DotProperty.co.th

เขียนขายยังไงให้คนซื้อ! ด้วยเทคนิคการเขียน Copywriting แบบ “FOMO”

ใครที่ทำอาชีพนายหน้าขายบ้าน/ขายคอนโด นอกจากเทคนิคปิดการขายที่ต้องงัดมาใช้ตอนพูดคุยกับผู้ซื้อแล้ว คุณยังต้องเรียนรู้เทคนิคการเขียน หรือ Copywriting ที่ช่วยดึงดูดให้ผู้ซื้อที่กำลังตามหาทรัพย์บนโลกออนไลน์ให้เข้ามาหาคุณเอง

บทความนี้ดอทเลยจะมาช่วยให้คุณสามารถเขียน Copywriting หรือเขียนข้อความดึงดูดให้คนตัดสินใจ “ซื้อ” ได้ง่ายมากขึ้น จากเทคนิคทางการตลาดที่เรียกว่า “FOMO” หรือ “Fear Of Missing Out” หนึ่งในวิธีการเขียนเพื่อการทำการตลาดออนไลน์ที่อยากแนะนำให้นายหน้าทั้งหลายทดลองนำไปใช้ดูครับ

FOMO คืออะไร

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับคำนี้กันก่อนนะครับ “FOMO” หรือ “Fear Of Missing” เป็นวิธีการขายในเชิงจิตวิทยาโดยใช้ความกลัวเข้ามาช่วยครับ เช่น กลัวที่จะพลาดโปรโมชันที่ดีที่สุด กลัวว่าคนอื่นจะได้รับสิทธิพิเศษนั้นไป กลัวว่าของที่อยากได้จะหมดก่อน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้เราจึงหยิบวิธีการทำการตลาดแบบ FOMO มาใช้ในการเขียน ‘เพื่อขาย’ ได้ด้วย ซึ่งจะมีวิธีไหนที่น่าสนใจและหยิบไปใช้ได้ ตามไปดูพร้อมกันเลยครับ

5 เทคนิคการเขียนเพื่อขาย แบบ “FOMO”

1. กำหนดระยะเวลา

การกำหนดเวลาแบบเร่งด่วน (Urgency) เป็นกลยุทธ์การเขียนที่เรามักจะเห็นกันบ่อยมากที่สุด ทั้งการกำหนดเวลาโดยไม่ได้ระบุวันที่, การกำหนดเวลาแบบระบุวันที่ชัดเจน, การกำหนดเวลาในรูปแบบการนับถอยหลัง (Countdown) ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการใช้ FOMO จำกัดเวลา ที่จะทำให้รู้สึกว่ามีเวลาจำกัดหากพลาดจะเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไป ซึ่งเราจะพบบ่อยๆ ในโปรโมชั่นของทางผู้พัฒนาโครงการ เช่น โปรโมชั่นซื้อบ้านในช่วงนี้ – 31 ตุลาคม จะได้รับส่วนลด มูลค่าสูงสุด 500,000 บาท มีฟรีเงินดาวน์สูงสุด 3 เดือน

ภาพจาก : https://www.sansiri.com/

การจำกัดเวลานี้ทำให้หลายคนสังเกตและให้ความสนใจ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อของพวกเขาเป็นอย่างมาก ถ้าใครตัดสินใจซื้อช้า ก็จะพลาดส่วนลดนี้ไป จึงเป็นวิธีการเขียนขายและเป็นกลยุทธ์การทำการตลาดที่ได้ผลดีครับ 

2. สินค้านี้เหลือน้อย

การที่บอกว่า ทรัพย์นั้นขายดีมาก และมีเหลืออยู่น้อย เช่น ยูนิตสุดท้าย ห้องมุมห้องสุดท้าย และถ้าเป็นทรัพย์ที่พวกเขากำลังตามหาอยู่ล่ะก็…พวกเขาจะมีแรงจูงใจเพิ่มขึ้นมหาศาล ที่จะติดต่อคุณมาเลยทันที โดยคุณสามารถใช้วิธีการแสดงจำนวนทรัพย์ที่เหลืออยู่ กระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อได้จากการเขียนขายบนประกาศในเว็บไซต์ซื้อ-ขายอสังหาฯ หรือเขียนลงไปในอีเมลก็ได้เช่นเดียวกัน

ที่มาภาพ: thecubecondominium

3. มีคนสนใจสินค้าชิ้นนี้อยู่

บอกไปเลยว่า ทรัพย์นี้มีคนสนใจอยู่เช่นเดียวกัน เพราะโดยปกติแล้วการมีคู่แข่งเกิดขึ้นมา หรือรู้ว่า มีคนกำลังซื้อสินค้า หรือสนใจสินค้านี้อยู่เหมือนกัน จะทำให้เกิดแรงจูงใจที่หนักแน่นขึ้นมาก ในการตัดสินใจซื้อหรือเข้ามาดูสินค้าสักชิ้นได้เร็วขึ้นด้วย โดยวิธีการนี้เราจะเห็นบ่อยจากเว็บไซต์ประเภทโรงแรมที่มักจะเขียนถึงจำนวนห้องพักที่เหลืออยู่ และการจองครั้งล่าสุดว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่

ที่มาภาพ: https://hollerwp.com/

โดยวิธีการอาจจะเป็นการเปิดให้คนคอมเมนต์ กดไลก์ กดแชร์ กดให้ดาว บนทรัพย์ที่คุณประกาศขายว่ามีคนสนใจเป็นจำนวนมาก หรืออาจจะเพิ่ม Copywriting เช่น High Demand หรือเขียนเล่าถึงเคสที่เพิ่งปิดไปเพิ่มเติมก็ได้

4. สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ

เพราะใครๆ ก็อยากเป็นคนพิเศษ ถ้าหากคุณดูแลลูกค้าที่มีรายชื่ออยู่ในมือด้วยการส่งสิทธิพิเศษที่จะมีพวกเขาเท่านั้นที่จะได้รับ กลุ่มเป้าหมายของข้อเสนอเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะซื้อมากขึ้นด้วย ซึ่งคุณจะเจอวิธีเขียน Copywriting เหล่านี้จากในอีเมลเป็นส่วนใหญ่ โดยคุณอาจจะทำการส่งเป็นอีเมลส่วนลดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสจะซื้อแต่อยู่ในช่วงตัดสินใจ เพื่อทำให้เขารู้สึกอยากใช้โปรโมชั่นที่คุณมอบให้ก็ได้ เช่น ส่วนลดเฉพาะผู้เช่าคอนโดห้องปีที่สองขึ้นไป, ส่วนลดเฉพาะผู้ซื้อบ้านหลังละสิบล้าน เป็นต้น

ที่มาภาพ: https://www.wearecp.com

5. ถ้าไม่รีบคุณจะพลาด!

เป็นรูปแบบการเขียนที่เน้นความจริงใจ บอกไปตรงๆ เลยว่า ผู้ซื้อจะพลาดอะไรไปบ้าง โดยวิธีการที่คุณสามารถนำปรับมาใช้ในการเขียน  Copywriting เลยก็คือ วิธีการเขียนแคปชั่น หรือเขียนเนื้อหาในอีเมล เช่น คุณจะพลาดโปรโมชั่นซื้อบ้านมือสอง, คุณจะพลาดห้องมุมสุดพิเศษห้องสุดท้าย, คุณจะพลาดส่วนลดฟรีเงินดาวน์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม FOMO นี้เป็นเพียงเทคนิคหนึ่งของการเขียน Copywriting และเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่ช่วยในการขายเท่านั้น ยังมีเทคนิคอีกหลายอย่างให้นายหน้าได้เรียนรู้โดยเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงเคล็ดลับเล็กน้อยที่จะช่วยให้คุณสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น หากสนใจสามารถเข้าไปอ่านบทความดีๆ เกี่ยวกับเคล็ดลับการเป็นนายหน้าต่อได้เลยที่ คู่มือนายหน้ามือโปร ได้เลยครับ