แชร์ประสบการณ์ เลือกซื้อบ้าน ไม่รอบคอบ คิดผิดจนตัวตาย

เลือกซื้อบ้าน

วันนี้เรามีเรื่องราวจากประสบการณ์ตรง ของการ เลือกซื้อบ้าน ไม่รอบคอบ ที่อาจจะเสียใจไปจนวันตายโดยเรื่องราวในวันนี้เป็นของคุณ สมาชิกหมายเลข 3590759 สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com โดยเจ้าตัวเสียเงินไปกว่า 7.8 ล้านบาทโดยที่ไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย โดยเรื่องราวประสบการณ์ครั้งนี้จะจบลงอย่างไรไปหาคำตอบกันได้เลย…

เลือกซื้อโครงการหมู่บ้านผิด คิดจนตัวตาย BY สมาชิกหมายเลข 3590759

สวัสดีครับ วันนี้มีประสบการณ์การเลือกซื้อบ้านที่พลาดที่สุดในชีวิตที่อยากมาแชร์ให้ฟัง เราเสียเงินไปกว่า 7.8 ล้านบาทกับบ้านโครงการนี้โดยที่ไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย เจ้าของโครงการแย่มาก เป็นถึงผู้ใหญ่ที่เป็นที่รู้จักในวงการเซเลป ไฮโซ ภาพลักภายนอกดีแสนดี ใช้ชีวิตสุขสบาย แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเบื้องหลังนางมีปัญหาอะไรบ้าง เพราะไม่มีใครเคยทำอะไรนางได้เลย

คู่กรณีไม่ได้มีแค่เรา ก่อนหน้านี้เรามีโอกาสได้พบกับคู่กรณีอีกคน ซึ่งเค้าก็เจอปัญหาเดียวกัน นั่นคือหลังจากที่ตกลงซื้อบ้านแล้วมาพบภายหลังว่ามีปัญหาที่ไม่ชอบมาพากล จึงต้องการยกเลิกสัญญา ซึ่งไม่ได้รับเงินคืนเลยมาจนถึงวันนี้ โครงการบ้านนี้เป็นโครงการที่อยู่ติดทะเลสาบเมืองทองธานี ราคาแต่ละหลังเริ่มต้นที่ 40-50 ล้านบาท ต้องยอมรับเลยว่าพื้นที่สวยมากจริงๆ แบบบ้านก็สวย ความรู้สึกแรกที่เข้าไปบ้านตัวอย่างเหมือนกับบ้านพักตากอากาศต่างจังหวัดเลย มันทำให้เรารู้สึกว่ายังไงก็ต้องซื้อบ้านหลังนี้ให้ได้

เลือกซื้อบ้าน

..ซึ่งเราก็ตัดสินใจซื้อมันจริงๆ  ยอมรับเลยว่าไม่เคยมีความรู้ด้านการซื้อบ้านราคาแพงขนาดนี้มาก่อน ว่าควรจะต้องมีทนายหรือพาคนที่มีความรู้มาช่วยดู ช่วยตรวจสอบด้วยมั้ย เพราะตอนที่เราตัดสินใจที่จะซื้อ ทางเซลล์ขายบ้านก็แนะนำทุกอย่าง มันดูง่ายไปหมด เค้าบอกแค่ให้เราเซ็นสัญญา วางเงินมัดจำ จ่ายเงินค่างวดให้ครบ 12 เดือนสำหรับการผ่อนดาวน์ ในช่วงระยะเวลาการก่อสร้างบ้าน

จากนั้นพอบ้านสร้างเสร็จก็ให้ทำเรื่องกู้ธนาคารภายหลังก็เป็นอันจบแน่นอนว่าเราเข้าใจดี และเชื่อว่ามันจะง่ายแบบนั้น ก็ตกลงวางเงินจอง เซ็นสัญญาซื้อบ้าน และจ่ายเงินค่างวดทันที ซึ่งตอนแรกก็ไม่มีปัญหาอะไร เราไม่ได้ดูรายละเอียดอะไร คิดว่าโครงการบ้านราคาหลังละ 80 ล้านบาทขนาดนี้ คงไม่น่ามีปัญหาอะไร จนเราได้เริ่มปรึกษากับใหญ่หลายๆท่าน

จนรู้ว่าโครงการหมู่บ้านนี้ไม่มีความเป็นมืออาชีพ มีข้อบกพร่องหลายอย่างที่อาจแสดงถึงความไม่โปร่งใส ควรรีบเคลียร์ก่อนจะเสียเงินไปมากกว่านี้ กว่าเราจะเริ่มตรวจสอบและขอความชัดเจนจากเขา ตอนนั้นก็จ่ายไป 7.8 ล้านบาทแล้ว ( ค่าจองบ้าน + ค่าผ่อนดาวน์จำนวน 3 เดือน ) จนชัดเจนแล้วว่าโครงการนี้มีปัญหาแน่ๆ เราจึงหยุดจ่ายเงินในเดือนต่อมา แล้วเริ่มดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีการตั้งประเด็นกับเค้าทั้งหมดดังนี้

  • การทำสัญญามีแบ่งแยกออกเป็น 3 ฉบับ คือ 1.สัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง 32,000,000 บาท (สามสิบสองล้านบาทถ้วน) 2.สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินมูลค่า 23,662,800 บาท (ยี่สิบสามล้านหกแสนหกหมื่นสองพันแปดร้อยบาทถ้วน)  3.สัญญาค่าตกแต่งและจัดหาวัสดุมูลค่า 24,337,200 บาท (ยี่สิบสี่ล้านสามแสนสามหมื่นเจ็ดพันสองร้อยบาท) มูลค่ารวมทั้งสิ้น 80,000,000 บาท (แปดสิบล้านบาทถ้วน) ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน กรรมการของบริษัทผู้จะขายได้ลงนามเพียงท่านเดียว ซี่งในหนังสือรับรองบริษัทกำหนดไว้ว่าจะต้องลงนามสองคน และในสัญญาไม่ได้มีการประทับตราสำคัญของบริษัทแต่อย่างใด อันอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ว่าจ้างได้
  • สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้านมีจุดบกพร่องผิดพลาดหลายประเด็น อันแสดงให้เห็นว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพในการก่อสร้างบ้านซึ่งมีมูลค่าเฉพาะค่าก่อสร้างจำนวน 32,000,000 บาท (สามสิบสองล้านบาท) ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้รับจ้างขาดความน่าเชื่อถืออันทำให้ผู้ว่าจ้างไม่ไว้วางใจ ทั้งชื่อผู้ทำการว่าจ้างกับปรากฎเป็นสองท่าน แต่ท้ายสัญญาเป็นเพียงท่านเดียว
  • จากการประเมินการก่อสร้าง ณ ปัจจุบัน (วันที่ 23 เมษายน 2561) การก่อสร้างได้ผ่านไปอย่างล่าช้า ไม่สมบูรณ์ และไม่สอดคล้องกับการจ่ายเงินค่างวดแต่อย่างใด อันทำให้เห็นประจักษ์ชัดได้ว่าการก่อสร้างดังกล่าว ย่อมไม่สามารถทำให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดระยะเวลาที่ได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างแน่ชัด คือวันที่ 20 ธันวาคม 2561
  • โดยที่จากการสอบถามตัวแทนของผู้รับจ้าง หลายครั้งหลายหน ถึงการขอใบอนุญาตทำการก่อสร้าง ผู้รับจ้างและตัวแทนของผู้รับจ้าง ได้รับคำตอบแต่เพียงว่ายังไม่ได้ยื่นขอ กำลังจะยื่นขอตลอดมา ซึ่งหากผู้รับจ้างมีความเป็นมืออาชีพย่อมต้องทราบถึงข้อกฎหมายในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนว่า ก่อนทำการก่อสร้างจำต้องยื่นขออนุญาตทำการก่อสร้าง ต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก่อนทำการก่อสร้าง จึงจะทำการก่อสร้างได้ เนื่องจากหากมีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างย่อมทำให้ผู้รับจ้างไม่สามารถใช้ประโยชน์กับบ้านภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ได้อย่างแน่นอน
  • โดยที่จากการสอบถามตัวแทนของผู้รับจ้าง หลายครั้งหลายหน ถึงแบบบ้านหรือแปลนบ้าน แต่ได้รับการปฏิเสธตลอดมา ตัวแทนผู้รับจ้างหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโครงการได้มอบให้แต่แบบบ้านของโฉนดแปลงอื่น ซึ่งเป็นคนละแปลงกับของผู้ว่าจ้าง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้รับจ้างไม่มีแบบแปลนบ้านให้ผู้ว่าจ้างหรือผู้เชี่ยวชาญของผู้ว่าจ้างทำการตรวจสอบความถูกต้องได้
  • ในเรื่องวัสดุอุปกรณ์รวมทั้งประเภท ชนิด สี ของสิ่งของต่างๆ ที่ใช้ในการก่อสร้าง ผู้ว่าจ้างได้ร้องขอให้ผู้รับจ้างเสนอให้ผู้ว่าจ้างได้ตรวจสอบ ได้เลือก ได้ตัดสินใจ ให้คุ้มค่ากับราคาที่ทำการว่าจ้างซึ่งสูงมาก แต่ทางผู้รับจ้างก็ไม่ได้ส่งมอบให้และบ่ายเบี่ยงตลอดมา
  • เมื่อได้ทำการสอบถามกับตัวแทนของพนักงานขายของผู้รับจ้าง ปรากฎว่าที่ดินที่ทำการปลูกสร้าง ส่วนหนึ่งกับอยในทะเลสาป ซึ่งเป็นพื้นน้ำ โดยที่ทะเลสาปก็มิใช่ของโครงการ The Laken แต่อย่างใด กับเป็นของโครงการเมืองทองธานี ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ว่าจ้างที่ได้จำนวนที่ดินไม่ครบถ้วนตามที่ตกลงจะทำการซื้อขายกัน และจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆจากเจ้าของโครงการเลย ร้องเรียนทางกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคก็แล้ว นัดไกล่เกลี่ยก็แล้ว กลับไม่มา ไม่คุย ไม่ตอบรับอะไรทั้งสิ้น ติดต่อไปก็ตัดสายทิ้ง เดี๋ยวติดบินต่างประเทศ เที่ยวอังกฤษ ส่งลูกไปเรียน มากมายหลายสิ่ง ก็ยังไร้ซึ่งการตอบรับ

ทางคู่กรณีอีกคนบอกว่าตัวเค้าเองถึงขั้นขึ้นศาลแล้วเหมือนกัน แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา คิดว่ามีคนหนุนหลัง ไม่สามารถเอาผิดเค้าได้ ซึ่งคดีนั้นมีมูลค่าความเสียหายมากกว่าเรา แต่เค้ายังไม่ได้เงินคืนเลย แล้วเราจะได้อะไร เงินก้อนนั้นสำหรับเค้ามันอาจไม่ได้มากมายนัก แต่สำหรับเรา เราหามันมาด้วยความยากลำบาก ฉะนั้นก็หวังว่าจะได้คืนบ้าง จะซื้อบ้านทั้งทีแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้ บอกเลยว่าเสียความรู้สึก ท้อ และหมดกำลังใจจริงๆ

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก คุณ  สมาชิกหมายเลข 3590759  สมาชิกจากเว็บไซต์ Pantip.com

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก