LPN หวั่นหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ หรือ LPN กล่าวว่า ครึ่งปีหลังมีแบ็กล็อกรอโอน 6,700 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นแบ็กล็อกโอนไตรมาส 4/59 จำนวน 2 โครงการ คือ ลุมพินี วิลล์ นครอินทร์-ริเวอร์วิว และลุมพินี มิกซ์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์
ในขณะที่รีเจ็กต์เรตของ LPN ยังทรงตัว กลุ่มราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มี 30% กลุ่มราคามากกว่า 1 ล้านบาท มี 10% ส่วนปัญหาทิ้งดาวน์หรือยกเลิกในช่วงที่ตึกพร้อมโอนมีน้อย เนื่องจากนักเก็งกำไรมีน้อยลงมาก ประเมินภาพรวม Q3/59 ยังไม่มีปัจจัยบวกหรือลบชัดเจน แต่ค่อนข้างหนักใจกับข้อมูลล่าสุดจาก ม.หอการค้าไทยที่พบว่า หนี้ครัวเรือนของคนไทยเฉลี่ย 3 แสนบาท/ครัวเรือน เพิ่ม 20% จากปี”58 และสูงสุดในรอบ 9 ปี
“คาดว่าไตรมาส 4 อาจจะดีขึ้นบ้าง จากหนี้รถคันแรกเริ่มหมดอายุโครงการ ภาครัฐมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง หนี้ครัวเรือนอาจเห็นแนวโน้มลดลงได้บ้าง เพราะตอนนี้มองว่าเราถึงจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจแล้ว” นายโอภาสกล่าว
เสนาฯเผื่อใจรีเซลห้องชุด
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเมนท์ กล่าวว่า ครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมโอนกรรมสิทธิ์ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นจากโครงการแนวราบ 20% แนวสูง 80% ส่วนปัญหารีเจ็กต์เรตยังคงใกล้เคียงเดิม โดยเฉพาะตลาดล่างราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท มียอดปฏิเสธสินเชื่อ 25% ส่วนการทิ้งดาวน์มี 2-3% ตามปกติ
“ตอนนี้ผู้ประกอบการชินแล้วกับปัญหานี้ เราต้องเตรียมตัวแต่แรกว่าอาจจะมีรีเจ็กต์เรตทำให้ต้องรีเซลห้องชุด อาจต้องเตรียมแผนรองรับสำหรับการขายรอบใหม่ หรือนำยูนิตมารีเซล”
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลังมีแบ็กล็อกรอโอน 5,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการโอนใน Q4/59 ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ปัญหารีเจ็กต์เรตในตลาดล่างราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ที่มีกว่า 30% ยังทรงตัว ซึ่งผู้ประกอบการแก้ปัญหาได้ยากเพราะเป็นการบริหารการเงินของลูกค้าเอง
ส่วนการทิ้งดาวน์มีไม่มากเพียง1%เท่านั้นเนื่องจากนักเก็งกำไรลดจำนวนลงมากแต่ต้องจับตาคอนโดฯทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีนักเก็งกำไรซื้อห้องชุดไว้ตั้งแต่ก่อนรถไฟฟ้าเปิดเดินรถ เมื่อตลาดยังอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย โอกาสทิ้งดาวน์ในทำเลนี้อาจเพิ่มเป็น 2%
แสนสิริดักปัญหาเก็บดาวน์ 20%
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บมจ.แสนสิริ กล่าวว่า บริษัทมีแบ็กล็อก 7,500 ล้านบาท รอโอนในครึ่งปีหลัง มาจาก 3 โครงการหลัก คือ 39 บายแสนสิริ, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 และ 98 ไวร์เลส เป็นคอนโดฯระดับกลางบน-ลักเซอรี่ทั้งหมด ราคา 1.5-5.5 แสนบาท/ตร.ม. ดังนั้นโอกาสมียอดปฏิเสธสินเชื่อต่ำมากเพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีกำลังซื้อสูง บางโครงการอย่าง 39 บายแสนสิริ ลูกค้าซื้อเงินสด 50% ของโครงการ
ส่วนภาพรวมพอร์ตคอนโดฯ แสนสิริมีรีเจ็กต์เรต 10% มียอดทิ้งดาวน์ 2-3% ส่วนใหญ่เกิดปัญหาในคอนโดฯราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท แบรนด์ดีคอนโด กับเดอะ เบส บางส่วน โดยเทรนด์เรื่องการปฏิเสธสินเชื่อและยกเลิกการจองนั้น แสนสิริเริ่มแก้ปัญหาตั้งแต่ 2 ปีก่อน โดยเพิ่มการวางเงินดาวน์เป็น 10-20% จากปกติเรียกเก็บเงินดาวน์ต่ำกว่า 10% ทำให้เป็นตัวช่วยคัดกรองลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net