เข้าร่วมครั้งนี้ คือ ทุกโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าของอนันดาฯ ภายใต้แบรนด์คุณภาพอย่าง แอชตัน, ไอดีโอ คิว , ไอดีโอ โมบิ , ไอดีโอ , เอลลิโอ , ยูนิโอ , อาร์เทล , แอริ , เอโทล , ยูนิโอทาวน์ และเออร์บานิโอ
2. Origin
จับมือกับ Bitkub เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียมในเครือออริจิ้นทุกโครงการครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ผ่านสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ใน 3 สกุลเงิน ได้แก่ อีเธอเรียม (Ethereum – ETH) เทเทอร์ (Tether USD – USDT) และบิทคอยน์ (Bitcoin – BTC)
โดยผู้ซื้อสามารถชำระผ่าน Wallet จากบัญชี Bitkub ในการซื้อบ้านจัดสรร ทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยวในแบรนด์ไบรตัน (Brighton) บริทาเนีย (Britania) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) และบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่เบลกราเวีย (Belgravia)
ส่วนคอนโดสามารถซื้อได้ในทุก Segment เช่น ดิ ออริจิ้น (The Origin), ออริจิ้นปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) บริกซ์ตัน (Brixton) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) และ โซโห แบงค็อก (SOHO Bangkok)
3. แสนสิริ
ร่วมมือกับ XSpring ให้สามารถใช้คริปโตฯ ซื้อบ้าน-คอนโดมิเนียมของแสนสิริได้ทุกโครงการ โดยสามารถเลือกสัดส่วนในมูลค่าของการใช้คริปโตฯ ในการซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริได้ รวมถึงยังใช้จ่ายค่าส่วนกลางได้ตลอดทุกปีสำหรับโครงการที่บริหารโดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เบื้องต้นเปิดรับคริปโตฯ 4 สกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ Bitcoin, Ethereum (ETH), USDC และ USDT ผ่านทาง Bitazza (บิทาซซ่า) โบรกเกอร์-ดีลเลอร์ที่มีเครือข่ายทั้งในไทยและทั่วโลกในฐานะพาร์ทเนอร์ที่ช่วยเปิด Wallet
4. สิงห์ เอสเตท
จับมือเป็นพันธมิตรกับบริหาร เจเนซิส บล็อค (Genesis Block) ในฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระบบนอกตลาด (Over-the-Counter) เบอร์หนึ่งของเอเชีย เพื่อบุกเบิกเปิดทางให้ชาวต่างชาติที่ถือสกุลเงินดิจิทัล สามารถซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น พร้อมมีการบันทึกการโอนเงินเข้าประเทศอย่างเป็นทางการ ซึ่งเบื้องต้นรับ Bitcoin, Ethereum, USDC และ USDT
5. แอสเซทไวส์
ร่วมมือกับ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ Bitkub ให้ลูกค้าสามารถแลกเหรียญคริปโต ผ่าน Wallet ของบิทคับ เพื่อใช้ในการซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมในเครือแอสเซทไวส์ได้ นอกจากนี้เห็นว่าแอสเซทไวส์ยังจัดตั้งบริษัท ดิจิโทไนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เพื่อรองรับการศึกษาและลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล มุ่งความสนใจไปที่เทคโนโลยีบล็อกเชนอีกด้วย
6. เจ้าพระยามหานคร
ร่วมมือกับ บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของเอเชีย ร่วมเพิ่มช่องทางด้านการชำระเงินใหม่และมอบความสะดวกให้กับทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ด้วยคริปโตผ่านโทเคนดิจิทัลทั้งหมด ได้แก่ BTC, ETH, ZMT, USDT, USDC, XRP, LTC, BCH, GOLD, C8P, LINK, OMG, SXP, MKR, ENJ, YFI, SAND, COMP, XLM, SIX และโทเคนดิจิทัลอื่น ๆ บนแพลตฟอร์ม Zipmex
นอกจากนี้ยังสามารถใช้คริปโตในการชำระค่าซื้อคอนโดมิเนียม-บ้าน ทั้งการจ่ายเป็นค่าจอง ค่าทำสัญญาซื้อขาย ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าส่วนกลาง ฯลฯ ได้ทุกโครงการของ CMC GROUP อาทิ โครงการคอนโดมิเนียมเดอะ คิวเว่ ติวานนท์ (THE CUVÉE Tiwanon), The Clev Riverline เจ้าพระยา–วงศ์สว่าง, Bangkok Horizon Lite @สถานีเพชรเกษม 48, Bangkok Feliz @สถานีบางแค, Chateau in Town รัชโยธิน และ Cybiq รามคำแหง 24 เป็นต้น และโครงการทาวน์โฮม Kasa Deva สาทร-วงแหวน เฟส 2-3 และบ้านเดี่ยว The Rich พระราม 2
7. ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI)
ร่วมมือกับ BITKUB เพื่อเปิดรับสกุลเงินดิจิทัล ใช้คริปโตฯ เป็นเจ้าของอสังหาฯ พร้อมวางเงินจอง เงินดาวน์ เงินโอนได้ 100% ของราคาบ้านหรือห้องชุด ใช้แลกเปลี่ยนเป็นค่าที่พัก เมื่อใช้บริการโรงแรม รวมทั้งค่าใช้จ่ายส่วนกลาง หรือ Sinking Fund ผ่านเหรียญ 4 สกุลเงิน ได้แก่ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), USDC และ USDT โดยผู้ซื้อสามารถดำเนินการผ่าน Wallet จากบัญชี BITKUB ได้เลย
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/937402
https://www.thairath.co.th/business/market/2123602
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9640000089410
https://brandinside.asia/origin-and-bitkub-buy-sell-house-condo-crypto/