เปิดเส้นทาง ‘ทำเลทอง’ บีทีเอสสีเขียว วัดพระศรีมหาธาตุไปคูคต

กทม. เตรียมทดลองเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสสีเขียวเสมือนจริง จากสถานีรถไฟฟ้าวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) ไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้าคูคต (N27) รวม 7 สถานี ระยะทาง 10 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 2-3 ธันวาคม เวลา 06.00 – 24.00 น. เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการเปิดทดลองเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสสีเขียวเสมือนจริงนี้ ไม่ได้มีการเปิดให้ผู้โดยสารทั่วไปทดลองนั่ง เนื่องจากเป็นการทดสอบระบบต่าง ๆ โดยรวม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบอาณัติสัญญาณ ระบบการสื่อสาร เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานทุกระบบสอดคล้องกันอย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย 

สำหรับรถไฟฟ้าบีทีเอสสีเขียวนี้ นอกจากจะช่วยให้สามารถเดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าคูคตได้สะดวกมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการเปิดทำเลทองแห่งใหม่ของเหล่าผู้พัฒนาอสังหาฯ โครงการต่าง ๆ ด้วยการเดินทางที่เชื่อมโยงข้าม 3 จังหวัด อย่างนนทบุรี  ปทุมธานีและสมุทรปราการ เข้าสู่ศูนย์กลางเมืองเศรษฐกิจอย่างกรุงเทพมหานคร เช่น ห้าแยกลาดพร้าวหรือสยาม ได้ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งโดยปกติแล้วหากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็จะต้องใช้เวลานานถึง 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว และแน่นนอนว่าสิ่งที่จะพัฒนาตามมาอย่างการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ก็จะทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการเลือกที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องกระจุกตัวอยู่ในตัวเมืองและการเปิดให้บริการของรถฟ้าบีทีเอสสีเขียวนี้ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นผลบวกอย่างมากต่อวงการอสังหาฯ อีกด้วย

08_บีทีเอสสีเขียว (1)ในด้านการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสสีเขียว ทางสถานีมีอาคารจอดรถ 2 แห่งไว้ให้ผู้ที่มาเข้าใช้บริการ โดยแห่งแรกที่สถานีรถไฟฟ้าคูคต ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน กม. 25 จอดรถได้ถึง 1,042 คัน และแห่งที่ 2 ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับสถานีตำรวจภูธรคูคต จอดรถได้ประมาณ 713 คัน 

ทั้งนี้นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ คาดว่าในปี 2564 จะมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นเป็นวันละ 1 ล้านเที่ยว จากปัจจุบันที่มีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 700,000-800,000 เที่ยว โดยจะมีการให้ผู้โดยสารใช้บริการบีทีเอสสีเขียวส่วนต่อขยายฟรี ไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2564 และหลังจากนั้นจะมีการเก็บค่าโดยสารอย่างไร ต้องรอนโยบายจากทาง กทม. ต่อไป

08_บีทีเอสสีเขียว (2)โดยปัจจุบันรถไฟฟ้าบีทีเอส มีจำนวนขบวนรถไฟฟ้าทั้งสิ้น 98 ขบวน แต่ละขบวนมี 4 ตู้ โดยในช่วงเช้าและเย็นจะมีการจัดเดินรถเป็น 2 วง เพื่อไม่ให้เกิดการเดินรถขาดช่วงในช่วงเวลาเร่งด่วน วงแรกรอบใน สถานีหมอชิต–สถานีสำโรง ความถี่การเดินรถ 2.25 นาที/ขบวน วงที่ 2 รอบนอก สถานีเคหะ–สถานีลำลูกกา ความถี่ 5 นาที/ขบวน อย่างไรก็ตามการนั่งรถไฟฟ้าจากระยะไกลนี้จะต้องมีการเปลี่ยนขบวน เช่น หากเดินทางจากเคหะฯ จะต้องมีการเปลี่ยนขบวนที่สถานีสำโรง หรือหากเดินทางจากคูคต จะต้องมีการเปลี่ยนขบวนที่สถานีหมอชิต เป็นต้น ส่วนนอกเวลาเร่งด่วนจะมีการเดินรถครบวงตลอดเส้นทาง โดยที่ผู้โดยสารไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถแต่อย่างใด ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีทอง มีทั้งหมด 3 ขบวน ขบวนละ 2 ตู้ รองรับ ผู้โดยสารได้ 4,000-12,000 คน/ชม./ทิศทาง

ในด้านของความอุดมสมบูรณ์ตามเส้นทางบีทีเอสสีเขียวก็จะมีการพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาคารสำนักงาน แหล่งอุตสาหกรรม โรงเรียน มหาวิทยาลัย ตลอดจนห้างสรรพสินค้า ร้านค้า หรือแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ทำให้มีการตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้น ทั้งกลุ่มที่ต้องทำงานในเมืองหรือนอกเมือง ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่ต้องการสร้างครอบครัวใกล้ ๆ กับแหล่งความเจริญ เรียกได้ว่าทำให้มีการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

08_บีทีเอสสีเขียว (3)สำหรับปัจจัยบวกจากการเปิดให้บริการบีทีเอสสีเขียวอีกหนึ่งประการที่จะไม่กล่าวถึงก็คงไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของการเดินทางบนถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี-รังสิต ซึ่งผ่านหน้าสนามบินดอนเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเปิดใช้บริการบีทีเอสสีเขียวก็จะช่วยลดปริมาณความหนาแน่นของการจราจรลงได้ รวมไปถึงเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ที่ต้องการเดินทางมายังสนามบิน ไม่ว่าจะเรื่องของการประหยัดเวลาในการเดินทาง เรื่องค่าโดยสาร หรือการต้องใช้ขนส่งสาธารณะที่หลากหลายทำให้ไม่สะดวกต่อการเดินทาง

อ้างอิง
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1990195
https://www.thansettakij.com/content/property/458900
https://www.naewna.com/business/535868