บ้านคือวิมานบนดิน เพราะเป็นที่ๆเราอยู่แล้วรู้สึกสะบายที่สุด และบ้านก็ยังเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะแก่การ ลงทุนอสังหา ฯ เพราะได้ผลตอบแทนที่ดีแถมความเสี่ยงต่ำด้วยนะครับ
ซื้อบ้านกับการ ลงทุนอสังหา ฯ ครั้งสำคัญในชีวิต
การที่เราจะซื้อบ้านสักหลังหนึ่งนี่เป็นอะไรที่ต้องคิดแล้วคิดอีกจริงไหมครับ? เพราะนี่คือฐานที่มั่นของเราในการใช้ชีวิตอยู่ในอนาคตอันยาวไกลหรือเป็นแหล่งเงินทองให้กับเรา แต่บ้านและที่ดินเจ้ากรรมก็แพงซะเหลือเกินจนเราต้องไปกู้แบงค์โดยเราจะต้องจ่ายค่าผ่อนชำระเป็นเดือน และทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดหนี้สิน ก็ใช้เวลาหลายๆปีเลยทีเดียวจนคุณรู้สึกว่าเพิ่มภาระให้กับตัวเองรึเปล่า
ใครที่กำลังคิดแบบนี้อยู่เปลี่ยนความคิดไปได้เลยครับ เพราะที่เราจ่ายค่าผ่อนชำระนั้นมันไม่ได้ไปไหนเลยครับมันอยู่กับเราตลอดตั้งแต่เราซื้อบ้านมา ก็ “บ้านไงครับ” เราจ่ายค่าผ่อนชำระเพื่อที่จะซื้อบ้านพอจ่ายหมดเราก็สามารถปล่อยเช่าหรือขายออกไป ซึ่งต้องได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าที่เราซื้อมาแน่นอนอยู่แล้วครับ
บ้านกับที่ดินทางเลือกในการลงทุน
ทุกคนอาจจะสงสัยว่าลงทุนกับบ้านและที่ดินมันจะได้ผลตอบแทนดีกว่าพวก พันธบัตร หุ้น หรือเงินฝากได้ยังไงกันเราจะไขข้อสงสัยไปพร้อมๆกันนะครับ
จากตารางข้างบนก็จะเห็นได้ว่า หุ้นสามัญมีความโดดเด่นในเรื่องมูลค่าเพาะหุ้นสามารถโตวันโตคืนได้นั้นเอง รองลงมาคือหลักทรัพย์แปลผันอาจจะกลายเป็นหุ้นได้ในอนาคต ถึง2ข้อนี้จะมีมูลค่าที่สูงแต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็สามารถทำให้การลงทุนทั้ง 2 แบบนั้นตกลงได้ฮวบฮาบแบบไม่ทันตั้งตัวเลยที่เดียวเชียว
การลงทุนแบบอสังหาริมทรัพย์แบบบ้านและที่ดินนั้นถึงจะไม่ได้โตแบบฮวบฮาบแบบการลงทุนทั้ง 2 แบบข้างต้นที่กล่าวมา แต่การเติบโตของมูลค่าก็ทำได้ดีและสามารถเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอแถมยังไม่ลดลงแบบฮวบฮาบอีกด้วย
การลงทุนแบบพันธบัตรและการฝากเงินนั้นต้องถือไปยาวๆเพื่อรับดอกเบี้ยและอาจจะใช้เวลานานพอสมควรที่จะได้ผลตอบแทนก้อนโต ที่หน้าสนใจในตารางเปรียบเทียบอีกอย่างก็คือ กระแสรายได้ที่เกิดจากการลงทุนแบบ พันธบัตร การฝากเงิน หุ้นกู้ รวมถึงหุ้นบุริมสิทธิ ที่ได้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย แต่ก็มาแพ้เงินเฟ้อเพราะถ้าเงินเฟ้อมูลค่าที่คุณลงทุนไปก็จะตกลงไปตามค่าเงินที่อ่อนตัวตามนั้นเอง
ส่วนการลงทุนแบบหุ้น แม้ว่าผู้ถือครองหุ้นจะถือยาวรอรับเงินปันผลก็ตามแต่ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีหรือบริษัทขาดทุนบริษัทก็อาจจะไม่จ่ายปันผล แถมเงินที่เราลงทุนไปกับริษัทนั้นๆก็จะลดลงตามราคาหุ้นอีกด้วย ในทางกลับกันถ้าบริษัทมีกำไรมาก เงินปันผลก็อาจจะได้มากเช่นกัน การป้องกันตัวเองจากเงินเฟ้อนั้นดูเหมือนว่าหุ้นจะทำได้ดีเลยทีเดียวเพราะถ้าเกิดเงินเฟ้อราคาสินค้าจะสูงขึ้นทำให้ราคาหุ้นของธุระกิจนั้นๆสูงขึ้นตามไปด้วย
ข้อเสียของการลงทุนแบบหุ้นก็คือ คุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงตอนไหน เพราะถ้าลงทุนแบบไม่มีข้อมูลอะไรมารับรองเลยว่าหุ้นตัวนี้ในอนาคตมันจะขึ้น คุณก็อาจจะสูญเสียเงินทั้งหมดของคุณไปเลยก็ได้ครับ
ทีนี้มาดูเกี่ยวกับการลงทุนแบบบ้านและที่ดินบ้างนะครับ ถึงจะไม่สามารถสร้างกระแสรายได้ในรูปแบบดอกเบี้ยได้ แต่การถือครองบ้านและที่ดินยังสามารถสร้างรายได้ในรูปแบบค่าเช่า รวมถึงเรื่องความปลอดภัยของการสูญเสียเงินจากการลงทุนและการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ การลงทุนในบ้านและที่ดินนั้นมีความปลอดภัยที่ดีมากเพราะบ้านและที่ดินเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตของมนุษย์นั้นเอง จึงทำให้ราคาไม่ตกและยังจะเพิ่มมูลค่าไปเรื่อยๆอีกเพราะเป็นสิทรัพย์ที่มีจำกัดนั้นเอง
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น การลงทุนในบ้านและที่ดิน ดูเหมือนจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดไม่มีการสูญเสียเงินทุน
บ้านและที่ดิน สินทรัพย์ที่เหมาะสำหรับการลงทุน
บ้านและที่ดินแต่ละทีก็แตกต่างกันไปนี่อาจจะเป็นจุดขายอีกจุดหนึ่งที่น่าลงทุนเราลองไปดูดีกว่าครับว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสดใจบ้างครับ
บ้านและที่ดินเป็นสินทรัพย์ที่มีจำกัด ที่ไม่สามารถมีมาทดแทนได้โดยเฉพาะทำเลที่ตั้งและยังเป็นปัจจัย 4 สำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ ถ้าเจอสถานะการเงินเฟ้อในประเทศนักลงทุนต่างๆก็จะแนะให้ให้คนมีเงินซื้อที่ดินและบ้านไว้เพื่อไม่ให้ค่าเงินต่ำจนเกินไป เพราะราคาบ้านและที่ดินจะสูงมากๆ มากว่าสินค้าทุกประเภทนั้นเองครับ
การลงทุนซื้อบ้าน สามารถขอสินเชื่อหรือกู้เงินระยะยาวได้ง่าย ในอัตรดอกเบี้ยต่ำ ถึงราคาบ้านและที่ดินจะมีราคาสูงมาก แต่ก็สามารถซื้อขายได้ไม่ยากโดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดสินเชื่อมีสภาพคล่องตัวสูง การกู้เงินมาซื้อบ้านและที่ดิน ถ้าคุณกู้เงินมาซื้อบ้านหรือที่ดินในสภาวะเงินเฟ้อ รายจ่ายที่จะชำระในแต่ระเดือนของเงินกู้จะลดลงตามสภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น สามารถนำบ้านและที่ดินมาเพิ่มผลตอบแทนโดยการปล่อยให้เช้า หรือสร้างเป็นร้านขายของ และสามารถซื้อมาเพื่อเกงกำไรได้อีกด้วย
ถ้าเป็นที่พักให้เช่ารายเดือนเจ้าของก็จะมีรายได้ในแต่ละเดือนทั้งปี หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วเงินที่เหลือจะเป็นเงินเก็บของเราหรือสามารถนำไปซื้อบ้านและที่ดินเพื่อเกงกำไรหรือสร้างผลประกอบการอื่นๆได้
อสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านและที่ดินได้รับการลดหย่อยภาษีอย่างมากมาย สำหรับบุุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ครอบครองอยู่นั้นสามารถนำดอกเบี้ยเงินกู้ที่มาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นมาลดหย่อนภาษีได้ สูงสุดถึง 50,000 ต่อปีอีกด้วยนะครับ ส่วนผู้ถือครองแบบริติบุคคล สามารถนำมาหักค่าเสื่อมและค่าสึกหรอได้อีกด้วยน่ะครับ เป็นธุรกิจที่ได้รับความสนใจจากรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยเลยละครับ โดยเฉพาะ ผู้ที่มีรายได้สุทธิช่วง 80,000 แรก สามารถลดหย่อนภาษีและค่าธรรมเนียมในการซื้อได้ครับ
ข้อเสียในการลงทุนในบ้าน
ทุกการลงทุนมีข้อเสียจริงไหมครับ? การลงทุนในบ้านและที่ดินก็เช่นกันครับเราลองไปดูว่าข้อเสียต่างๆมีอะไรบ้าง ไปรับชมพร้อมๆกันเลยครับ
- ต้องอาศัยความรู้ ทักษะและปฏิภาณอย่างมากในการตัดสินใจซื้อ
- ภาระของเจ้าของมีมากไม่ว่าจะเป็น การซ่อมแซม การดูแลรักษา การตกแต่ง เป็นต้น
- อาจจะโดนหลอกลวงได้ เพราะจะต้องผ่านกระบวนการนายหน้าหลายขั้นตอน ซึ่งกว่าจะได้เป็นเจ้าของนั้นมีกระบวนการที่ซับซ้อน
- ต้องใช้เงินลงทุนที่สูง
- เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ยาก ต้องใช้เวลาพอสมควรในการซื้อขายแต่ละครั้ง ในกรณีที่ตองการใช้เงินสดแบบเร่งด่วนเป็นไปได้ยาก
- ภาษีที่เกี่ยข้องค่อนข้างสูง ต้องเสียค่าการโอนกรรมสิทธิร้อยละ 2 ของทนทรัพย์รวมถึงต้องเสียค่าอากรแสตมป์อีกร้อยละ 0.5 ของทุนทรัพย์อีกด้วย เป็นต้น
ทางเลือกในการลงทุนบ้านและที่ดิน
เนื่องจากช่วงนี้ธุระกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังบูมเลยละครับเพราะได้รับการกระตุ้นจากภาครัฐค่อนข้างมาก ทำให้มูลค่าของธุระกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในลักษณะของบ้านและที่ดินนั้นมีอยู่ 6 แบบ คือ
1.ซื้อบ้านและที่ดิน นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์และผลตอบแทนสูงสุด
2.ซื้อที่ดินเปล่า เพื่อเอาไว้เกงกำไรในอนาคต
3.ซื้อที่ดินเปล่าแล้วมาจัดแบ่งตามสัดส่วนที่ต้องการเพื่อสร้างผลตอบแทนให้เรา
4.ซื้อบ้านและที่ดิน ผ่านหน่วยการลงทุนของกองทุนรวมที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์จัดให้
5.ซื้อที่ดินมาแบ่งให้เช่าขายของหรือาร้างที่พักให้คนมาเช่าอยู่
6.การซื้อหุ้นของอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านและที่ดิน ควรประกอบไปด้วยทางเลือกทั้ง 4 ดังนี้
1.ซื้อบ้านและที่ดินมาแล้วขายต่อไปเลย : อาจจะต้องปรับปรุงภายในบ้านและบริเวณบ้านก่อนแล้วนำไปขายในราคาที่สูงกว่า
2.ซื้อบ้านและที่ดินมาแล้วมาปล่อยเช่าต่อ : เป็นการซื้อบ้านและที่ดินมาแล้วมาปล่อยเช่าทำให้มีเงินเดือนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ แต่ก็ต้องหาคนเช่าไวๆถึงจะได้มีเงินจากส่วนี้ได้
3.ซื้อบ้านและที่ดิน แล้วมาปล่อยเช่าสักระยะหนึ่งแล้วจึงนำไปขาย : เป็นการใช้เวลาปานกลางในการถือครอง ต้องกำหนดเวลาที่จะขายเพื่อใช้เป็นเงินก้อนเอาไว้ทำสิ่งต่างๆ ควรจะใช้เวลา 5-10 ปี ในการปล่อยให้เช่าและขายไป
4.เช่าบ้านและที่ดินมาเพื่อนำไปปล่อยให้เช่าต่อ : เหมาะสำหรับทำเลดีๆ และเป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อที่จะเป็นเจ้าของที่ตรงนั้น เอาไวขายในอนาคต
ประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ การลงทุนในบ้านและที่ดินนั้นมีสภาพซื้อขายที่ต่ำ เพราะมันไม่ใช่ที่จะอยากขายก็ขายได้เลย ต้องอาศัยการโฆษณา ต่างเข้าช่วยเพื่อที่จะขายออกได้ไวขึ้น เพราะฉะนั้นการลงทุนในบ้านและที่ดินนั้นควรเป็นเงินที่เราไม่ได้ใช้หรือเงินเก็บนั้นเองเพื่อที่จะไม่ให้ภาวะเงินขาดมือนั้นเอง
ลงประกาศฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย คลิ๊ก …
ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่
