หลังจากช่วงครึ่งปีแรก 2563 ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบหลายระลอกจากหลายปัจจัย ทำให้หลายผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต่างพร้อมใจใส่เกียร์ถอย เปิดตัวโครงการใหม่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี โดยหันมาเร่งขายโครงการคอนโดใหม่พร้อมอยู่ที่ถือเป็นอุปทานสะสม พร้อมทั้งเร่งโอน เพื่อหมุนเวียนกระแสเงินของบริษัท ในขณะเดียวกัน บ้านเดี่ยวมือ 2 ก็ได้กลายเป็นสินค้าทดแทนที่เข้ามาแรงแซงทางโค้ง เนื่องจากเป็นสินค้าที่เรียลดีมานด์ต้องการ ดังนั้นบทความนี้จึงจะเป็นการรายงานสถานการณ์โครงการคอนโดใหม่พร้อมอยู่และบ้านมือ 2 ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงในขณะนี้
โครงการคอนโดใหม่พร้อมอยู่และบ้านมือสอง สินค้ามาแรง ตอบโจทย์เรียลดีมานด์
สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 นับเป็นปีทองของเรียลดีมานด์อย่างแท้จริง เนื่องจากผู้ประกอบการต่างแข่งขันการจัดโปรโมชั่น ลดราคาที่อยู่อาศัย งดค่าธรรมมเนียมการโอน รวมถึงมีข้อสเนอในการผ่อนชำระอีกด้วย นอกจากนั้นผู้ประกอบการยังเน้นการขายโครงการคอนโดใหม่พร้อมอยู่ ในราคาที่มีการลดตั้งแต่ 20-50% ทำให้ประโยชน์จึงตกมาเป็นของผู้บริโภคที่เป็นเรียลดีมานด์อย่างแท้จริง ซึ่งทำให้โครงการคอนโดใหม่พร้อมอยู่มีราคาที่ถูกกว่าโครงการใหม่ที่อยู่ในช่วง Presale จึงสามารถตอบโจทย์เรียลดีมานด์ที่พร้อมจะตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในระยะเวลาอันใกล้ได้อย่างสมบูรณ์
ในขณะเดียวกัน บ้านมือ 2 ก็ได้กลายมาเป็นสินค้าทดแทนที่น่าจับตามอง เนื่องจากบ้านมือสองบางประเภท มีราคาชายใกล้เคียงกับโครงการใหม่ที่ปรับตัวลดลงเพื่อระบายอุปทานสะสม ซึ่งจุดขายที่สำคัญที่ทำให้บ้านมือสองได้เบียดขึ้นมาเป็นคู่แข่งในตลาดบ้านมือหนึ่ง ก็คือทำเลและขนาดบ้านที่เข้าตอบโจทย์วิถีชีวิตแบบ New normal ได้ยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งทั้งสองจุดขายนี้ได้กลายเป็นตัวเร่งการเติบโตของตลาดบ้านมือสอง
สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่าดัชนีราคาที่อยู่อาศัยมือสองในปี 2563 เมื่อเทียบกับปี 2562 มีราคาคงที่ จากเดิมที่ราคาเมขึ้นทุกปีเฉลี่ย 3-5% แต่ชณะเดียวกันกลับพบว่าพฤติดรรมการค้นหาที่อยู่อาศัยมือสองกลับเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าอาจเป็นเพราะจำนวนอุปทานที่มากขึ้น โดยจากเดิมที่อัตราการขายบ้านมือสอง มันจะมีสถานการณ์ที่ล้อไปกับตลาดบ้านมือหนึ่ง โดยหากราคาบ้านมือหนึ่งมีการปรับตัวไปในทิศทางใด ตลาดบ้านมือสองก็ปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน โดยข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) พบว่าการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสอง เปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2562 และไตรมาส 1/2563 พบว่าจำนวนหน่วยโอนฯ ของบ้านมือสองไม่ตก แต่ตัวเลขหน่วยโอนฯ ของบ้านมือหนึ่งกลับลดลง 6.5%
โครงการคอนโดใหม่พร้อมอยู่ และแนวราบมือสอง ตัวเลือกหลักตอบโจทย์ยุคโควิด
ถึงแม้กระแสอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะค่อนข้างหดตัว อันเนื่องมาจากขาดดีมานด์จากนักลงทุนและต่างชาติ แต่สำหรับตลาดเรียลดีมานด์ ยังคงเป็นตลาดหลักที่ขับเคลื่อนกระแสตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยสินค้าที่น่าจับตามองคือโครงการคอนโดใหม่พร้อมอยู่ และที่อยู่อาศัยแนวราบมือสอง ทั้งนี้เนื่องจากบ้านมือสองนั้นยังคงเป็น Nature Demand ที่เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งค่อนข้างมีความผันผวนน้อย โดยที่อยู่อาศัยแนวราบนั้นจะมีราคาที่ต่ำกว่าตลาดที่อยู่อาศัยมือหนึ่ง 25-30% โดยทาวน์โฮมมือสองจะราคาต่ำกว่าทาวน์โฮมมือหนึ่ง 27% และบ้านเดี่ยวมือสองจะมีราคาต่ำกว่าบ้านเดี่ยวมือหนึ่ง 30% ทำให้ที่อยู่อาศัยแนวราบกลายเป็นตัวเลือกที่ควรค่าแก่การพิจารณาในมุมมองของผู้บริโภค
แต่ในขณะเดียวกันสำหรับที่อยู่อาศัยแนวสูง โครงการคอนโดมิเนียมใหม่พร้อมอยู่กลับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งกว่า โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการต่างพร้อมใจกันหั่นราคาและอัดโปรโมชั่น เนื่องจากคอนโดมิเนียมมือสองนั้นมีราคาต่ำกว่ามือหนึ่งเพียงประมาณ 17% ซึ่งทำให้ราคาไม่แตกต่างกันมากนัก ทำให้แข่งขันกับโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่มือหนึ่งได้ลำบาก
ครึ่งปีหลัง 2563 ผู้ประกอบการกลุ่มมหาชนหลายรายก็เตรียมติดเครื่องเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ โดยเฉพาะตามแนวถนนสุขุมวิท, รัชดาภิเษก และทำเล CBD ซึ่งมีความคาดหวังในการดึงกำลังซื้อจากต่างชาติกลับคืนมาด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอจุดเปลี่ยนที่เข้ามาเสริมปัจจัยบวก ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะออกมาในทิศทางใด
ที่มา:
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/887573
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/887572