คนที่เข้าอยู่บ้านสร้างใหม่ที่มีพื้นที่ให้ปลูกต้นไม้ทำสวนหลายคนย่อมคิดอยากจะมีสวนเล็กๆ เป็นของตัวเอง เพียงแต่ว่าหลายบ้านอาจต้องเผชิญปัญหาเรื่องการปลูกต้นไม้ไม่ขึ้น บางครั้งโตได้ไม่นานก็เริ่มมีโรค หยุดโตแล้วค่อยๆ ตายไปจนเกิดข้อสงสัยว่าดินอาจจะมีปัญหาบางอย่างก็ได้
วันนี้ดอทเลยมาไขข้อข้องใจเรื่องของดินในบ้านสร้างใหม่ว่าทำไมถึงปลูกอะไรไม่ขึ้นกันแน่ มาดูกันครับ
สาเหตุที่ดินบ้านสร้างใหม่ปลูกไม่ค่อยขึ้น
ก่อนการสร้างบ้านไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวที่ไม่ได้อยู่ในโครงการหรือบ้านที่อยู่ในโครงการเองมักจะมีการถมดินเพื่อให้ระนาบดินเรียบเสมอกัน หากมีการใช้ประเภทดินที่ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูกก็ทำให้ปลูกอะไรไม่ขึ้นได้เช่นกัน เรามาดูกันว่าดินที่ใช้ถมที่นั้นจะนิยมใช้ดินอะไรบ้าง
- ดินดาน เป็นดินที่นิยมใช้หากต้องการปลูกสร้างหลังถมดิน เพราะบดอัดได้ดี
- ดินทราย มีต้นทุนต่ำแต่เกิดปัญหาดินทรุดได้ง่ายและไม่อุ้มน้ำ
- ดินลูกรัง เป็นดินที่ยิ่งแห้งยิ่งแข็ง นิยมใช้ถมทำถนนคอนกรีต แต่ไม่เหมาะกับการปลูกต้นไม้เพราะดินแห้งเกินไป
- ดินเหนียว มีเนื้อละเอียด อุ้มน้ำได้ดี หาง่ายและต้นทุนไม่สูง นิยมใช้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
- ดินประเภทหน้าดิน เป็นดินเหมาะแก่การปลูกต้นไม้มากที่สุด เพราะมีแร่ธาตุจำเป็นสำหรับพืช แต่ก็มีต้นทุนสูงกว่าดินประเภทอื่น
วิธีการปรับสภาพดินให้พร้อมปลูก
ส่วนใหญ่ในการถมที่ดินเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยมักไม่ได้ใช้ดินประเภทหน้าดินที่มีราคาแพงมากนัก ทำให้เมื่อต้องการปลูกต้นไม้จะต้องรอให้ดินปรับสภาพเสียก่อนประมาณ 3-5 ปีจึงจะเข้าที่โดยเฉพาะดินที่เป็นดินทรายหรือบางที่อาจใช้เศษปูนหรือิฐที่เหลือจากการก่อสร้างมาถมให้แบบนั้นอาจจะต้องใช้เวลาและตัวช่วยเพิ่มเติม แต่หากต้องการใช้ดินปรับสภาพเร็วขึ้นเราจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างไปดูกัน
นี่นับเป็นวิธีปรับดินที่รวดเร็วที่สุดคือเราเปลี่ยนดินเก่าซึ่งอาจเป็นดินทราย เศษวัสดุก่อสร้างปะปน หรือดินลูกรังที่ไม่เหมาะกับการเพาะเหล่านี้ออกไปเลย แล้วนำดินใหม่ที่มีสารอาหารสำหรับพืชและเหมาะกับการเพาะปลูกใส่ลงมาแทน โดยที่เราอาจจะเปลี่ยนเฉพาะพื้นที่ที่ต้องการใช้ปลูกเท่านั้นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งหมด
ดินเป็นกรด
หากดินของคุณปลูกต้นไม้แล้วมีการเติบโตช้าลง ให้ผลผลิตน้อยลง ดูแล้วแห้งเหี่ยวเสมือนขาดน้ำ ก็สามารถสันนิษฐานได้ว่าเกิดอาการดินเปรี้ยวเข้าแล้ว เป็นสภาวะของดินที่เป็นกรด สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ จากน้ำฝนที่ชะล้างเอาสารอาหารไป หรือจากพืชที่ดูดเอาธาตุที่เป็นด่างไปแล้วปล่อยกรดลงมาแทนก็ได้เช่นกัน
วิธีแก้คือ เราสามารถใช้ปูนขาว ปูนมาร์ลโรยใส่ดินได้ อัตราส่วนจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของดินกรดเอง หรืออาจใช้วิธีใส่อินทรียวัตถุลงในดินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับสารอาหารในดิน หรืออาจใช้วัสดุคลุมดินเพื่อรักษาความชื้นและหน้าดินก็ได้เช่นกัน
เติมผู้ช่วยให้ดิน
หากดินเสื่อมสภาพลงอาจแปลได้ว่าวงจรระบบนิเวศน์ของดินไม่ครบสมบูรณ์ก็ได้เช่นกัน เพราะดินที่ใช้ถมที่ส่วนใหญ่จะไม่มีสารอาหารหรือสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มากนัก เมื่อเราต้องการให้ดินกลับมามีสภาพที่เหมาะแก่การเพาะปลูกอย่างที่ควรจึงควรเพิ่มตัวช่วยอย่าง ไส้เดือน ซึ่งจะช่วยพรวดินทำให้ระบายอากาศให้กับดินได้เติมน้ำและรับสารอาหารได้ง่ายมากขึ้น
ใช้อินทรีวัตถุช่วยฟื้นฟู
เพราะธรรมชาติควรแก้ด้วยธรรมชาติ หากดินมีสารอาหารไม่เพียงพอ ปลูกพืชไม่ขึ้น เราสามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์อย่างปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือเศษใบไม้ แกลบ ฟางข้างมาช่วยเหลือ โดยที่อินทรียวัตถุเหล่านี้จะค่อยๆ ปรับโครงสร้างดิน สำหรับใครที่ไม่มีเวลาหรือมีเวลาน้อยเราสามารถนำเอาตัวข่วยเหล่านี้มาโรยไว้บนแล้วพรวนดินสักเล็กน้อย เพียงเท่านั้นดินก้จะค่อยๆ ปรับโครงสร้างได้เอง
ดินของบ้านสร้างใหม่อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูสักพักจึงจะสามารถปลูกต้นไม้ ทำสวนได้อย่างที่ต้องการแต่หากใช้วิธีข้างต้นที่เราได้กล่าวไปเหล่านี้ย่อมช่วยย่นเวลาให้คุณฟื้นฟูสภาพของดินได้รวดเร็วมากขึ้น ให้คุณได้ปลูกสวนสวยและพักผ่อนอย่างมีความสุขได้ในบ้านเร็วขึ้น
ที่มา https://www.builk.com/th/เรื่องควรรู้ก่อน-ถมดิน
https://www.baanlaesuan.com/90105/garden-farm/farming-101/revivesoil