หลายๆคนที่กำลังประสบปัญหาหรือคิดไม่ตก ว่าแต่ละเดือนที่เราต้องจ่ายเงินผ่อนบ้านไปแต่ละเดือนนั้นส่วนใหญ่เราจะต้องจ่ายแต่ดอกเบี้ยส่วนเงินต้นของตัวบ้านนั้นหักออกไปแค่นิดเดียว ดังนั้นหลายๆคนเลยคิดที่จะนำเงินไปโปะบ้านในช่วงที่เรามีเงินก้อน ไม่ว่าจะเป็น ได้โบนัส หรือค่าคอมมิชชั่นต่างๆกันใช่มั้ยละคะ เพราะนอกจากจะช่วยลดต้นและ ยังช่วยทำให้เราประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้อีกด้วย จากที่ฟังมาข้างต้นการโปะหนี้บ้านมันเป็นเรื่องที่ดีใช่มั้ยละคะ แต่ช้าก่อนยังมีอีกหลายๆเรื่องที่คนยังมักเข้าใจผิดเรื่องการโปะบ้านกันอยู่ดังนั้นวันนี้เรามาดุ แนวทางโปะบ้าน ที่ถูกต้องกันดีกว่าค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูเหตุผลกันดีกว่าค่ะ
แนวทางโปะบ้าน แบบประหยัดเงินได้เป็นล้านกับสิ่งที่ต้องรู้ก่อนถ้าจะโปะบ้านให้คุ้มค่าที่สุด
ควรสำรองเงินไว้สำหรับเลี้ยงชีพ ตามสูตร รายจ่าย+จ่ายหนี้ 6-12 เดือนก่อน นั่นคือมีครบแล้วค่อยเอาเงินไปโปะบ้าน เพราะว่าการที่เราเอาเงินสดไปโปะบ้านเลยอาจจะมีความเสี่ยง เช่น คนที่รักเข้าโรงพยาบาล รถเสียต้องซ่อม หรือเราอาจจะพบเจออุบัติเหตุ นั่นคือความเสี่ยงที่เราอาจจะต้องเจอในชิวีต เพราะว่าต่อให้เราจ่ายเเบงก์ตามกำหนดหรือเป็นลูกหนี้ที่ดีแต่ถ้าเดือนไหนที่คุณไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ทันตามกำหนดเวลาของเเบงก์ แบงก์จะเกิดดอกเบี้ยที่คุณจ่ายเงินช้าทันทีโดยที่ทางเเบงก์จะไม่สนใจว่าคุณเป็นลูกหนี้ดีมาแล้วกี่ปีก็ตาม
การโปะบ้าน ยิ่งโปะบ้านเรายิ่งมีกรรมสิทธิของบ้านหลังนั้นมากขึ้น เพราะว่า บ้าน คือ สินทรัพย์ถาวร ที่ดีที่สุด การโปะเงินต้น 1 บาท = คุณมี กรรมสิทธิ ความเป็นเจ้าของมากเท่านั้น ยิ่งโปะเงินต้นได้มาก คุณยิ่งมี กรรมสิทธิ ในบ้านมากตาม ยิ่งใครมีบ้านทำเลที่ดีนั้นอาจจะทำให้เราขายบ้านหลังนั้นได้กำไรมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
โปะบ้านไม่ได้เสียค่าธรรมเนียม สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าถ้าเรานำเงินไป โปะหรือปิดบ้านต้องเสียค่าธรรมเนียมนั้นจริงๆแล้วเราสามารถที่จะจ่ายค่า ผ่อนบ้าน ในแต่ละเดือน ได้มากกว่าที่ธนาคารกำหนด เช่นในแต่ละเดือน ต้องจ่ายค่าบ้าน 20,000 แต่ในเดือนนั้นเราสามารถ จ่ายเพิ่มเป็น 40,000 บาทได้ด้วย แต่เพื่อไม่ประมาทก็ควรจะตรวจสอบในสัญญาเงินกู้บ้าน หรือสอบถามโดยตรงกับธนาคารเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดได้ค่ะ
เปลี่ยนจากการนำเงินไปโปะบ้านมานำเงินไปลงทุนอาจจะได้ผลที่ดีกว่าจริงหรือ?
เชื่อว่าหลายๆท่านคิดว่าทำไมเราไม่นำเงินไปลงทุนละ นั่นอาจจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าก็ได้ แน่นอนว่าการนำเงินไปลงทุนนั้นได้ผลตอบแทนดีกว่าการที่เรานำเงินมาโปะบ้านแน่นอนแต่ต้องอย่าลืมด้วยนะค่ะว่าการลงทุนทุกๆอย่างก็มีความเสี่ยงสูงตามมาด้วยเช่นกัน อย่างเช่น หุ้นหรือกองทุนหุ้น ที่มีความเสี่ยงสูงก็มีโอกาสที่จะกำไรหรือขาดทุน ต่างกับการที่เราเลือกนำเงินก้อนไปโปะบ้านเพราะนั่นไม่มีความเสี่ยง และยังช่วยประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้อย่างแน่นอนอีกด้วยค่ะ
ก่อนจากกันการโปะบ้านนั้นเป็นเรื่องที่ถ้าเรามีเงินพอไม่เดือนร้อนก็เป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำนะคะ แต่ว่าก็ควรจะระวังไว้ด้วยว่าก่อนที่เราจะนำเงินก้อนไปโปะบ้านควรเก็บเงินไว้เป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินก่อนอยู่ที่ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือนเสมอ เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินเราจะได้นำเงินส่วนนี้มาใช้แทนได้คะ