“บ้าน” ถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญมากในการดำรงชีวิต ความต้องการที่จะมีบ้านเป็นของตัวนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่อยู่ในความคิด และเป็นความฝันของแทบทุกคน แต่การที่จะซื้อบ้านซักหลังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าเมื่อเลือกบ้านที่มีคุณภาพในทำเลที่ตั้งซึ่งสอดคล้องกับการใช้ชีวิตของเราได้แล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปคือการทำธุรกรรมต่างๆ เพื่อให้ได้บ้านหลังนั้นมาครอบครอง โดยภาระทางการเงินที่จะมาเป็นอันดับแรกคือการวางเงินดาวน์ หรือการผ่อนดาวน์บ้าน ซึ่งส่วนมากแล้วนั้นแหล่งเงินทุนที่คนส่วนมากนำมาซื้อบ้านจะเป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ นั่นเอง
ซึ่งการกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อนำมาซื้อบ้านนั้นเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และการก็เงินเพื่อมาซื้อบ้านนั้นจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินในครอบครัวพอสมควร ซึ่งเรื่องนี้ทางภาครัฐบาล โดยกระทรวงการคลังได้เล็งเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ จึงประกาศนโยบายในการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองในชื่อโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการช่วยเหลือด้านการเงิน โดยทางภาครัฐจะช่วยสนับสนุนเงินในรูปแบบของ Cash back เพื่อลดภาระของการผ่อนดาวน์บ้านเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาทต่อราย โดยจะจ่ายเงินผ่านทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
- มีสัญชาติไทย
- ต้องเสียภาษีเงินได้อย่างถูกต้อง คือต้องมีข้อมูลในระบบฐานภาษีของกรมสรรพากร
- รายรับไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อปีในปีภาษี 2561
- ต้องได้รับการอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และจดจำนอง และทำนิติกรรมต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วจากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 – 31 มีนาคม 2563
- ต้องเป็นการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่สร้างแล้วเสร็จแล้วจากผู้ประกอบการที่เป็นผู้จัดสรรตามกฎหมาย
- ต้องเป็นการยื่นกู้ใหม่ ไม่ใช่เป็นการกู้เพื่อ Refinance
- ไม่เป็นบ้านมือสอง หรือบ้านที่รอขายของกรมบังคับคดี
- ต้องมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผู้กับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เพราะทางภาครัฐจะโอนเงินสนับสนุนผ่านช่องทางนี้เท่านั้น
- บัตรประชาชน 1 ใบสามารถใช้ได้ 1 สิทธิ์เท่านั้น
เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วยในการยื่นขอรับสิทธิทางโครงการก็จะพิจารณาไปตามหลักเกณฑ์ และจะส่ง SMS/E-Mail เพื่อแจ้งผลการตรวจสอบ เมื่อผ่านการตรวจสอบทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ก็จะโอนเงิน 50,000 บาทเข้าบัญชีพร้อมเพย์ตามเลขประจำตัวบัตรประชาชน และเงินที่ได้รับจากโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” ถือเป็นเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกด้วย
ส่วนสถาบันทางการเงินต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” มีทั้งสิ้น 17 แห่ง นั่นหมายความว่าถ้าประชาชนต้องการได้รับการสนับสนุนจากโครงการนี้ต้องยื่นกู้เพื่อซื้อบ้านจากสถาบันทางการเงินที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซีไอเอ็มบี(ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารธนชาติ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไอซีบีซี(ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center โทร. 0-2111-1144
อ้างอิง :
https://www.baandeemeedao.com/
https://www.ghbank.co.th/news/detail/public-relations/press-baan-dee-mee-dao