นายเดนิส หม่า หัวหน้าฝ่ายวิจัยเจแอลแอลฮ่องกง บริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่ 4 ซึ่ง JLL ได้จัดทำรายงาน Premium Office Rent Tracker นำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบต้นทุน ออฟฟิศ หรือสำนักงานเช่าใน 72 ทำเลธุรกิจจาก 61 หัวเมืองใหญ่ทั่วโลก พบว่าแม้ค่าเช่าพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพฯ จะปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 8 แต่กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีต้นทุนการเช่าสำนักงานเกรดพรีเมี่ยมถูกที่สุดในโลก
โดยต้นทุนการเช่า (ค่าเช่า+ภาษีและค่าบริการ) แสดงถึงในกรุงเทพฯ ค่าเช่าสำนักงานเกรดพรีเมี่ยม หรือเกรด A+ ถูกอันดับ 7 ของโลก มีต้นทุนรวมเฉลี่ย 42 ดอลลาร์หสรัฐ/ตารางฟุต/ปี ถูกกว่าย่านเซ็นทรัลของฮ่องกง 8 เท่า ถูกเป็นอันดับ 4 ของเอเชีย ถัดจากเมืองเฉินตูของจีน, กรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ และกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย
ในขณะที่ค่าเช่าออฟฟิศเกรดเอถูกที่สุดในโลกอยู่ที่นครโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ตามด้วยกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ส่วนทำเลสูงที่สุดในโลก คือ ย่านเซ็นทรัลของฮ่องกง เฉลี่ย 338 ดอลลาร์สหรัฐ/ตารางฟุต/ปี และครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 สูงกว่าย่านมิดทาวน์ของนิวยอร์ก 60% และย่านเวสต์เอ็นด์ของลอนดอนเกือบ 75% เหตุผลเพราะมีดีมานด์จากบริษัทจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาลงทุนธุรกิจในฮ่องกง
“ฮ่องกงโดยเฉพาะย่านเซ็นทรัลเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของเอเชีย สำนักงานให้เช่ามีพื้นที่ว่างเหลือต่ำมาก เป็นปัจจัยผลักดันให้เช่าปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ก็กดดันให้บริษัทจำนนวนมากเริ่มหันไปมองหาออฟฟิศที่มีค่าเช่าถูกกว่าในย่านรอบนอกแทน เห็นได้จากการไตรมาส 3/61 มากกว่าครึ่งหนึ่งของธุรกรรมการเช่าสำนักงานในฮ่องกงเกิดขึ้นในทำเลรอบนอก”
นายเจรามี เชลดอน กรรมการผู้จัดการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก หน่วยธุรกิจบริการด้านอาคารสำนักงาน เจแอลแอล กล่าวเพิ่มเติมว่าสำนักงานเกรดพรีเมี่ยมค่าเช่าแพงที่สุด 10 ทำเลของเอเชีย มี 6 ทำเลอยู่ในเมืองใหญ่ของจีน (ฮ่องกง ปักกิ่ง เสิ่นเจิ้น เซี่ยงไฮ้) เช่นเดียวกับสิงคโปร์ซึ่งปีนี้ไต่ขึ้นมาอยู่ในกลุ่มท็อป 10 จากที่เคยอยู่ในอันดับ 14 เมื่อปี 2560
ในด้านผู้เช่าพบว่า ภาคการเงินการธนาคารมีการเช่าครึ่งหนึ่งของภาพรวมใน 72 ทำเลทั่วโลก เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการดึงดูดพนักงานที่บริษัทต้องการ กับช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับองค์กร
เทรนด์กำลังมา กรุงเทพฯติดโผออฟฟิศบูม
25% ของออฟฟิศให้เช่าทั่วอาเซียนจะถูกเข้าใช้โดยกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี ภายในปี ค.ศ. 2030
ที่มา prachachat.net
