เจ้าสัวเจริญ กับแผนสร้างอาณาจักรอสังหาฯครบวงจร เพื่อเป็นเบอร์ 1 ในไทย

เจ้าสัวเจริญ

จับตาแนวคิด เจ้าสัวเจริญ ชายผู้ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศไทย ที่ชี้แนวทางรวมพอร์ตทำเลศักยภาพเข้าสู่ระบบ ไม่ยึดติดธุรกิจครอบครัว กับแผนสร้างอาณาจักรอสังหาฯครบวงจร ทั่วประเทศไทย…!!!

 

จับตาแผนสร้างอาณาจักรอสังหาฯครบวงจร ทั่วประเทศไทย

นั้นเวลานี้คนในประเทศไทยคงไม่มีใครไม่รู้จัก  เจริญ สิริวัฒนภักดี หรือที่หลายๆคนเรียกกันว่า  เจ้าสัวเจริญ  ชายรวยเป็นอันดับต้นๆในประเทศไทยที่มีบริษัทเครื่องดื่มและอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่หลายแห่งในไทยและต่างแดน และล่าสุดที่คนไทยหลายๆคนยกตําแหน่งใหม่ให้คือ ราชาที่ดิน ที่อนาคตจะเป็น บ่อเงินบ่อทอง ของเสี่ยเจริญ อีกหนึ่งอย่าง ที่นี้ในวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ แผนการสร้างอาณาจักรอสังหาฯครบวงจร ทั่วประเทศไทย ของ เจ้าสัวเจริญมีที่ไหนบ้าง

แผนการสร้างอาณาจักรอสังหาฯครบวงจร ทั่วประเทศไทย

เจ้าสัวเจริญ กับแผนสร้างอาณาจักรอสังหาฯครบวงจร เพื่อเป็นเบอร์ 1 ในไทย

 

วันแบงค็อก  แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของโลก

เจ้าสัวเจริญ

โครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของโลก ด้วยมาตรฐานใหม่ ทั้งด้านการออกแบบ คุณภาพ ความยั่นยืนด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตในสมาร์ต ซิตี้ เชื่อมั่นว่า วัน แบงค็อก จะชูให้ประเทศไทยโดดเด่นในเวทีโลก และเติบโตในฐานะศูนย์กลางของประเทศอาเซียน พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายเป็นโครงการแรกในไทยที่ได้รับการรองรับมาตรฐานอาคารระดับสากลอย่าง LEED –ND Platinum  ทั้งนี้ผังรวมโครงการ ประกอบไปด้วย อาคารสำนักงานเกรดเอระดับพรีเมียม 5 อาคาร ที่พักอาศัย (คอนโดมิเนียม) ระดับลักชัวรี่ 3 อาคาร พื้นที่ร้านค้าปลีก 4 จุดเชื่อมกัน โรงแรมหรู 5 อาคาร และพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมทางศิลปะ และวัฒนธรรม

 

The PARQ ศุนย์กลางแห่งนักธุรกิจ

เจ้าสัวเจริญ

จากที่ดินกว่า  24 ไร่ (ที่ดินเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ระยะเวลา 30 ปี ) โดยมีกำหนดการเปิดเฟสแรกในช่วงปลายปี 2562  ติดกับ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท  ทำให้กลุ่มบริษัท TCC ASSET  บริษัทในเครือของ “เสี่ยเจริญ” ลงทุนสร้างโครงการ The PARQ ที่ตั้งใจไว้ให้เป็นศุนย์กลางแห่งนักธุรกิจที่ล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

โดย  Road Map ของตัวโครงการนี้วางแผนมีกำหนดการเปิดเฟสแรกในช่วงปลายปี 2562  โดยตัวโครงการจะมี อาคารรวมกัน 320,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น สำนักงานเกรดเอที่ล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ  โรงแรมแนวลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจเป็นหลัก  โดยตัวโครงการอยู่ใกล้กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ด้านพื้นที่ร้านค้าปลีกในตัวโครงการนี้จะมีเนื้อที่ทั้งหมด 11,000 ตารางเมตร โดยด้านในจะเเบ่งเป็นร้านขายสินค้าระดับพรีเมียม ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์อาหารระดับคุณภาพ  จุดเด่นของโครงการนี้คือกลุ่มนักธุรกิจที่มาจากทั่วประเทศและต่างประเทศที่มางานประชุมสัมมนาที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์สามารถเดินทางได้ง่ายที่สุด

 

Samyan Mitrtown Mixed-Use แห่งความสะดวกสบาย

เจ้าสัวเจริญ

จากที่ดินกว่า  13 ไร่(ที่ดินเช่าจากงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในระยะเวลา 30 ปี ) โดยจะอยู่บริเวณ  สามย่าน หรือ หัวมุมถนนพระราม 4  ติดกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพร้อมด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 8,500 ล้านบาท โดยบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทในเครือของเสี่ยเจริญ เป็นคนดูเลโครงการ สามย่าน มิตรทาวน์ นี้โดย  Road Map ของตัวโครงการนี้วางแผนที่จะใช้เนื้อที่ทั้ง 13 ไร่นี้แบ่งเป็น  อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม อยู่ที่ 70% และพื้นที่ค้าปลีกอีก 30%

นอกจากนี้ยังได้เตรียมเงินลงทุนเพิ่มอีก 300 ล้านบาท สำหรับการสร้าง ทางเชื่อมตรงจากรถไฟฟ้า MRT เข้าสู่ตัวโครงการบริเวณชั้นใต้ดิน โดยจุดเด่นของโครงการนี้คือ จะเป็น Mixed-Use แห่งความสะดวกสบาย มีทั้งร้านค้าร้านอาหารรวมปถึงการเดินทางสะดวกสบายจากรถไฟฟ้าใต้ดิน คาดจะทำให้มีทั้งกลุ่มคนทำงานและกลุ่มคนพักอาศัยรวมถึงดึงคนที่อยู่ภายนอกโครงการเข้ามาใช้  สามย่าน มิตรทาวน์ มากกว่า750,000 คนต่อเดือน

 

โปรเจ็กต์มิกซ์ยูสขนาดใหญ่ บนเนื้อที่100 ไร่ ย่านถนนเกษตร-นวมินทร์

เจ้าสัวเจริญ

นายเจริญ สิริวัฒนภักดี กำลัง รีโมเดลการพัฒนาที่ดินกว่า 100 ไร่ย่านถนนเกษตร-นวมินทร์โดยภาพรวมทั้งหมดจะทำการปรับโมเดล จากเดิมที่มีแผนจะพัฒนาเป็นศูนย์ประชุมและโรงแรม จะเปลี่ยนเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่แทนและจะมีรีเทลเพิ่มมาด้วยโดยตอนนี้กำลังพิจารณาจะเป็นศูนย์การค้าเกตเวย์หรือลาซาล อเวนิว โดยโครงการนี้จะไม่ใช่โครงการเล็ก ๆ แน่นอนเพราะด้วยเนื้อที่ 100 ไร่แต่อาจจะต้องรอจังหวะที่เหมาะสม  ทำให้การลงทุนอาจจะยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ ทำให้ต้องรออีกสักระยะ

 

เตรียมสร้าง  โกดังสั่งสร้าง-โรงงานสั่งสร้าง บุกตลาด Built-to-Sui บนที่ดิน 1 หมื่นไร่เพื่อรับการมาของEEC

เจ้าสัวเจริญ

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือ เจ้าสัวเจริญวางเป้าสร้างโกดังและโรงงานสั่งสร้างในปี62 อีก 1.2 แสนตารางเมตร ซึ่งในปัจจุบัน บริษัทฯ มีลูกค้าที่เช่าโรงงานและคลังแบบสร้างตามความต้องการ คิดเป็นพื้นที่มากกว่า 5 แสนตารางเมตร ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจโลจิสติกส์ อาทิ ดีเอชแอล , สยามแม็คโคร , ลินฟ้อกซ์ , แอมเวย์ , เซ็นทรัล วัตสัน , ฟอร์ด , ลอรีอัล , เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท และขณะนี้ อยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้า 6 ราย โดยมีที่ดินโซนบางนา-ตราด, บางพลี และที่ดิน 4,800 ไร่ นำบางส่วนมาสนับสนุนการทำธุรกิจสำหรับที่ดินแปลงบาง-ตราด กม.32.5 บริษัทฯได้ชนะการประมูลจากกรมบังคับคดี (เดิมเป็นแปลงที่ดินของ เคเอ็มซี) ได้ในราคา 8,900 ล้านบาท โดยเป็นแปลงที่มีศักยภาพ เนื่องจากเป็นที่ดินแปลงใหญ่ แถมอยู่ในทำเลโซนกรุงเทพฯตะวันออก เขตติดต่อโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หน้ากว้างติดถนนบางนา-ตราด กม.32.5 กว่า 260 เมตร ขนาดความยาว 6 กม.จากบางนา-ตราด จดถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิราว 16 กม

 

เตรียมสร้างสปอร์ตแลนด์ครบวงจร บนที่ดิน 2 หมื่นไร่ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เจ้าสัวเจริญ

ส่งทีมลุยที่ดิน 2 หมื่นไร่ ที่ อ.บางบาล-บางไทรสร้าง สปอร์ตคอมเพล็กซ์ครบวงจร มาพร้อม ศูนย์กระจายสินค้าโลจิสติกส์ แบบ multimodal transport  โดยเมื่อเสร็จจะเป็น ฮับเชื่อมการขนส่งทั้งทางรถยนต์ ทางเรือ และ ทางรถไฟ เมื่อเร็วๆนี้กลุ่มทีซีซีกรุ๊ป บริษัทพัฒนาที่ดินของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้ให้ข่าวว่า ทางคุณ เจริญ มีนโยบายให้บริษัทในกลุ่มทุกบริษัทพลิกกลยุทธ์ในการบริหารจัดการที่ดินให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน  โดยมีแนวคิดพัฒนาเป็นโครงสปอร์ตคอมเพล็กซ์ครบวงจร ที่รูปแบบขจะออกเป็น โครงการสปอร์ตแลนด์  โดยจะมีสนามแข่งขันกีฬาทั้งกลางแจ้งและในร่มหลากหลายรูปแบบและหลายประเภทและจะสร้างศูนย์ฝึกพัฒนาคนทางด้านการกีฬา รวมไปจนถึงที่พักอาศัยในรูปคอนโดมิเนียม สำหรับนักกีฬาพร้อมทีมผู้ฝึกสอน และนอกจากที่กล่าวมาข้างต้นและยังมีแผนจะทำจะสร้าง  สนามกอล์ฟ มาตรฐานระดับโลก และในอนาคตยังมีแผนที่จะดำเนินการโครงการอื่นๆเพิ่มเติมในอนาคต

 

 

แผนการพัฒนาและซื้อที่ดินเพิ่มในอนาคตของเจ้าสัวเจริญ

เจ้าสัวเจริญ กับแผนสร้างอาณาจักรอสังหาฯครบวงจร เพื่อเป็นเบอร์ 1 ในไทย

ในเวลานี้  เจ้าสัว เจริญครอบครองที่ดินผืนใหญ่หลายแปลงในประเทศไทย ได้แก่

  1. ที่ดินติดถนนประเสร็ฐมนูกิจทั้งหมด 300 ไร่   แผนการพัฒนาที่ดินในอนาคตเปลี่ยนจากศูนย์ประชุมนานาชาติ เปลี่ยนเป็น โครงการมิกซ์ยูสและคอนโดมิเนียม ราคาที่ดินในเวลานี้ 3 แสนบาท ต่อ ตารางวา
  2. ที่ดินนอร์ธปาร์ค 200 ไร่  แผนการพัฒนาที่ดินในอนาคต เตรียมพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้เป็นอาคารสำนักงานรับรถไฟฟ้าสายสีแดงราคาที่ดินในเวลานี้ 1.5 แสนบาท ต่อ ตารางวา
  3. ที่ดิน ย่านบางนา กม. 32  ที่ดินทั้งหมด  4,300 ไร่ แผนการพัฒนาที่ดินในอนาคต คาดการณ์ว่าอาจจะพัฒนาพื้นที่เป็นนิครอุตสาหกรรม,โลจิสติกส์ในอนาคต ราคาที่ดินในเวลานี้ ราคาไร่ละ 4 ล้าน
  4. เอเชียทีค 2  50 ไร่ ที่ดินย่านการค้าและท่องเที่ยว ราคาที่ดินในเวลานี้ 1ล้านบาท ต่อ ตารางวา

5.ที่ดิน เวิ้งนาครเขษม 14 ไร่เศษ   แผนการพัฒนาที่ดินในอนาคตรอพัฒนาเป็นย่านการค้าเพราะใกล้สถานีรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงินตัดสายสีม่วงใต้ ราคาที่ดินในเวลานี้ 1ล้านบาท ต่อ ตารางวา

ด้านที่ดินเช่า ของ เจ้าสัว เจริญ มี

  1. ที่ดินโซนพระราม 4   24 ไร่(ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์)  แผนการพัฒนาที่ดินในอนาคต  ก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ยูส มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท โดยใช้ชื่อว่า The PARQ
  2. ที่ดินบริเวณคลองเตยย่าน ตลาดหลักทรัพย์ฯเดิม(ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์) และศุนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  1.7 แสนตร.ม.  (ที่ดินราชพัสดุ กรมธนารักษ์)  แผนการพัฒนาที่ดินในอนาคต รอส่งมอบพื้นที่จากทาง กรมธนารักษ์ ในปี 63
  3. ที่ดินหัวมุมถนนพญาไท เขตปทุมวัน  2.2 แสนตร.ม. (ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์) แผนการพัฒนาที่ดินในอนาคต  ก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ยูส มูลค่ากว่า 9,000  ล้านบาท โดยใช้ชื่อว่า samyanmitrtown
  4. ที่ดินบริเวณ หัวมุมถนนพระรามที่ 4 และถนนวิทยุ 104 ไร่  (ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์) แผนการพัฒนาที่ดินในอนาคต ก่อสร้างโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย มูลค่ากว่า 120,000 ล้านบาท โดยใช้ชื่อว่า One Bangkok

 

ที่ดินที่  เจ้าสัวเจริญ  หมายตาในอนาคต

  1. ที่ดินพระคลังอยู่บริเวณ ทำเลราชดำริ ที่กำลังจะหมดสัญญาในปี 64
  2. ที่ดินสำนักงานทรัพย์สินฯ บริเวณ ทีโอที เพลินจิต ทั้งหมด 33 ไร่ กำลังจะหมดสัญญาในปี 65

 

รวมไปจนถึง พื้นที่ ตลาดสดหรือตลาดนัดเพราะว่าเป็นพื้นที่ตั้งอยู่ในใจกลางชุมชนทำเลโอบล้อมไปด้วยบ้านคน นอกจากนี้ในอนาคตพื้นที่เหล่านี้ยัง มีรถไฟฟ้า-โครงข่ายถนนตัดผ่านอีกหลายพื้นที่ บวกกับคนยุคใหม่ที่นิยมใช้วิถีชีวิตที่เร่งรีบและความสะดวกสบายมากยิ่งกว่ายุคก่อน ถ้ากลุ่มเบียร์ช้าง สนใจโดยเฉพาะใจกลางเมือง ได้แก่  ตลาดวัดแขกหรือ   ตลาดสดหน้าวัดแขก โดย นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าสัวเบียร์ช้างได้ติดต่อซื้อไปแล้ว ราคาขายต่อตารางวาไม่น่าต่ำกว่า 1 ล้านบาท

อินโดนีเซีย

ทำไม..!! อินโดนีเซีย ต้องย้ายเมืองหลวง

 

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก