สำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนในทุกระบบ เชื่อว่าหลาย ๆ คนนั้นคงโหลดแอพต่าง ๆ มาใช้เพื่อความสะดวก และ แอพของธนาคารต่าง ๆ ก็คงต้องมีติดกันไว้เพื่อความสะดวก ในการเชคยอดเงิน การโอน หรือ ตรวจสอบต่าง ๆ นั้น หากเป็นแอพที่ทางธนาคารเป็นผู้จัดทำและปล่อยเข้าสู่ระบบให้โหลดใช้กันนั้น คงไม่มีปัญหาและไม่น่ากังวล แต่ ปัจจุบันมีแอพปลอมระบาดหนัก ซึ่งเมือ่วันที่ 27 มี.ค.57 ได้มีการเผยแพร่ข่างเรื่องแอพแบงค์ที่ทำปลอมนั้นระบาดอย่างหนัก ซึ่งมีหลาย ๆ แบงค์ที่โดนผู้ทำปลอม เพื่อโจรกรรมข้อมูลต่าง ๆ ที่ลูกค้าจะทำธุรกรรมผ่านแอพของธนาคาร
ซึ่งหลาย ๆ ธนาคารได้ออกมาแจ้งเตือน ว่าควรดูตรงจุดไหนบ้าง เช่น ธนาคารกรุงไทย ได้ออกมาแจ้งเตือนลูกค้าที่โหลดแอพให้สังเกตุตรงชื่อผู้ผลิตแอพว่าต้องเป็น Krung Thai Bank PCL หรือ หากไม่มั่นใจก็ไม่ควรดาวน์โหลด หรือ สงสัยว่าเป็นแอพปลอมให้โทรแจ้งที่ 1551 หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ได้มีการแจ้งเตือนผ่านโซเชี่ยลและสื่อโทรทัศน์ ว่าให้สังเกตตรงชื่อผู้พัฒนาแอพเช่นกัน ว่าต้องเป็นในชื่อ Siam Commercial Bank PCL เท่านั้น และ ทางธนาคารได้มีการแจ้งไปยัง google ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ play store ที่มีการระบาดของแอพธนาคารปลอม ซึ่งข่าวได้แจ้งว่าทาง google ก็จัดการลบออกให้download
จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ผู้ที่ชื่นชอบการทำธุรกรรมการเงินผ่านสมาร์ทโฟนควรต้องระวังให้มากยิ่งขึ้น เพราะอะไรที่มันมาพร้อมความสะดวกสบาย ก็อาจมีโทษด้วยเช่นกัน และ ด้วยการที่มีเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมายซึ่งบางอย่างเราหรือผู้พัฒนาอาจจะไม่ทราบถึงช่องโหว่ต่าง ๆ แต่มิจฉาชีพนั้นจับมาเป็นประโยชน์ของการสร้างความเสียหายให้ผู้อื่นและหาประโยชน์เข้าตัวเองได้โดยที่เราอาจตามไม่ทัน ดังนั้นการทำธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟนจึงเป็นเรื่องที่อันตรายหากไม่มีการป้องกันต่าง ๆ ที่ดีพอทั้งจากทางธนาคารและผู้ใช้สมาร์ทโฟน เช่น การป้องการจารกรรมข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต หรือ การป้องกันการปลอมแปลงเลียนแบบแอพลิเคชั่นต่าง ๆ หรือ หน้าเพจที่ให้บริการ และ ผู้ใช้บริการอาจไม่ป้องกันอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างสมาร์ทโฟน เช่น การเข้ารหัสไว้ตลอดเวลาเพื่อความสะดวกเมื่อกดเข้าแอพเพื่อใช้บริการก็เข้าได้เลย ซึ่งหากทำสามาร์ทโฟนหาย หรือ ส่งไปซ่อมโดยที่ยังไม่ได้เคลียร์รหัสออก ก็อาจโดนแฮกข้อมูลหรือถูกโจรกรรมข้อมูลได้ง่าย ๆ
ดังนั้นการใช้งานควรมีความระมัดระวัง และ ป้องกันอย่างรอบคอบเพราะหากเกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้นมาผู้ใช้จะได้รับความเสียหายมากที่สุด สูญเสียผลประโยชน์มากที่สุด เพราะมาตรการต่าง ๆ ของธนาคารอาจจะรับผิดชอบในความเสียหายได้ไม่เต็มที่ การป้องกันด้วยตนเองจึงดีที่สุด และ หากไม่มั่นใจก็ไม่ควรใช้หรือทำธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟนจะเป็นทางออกที่ดีทีสุด
- ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ PR@Thailand-Property.com