“บางนา” พลิกเป็นทำเลทอง หลัง EEC บูม ดันราคาที่ดินขึ้น 50% ในอีก 9 ปี

ทำเลบางนาถือเป็นทำเลทองที่กำลังมาแรงแซงหน้าทำเลไหน ๆ ในปี 2564 นี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลได้มีการจัดทำโครงการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ในจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่เดิมพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดก็เป็นแหล่งของการทำอุตสาหกรรมอยู่แล้ว แต่เมื่อได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐก็ยิ่งทำให้พื้นที่ดังกล่าวได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นโซนศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรม รวมไปถึงเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจและเป็นเมืองท่องเที่ยวทำเลทองที่ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นอย่างมากอีกด้วย

นายอมฤทธิ์ทานชู รอย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท กรีนฟิลด์ แอดไวซอรี่ จำกัด บริษัท ทุนสิงคโปร์ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ดำเนินโครงการพานารา เทพารักษ์ กล่าวว่า ทำเลปลายทางด่วนบางนา-ตราด ถือเป็นทำเลดาวรุ่งเศรษฐกิจโซนบางนา ซึ่งครอบคลุมเขตบางนาและพื้นที่โดยรอบได้มีการปรับเปลี่ยนจากศูนย์กลางอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ไปสู่ย่านศูนย์การค้าและที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นผลมาจากรัฐบาลกำหนดให้เป็นพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (ECC)

นอกจากนี้ในเขตลาดกระบังและเทพารักษ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโซน Greater Bangna ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นทำเลทองที่มีศักยภาพสูง โดยมีการเชื่อมโยงกับเส้นทางคมนาคมสายหลัก เช่น ทางด่วนบางนา-ตราด และโครงข่ายทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร รวมไปถึงระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง รวมทั้งมีโครงการก่อสร้างโรงแรม ศูนย์การค้าและศูนย์จัดแสดงนิทรรศการ ซึ่งทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีลักษณะความเป็นพื้นที่เมืองเพิ่มมากขึ้น

จะเห็นได้ว่าทำเลทองอย่างโซนบางนานี้ ได้เข้ามามีความสำคัญอย่างมากสำหรับนักพัฒนาอสังหาฯ รายต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเพราะนอกจากทำเลบางนาจะมีความน่าลงทุนอยู่มากแล้ว ยังมีการคาดการณ์ว่าในอีก 9 ปีข้างหน้า ราคาอสังหาฯ ในบริเวณโดยรอบจะเพิ่มสูงขึ้นอีกกว่า 50% ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ หลาย ๆ เจ้าจะเริ่มเข้ามาจับจองพื้นที่ในทำเลทองแห่งนี้กันเพิ่มมากขึ้น

02_ทำเลทอง (1)ในด้านของนายสมศักดิ์ ศรีคุรุวาฬ ผู้อำนวยการ บริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์ส จำกัด ระบุว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาราคาที่ดินในโซนนี้เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าช่วงปี 2560-2561 ราคาที่ดินถีบตัวสูงขึ้นถึง 9% และเป็นปัจจัยดึงดูดการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ให้เข้ามาในพื้นที่นี้อย่างต่อเนื่องและคาดว่าภายในปี 2573 ราคาอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นถึง 50% ทางบริษัทจึงได้ลงทุน 3 โครงการมูลค่า 5,000 ล้านบาท รวมกว่า 1,000 ยูนิต ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

(1) โครงการพานารา เทพารักษ์ เป็นบ้านเดี่ยว ระดับราคา 7-15 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนเทพารักษ์ จำนวน 129 ยูนิต 

(2) โครงการพานารา ลาดกระบัง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 224 ยูนิต และ

(3) โครงการบ้านแฝดและทาวน์เฮาส์กว่า 800 ยูนิต ภายใต้แบรนด์อโณณาซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดขายได้ในอีก 9 เดือนข้างหน้า

นอกจาก บริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์ส จำกัด แล้วจะเห็นได้ว่ายังมีบริษัทขนาดใหญ่อีกหลาย ๆ บริษัท ที่ได้ย้ายที่ตั้งมายังพื้นที่บางนาแห่งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตพื้นที่นี้ก็จะยิ่งมีความอุดมสมบูรณ์ที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาคารสำนักงานที่สามารถรองรับจำนวนคนทำงานได้มากขึ้น รวมไปถึงโรงแรม ศูนย์การค้า สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ทำเลทองอย่างทำเลบางนากลายเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายและเป็นศูนย์กลางในด้านต่าง ๆ ที่มีความเจริญไม่ต่างจากพื้นที่ภายในเมืองเป็นการดึงดูดใจทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจพื้นที่โซนบางนามากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยจริงที่ไม่ต้องการกระจุกตัวอยู่ภายในเมืองเหมือนเมื่อก่อน แต่มีความต้องการอยู่อาศัยในพื้นที่ที่รับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น 

ซึ่งแน่นอนว่าหากผ่านพ้นสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19 ในปี 2564 นี้ไปได้นั้นและเศรษฐกิจในประเทศไทยเริ่มกลับมามีสภาพคล่องที่ดีอีกครั้ง เชื่อได้เลยว่าการเข้ามาลงทุนภายในพื้นที่บางนาแห่งนี้จะส่งผลดีต่อผู้พัฒนาอสังหาอย่างแน่นอน

อ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/913144
https://www.posttoday.com/property/640622
https://www.thansettakij.com/content/property/460797