แอ่วเหนือ…เมืองลองสเตย์


ด้วยสภาพแวดล้อมและอัธยาศัยไมตรีของผู้คน ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่า เพราะอะไร ภาคเหนือของประเทศไทยถึงติดอันดับเมืองที่ต่างชาติอยากเข้ามาใช้ชีวิตบั้นปลายหลังเกษียณมากเป็นอันดับที่ 2 รองจากประเทศมาเลเซีย และนอกจากนี้ข้อมูลจากสถานทูตยังระบุอีกว่า จังหวัดเชียงใหม่มีประชากรชาวญี่ปุ่นเป็นอันดับ 3 รองจากกรุงเทพฯและชลบุรี และข้อมูลจากกงสุลเชียงใหม่ก็ได้ระบุไว้ว่า ในจำนวน 9 จังหวัดของภาคเหนือนั้น มีชาวญี่ปุ่นกว่า 3,300 คน และกว่าครึ่งเป็นผู้ที่เดินทามาลองสเตย์โดยเฉพาะ (ข้อมูลของ เดือนมกราคม 2013)

           ด้วยข้อมูลที่ค่อนข้างจะเป็นทางการทำให้เราพอจะเป็นภาพว่า ภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงใหม่ เหมือนกับเป็นฮับใหญ่ของลองสเตย์ ที่มีชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

           แล้วทำไมต้องเป็น ภาคเหนือ ประเทศไทยล่ะ…?

           อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า สภาพแวดล้อมและอัธยาศัยไมตรีของผู้คน มีส่วนสำคัญมาก และนอกจากนี้ ด้วยความที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำกว่าเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับในหลายๆด้าน และเป็นสังคมที่เคารพให้เกียรติต่อผู้สูงอายุ ดังนั้น ถ้าเทียบกับการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น ที่แพงแสนแพงแล้ว คนญี่ปุ่นจึงเลือกที่จะมาใช้ชีวิตเมืองไทยที่เพียบพร้อม เสมือนอยู่อย่างพระราชา ยังจะดีซะกว่า ใช้อย่างอดออมในชีวิตบั้นปลายนั่นเองค่ะ

           นอกจากนั้นแล้ว คนไทยเองยังมีทัศนคติในเชิงบวกกับคนญี่ปุ่น ที่ดูเหมือนจะสุภาพอ่อนน้อม เข้ากับคนไทยได้ง่ายกว่า หรือคนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นเอง ยังสามารถฝึกภาษาหรือหารายได้พิเศษผ่านการเป็นล่ามหรืองานดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งนับวันอาชีพเหล่านี้ในเชียงใหม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงมากขึ้น

           เมื่อความเป็นไปได้ทางประชากรกลุ่มลองสเตย์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ธุรกิจอสังหาฯกับธุรกิจลองสเตย์ในเชียงใหม่ ก็เป็นอีกธุรกิจเกื้อหนุนที่น่าสนใจรวมถึงสามารถตอบโจทย์ประชากรชาวญี่ปุ่นที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันๆได้อีกด้วย

           นั่นแน่…เริ่มสนใจลงทุนอสังหาฯเพื่อธุรกิจลองสเตย์กันบ้างหรือยังคะ…?

ที่มา : Long Stay Life, etatjournal