หลังเกิดข่าวลือแพร่สะพัดถึงการกวาดล้างคนงานต่างด้าว ทำให้แรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะสัญชาติกัมพูชา พม่า ลาว แห่กันเดินทางกลับประเทศจนเป็นข่าวใหญ่โตนั้น ทำให้หลายภาคของธุรกิจได้รับความวุ่นวายตั้งแต่ธุรกิจร้านค้าเล็กๆ ยันธุรกิจใหญ่ๆ ที่ใช้แรงงานต่างด้าว ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ไม่เว้นแม้แต่ภาคอสังหาฯ
ซึ่งส่วนใหญ่นั้นผู้รับเหมาจะใช้แรงงานต่างด้าวจาก กัมพูชา พม่า ลาว เป็นหลักซึ่งหลังจากมีข่าวลือแพร่สะพัดเรื่องการกวาดล้างคนงานต่างด้าวออกมานั้นแรงงานส่วนใหญ่ก็แห่กลับประเทศอย่างที่มีข่าวเกือบทุกวัน โดยเฉพาะแรงงานจากกัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานในภาคอสังหาฯ ทำให้ตอนนี้ผู้รับเหมาโครงการต่างๆทั้งรายย่อยและรายใหญ่ต่างได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า เพราะส่วนใหญ่นั้นโครงการที่กำลังก่อสร้างของผู้ประกอบการอสังหาฯนั้นจะมีผู้รับเหมางานต่างๆและคนงานของตนเองในการก่อสร้าง ซึ่งตอนนี้ก็ได้รับผลกระทบ ซึ่งโครงการต่างๆนั้นจะมีการล่าช้าและเสร็จไม่ทันกำหนดเดิมที่วางไว้อย่างแน่นอน แม้ว่าโครงการใหญ่ๆจะมีการใช้วัสดุก่อสร้างแบบสำเร็จรูปด้วยก็ตาม และ บางผู้ประกอบการก็มีโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างเป็นของตัวเองนั้นก็ประสบปัญหานี้เช่นกันเพราะถึงอย่างไรก็ต้องใช้แรงงานคนในการสร้างงานเหมือนกัน
ซึ่งคุณอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรและประธานสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ตอนนี้นั้นยังสรุปตัวเลขของแรงงานในภาคอสังหาฯว่าตอนนี้เหลือแรงงานที่ยังอยู่นั้นมีเท่าไหร่ เดินทางกลับประเทศไปแล้วเท่าไหร่ และ ปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องเร่งแก้ไขคือ ต้องหาแรงงานมาชดเชยแรงงานที่เดินทางกลับไป และ ยังไม่แน่นอนว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะเกิดปัญหาแย่งแรงงานกันหรือไม่ อีกทั้งแนวโน้มของคนงานที่เดินทางกลับประเทศไปนั้นอาจไม่เดินทางกลับมาทำงานที่เมืองไทยอีก” และนอกจากนี้น่าจะมีการเข้าพบกับคณะรักษาการณ์ความสงบแห่งชาติ (ค.ส.ช.) เพราะทางสมาคมมีการเตรียมการทำเรื่องผ่อนผันให้กับแรงงานที่ยังคงอยู่และปรึกษาเพื่อหาทางแก้ไขในเรื่องคนงานต่างด้าวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแรงงานขาดแคลนในอนาคต
ส่วนปัญหาที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้โดยไม่ต้องฟันธงคือเรื่องความล่าช้าในการส่งมอบบ้าน หรือ คอนโดมิเนียม ที่ต้องล่าช้ากว่ากำหนดแน่นอน ซึ่งอย่างน้อยนั้นน่าจะเลยกำหนดประมาณ 2-3 เดือนรวมถึงโครงการใหม่ๆที่กำลังจะเริ่มการก่อสร้างนั้น บางแห่งอาจต้องเลื่อนเวลาออกไป ซึ่งปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่กระทบกันไปทั้งวงการอสังหาฯนอกจากนี้ยังส่งผลกระทบถึงภาคธุรกิจอื่นๆด้วย และ หากปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวยังไม่ได้รับการแก้ไข และ ในอนาคตแรงงานต่างด้าวอาจจะลดลงหลังเปิด AEC เพราะนักลงทุนมีตัวเลือกในการลงทุนมากขึ้นและประเทศในกลุ่มอาเซียนนั้นยังมีอีกหลายประเทศที่มีแรงงานเยอะ และ ค่าแรงถูก อีกทั้งยังมีความน่าสนใจในการลงทุนใหม่ๆ มากกว่าประเทศไทยที่มีแต่ปัญหาการเมือง และ อัตราค่าแรงที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจที่ค่าครองชีพเริ่มสูงขึ้นทุกวัน
ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ PR@Thailand-Property.com