กทม.เปิดเส้นทางเรือ “บางหว้า-สนามหลวง” ทดลอง 6 เดือน คนยังน้อย 200 คน/วัน เร่งแก้น้ำลงประตูคลองบางกอกใหญ่ หวั่นเกิดเหตุร้าย เมื่อเวลา 10.00 น. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาเส้นทางเดินเรือตามเส้นทางคลองภาษีเจริญ (ท่าเรือบางหว้า) – คลองบางกอกใหญ่ – แม่น้ำเจ้าพระยา (ท่าเรือท่าช้าง) ระยะทาง 8 กม. โดยมีนายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) และนายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ รองกรรมการผู้อำนวยการกลุ่มกิจการพิเศษ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ร่วมในพิธี
กทม.เปิดเดินเรือ สิ้นปี “บางหว้า-ท่าช้าง” คลองแสนแสบ-มีนบุรี ประหยัดเวลา20นาที
นายสกลธีกล่าวว่า เป็นการเปิดเส้นทางเดินเรือระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี และเชื่อมโยงการเดินทางแบบ “ล้อ-ราง-เรือ” ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี การทดลองเส้นทางเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ใช้เวลาทดลอง 6 เดือน จะสิ้นสุดในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ โดยไม่เก็บค่าโดยสารแต่อย่างใด
การให้บริการจะเริ่มตั้งแต่ 06.00 -19.00 น. ในช่วงเร่งด่วนเช้า (06.00-09.00น.) และเย็น (15.00-19.00 น.) ความถี่ของการปล่อยเรือจะอยู่ที่ 30 นาที/ลำ ส่วนช่วงปกติ 09.00-15.00 น. ความถี่ของการปล่อยเรือจะอยู่ที่ 1 ชม./ลำ เรือ 1 ลำ รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 60 คน สำหรับเส้นทางจากท่าเรือบางหว้าถึงท่าเรือท่าช้าง ระยะทาง 8 กม. จุดเริ่มต้นจะอยู่ที่ท่าเรือบางหว้า ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน ในส่วนสายสีน้ำเงินจะเปิดให้บริการกลางปีนี้ จากนั้นเรือจะเดินทางในช่วงคลองบางกอกใหญ่ ผ่านวัดอินทาราม ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสถานีสูบน้ำคลองบางกอกใหญ่ เลี้ยวขวาจอดที่สถานีสะพานพุทธ แล้วจะผ่านอีก 2 สถานีคือ สถานีท่าเรือราชินีและท่าช้างสนามหลวง เป็นจุดสิ้นสุดเส้นทาง หากเดินทางตลอดเส้นทางจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที/ครั้ง
ขณะที่การจัดเก็บค่าโดยสาร ต้องรอประเมินความคุ้มค่า ต้นทุนและอื่นๆ หลังทดลองให้บริการ 6 เดือนก่อน แต่เบื้องต้นค่าโดยสารจะไม่แพงมาก เพราะเป็นการบริการประชาชน ไม่เน้นผลกำไรเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ ยังมีแผนจะขยายการเดินทางทางเรือในช่วงคลองแสนแสบจากเดิมช่วงท่าเรือวัดศรีบุญเรือง- ท่าเรือห้างพาซิโอ้ ระยะทาง 1 กม. จะขยายไปให้ถึงท่าเรือสำนักงานเขตมีนบุรี คิดเป็นระยะทางเพิ่มขึ้นอย่าง 10 กม. โดยจะเร่งรัดให้การเดินเรือเกิดขึ้นให้ได้ภายในปีนี้
ด้านนายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรุงเทพธนาคมได้รับว่าจ้างจาก กทม.ให้เดินเรือช่วงท่าเรือบางหว้า – ท่าช้าง เป็นจำนวนเงิน 17 ล้านบาท ตลอด 6 เดือนในช่วงทดลองให้บริการ โดยช่วง 4 วันแรกที่ผ่านมา มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ย วันละ 200 คน/วัน
ปัญหาอุปสรรคที่พบขณะนี้คือ การเดินเรือที่ต้องผ่านบริเวณสถานีสูบน้ำคลองบางกอกใหญ่ ช่วงเวลา 14.00-16.00 น. ซึ่งคาบเกี่ยวกับช่วงเวลาเร่งด่วน ที่ต้องเพิ่มความถี่ในการปล่อยเรือโดยสาร เพราะช่วงเวลาดังกล่าวจะเกิดน้ำลงต่ำกว่า 1.5 เมตร ทำให้เรือผ่านไปไม่ได้
โดยระดับน้ำที่เหมาะสมที่จะให้เรือผ่านไปได้อยู่ที่ 2 เมตรขึ้นไป หากต่ำกว่านี้ท้องเรืออาจชนกับขอบปูนบริเวณประตูน้ำ เกิดอันตรายได้ ทำให้ต้องจอดรอให้ระดับน้ำกลับมาสูงเป็นปกติเท่านั้น ซึ่งคาดการณ์ได้ยากว่าน้ำจะขึ้นเป็นปกติได้เมื่อไหร่ ขณะนี้กำลังปรึกษากับ กทม. และกรมเจ้าท่า เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้บริการบริเวณท่าช้าง โดย ”คุณโจ้“ นักศึกษาวิทยาลัยเพาะช่าง กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับการเปิดให้บริการของ กทม. ส่วนเวลาเดินทางประมาณ 35-36 นาทีก็ถือว่าไม่นานมากนัก ยังโอเคอยู่ แต่อยากให้เพิ่มจุดจอดรับคนในคลองบางกอกใหญ่และคลองภาษีเจริญมากกว่านี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน
ด้าน ”คุณจารุวรรณ” (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS บางหว้า กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วพอใจกับทุกอย่าง แต่การเดินเรือช่วงออกจากคลองบางกอกใหญ่ช้าไปหน่อย ทำให้กินเวลาเดินทางไปอย่างน้อยเกือบ 40 นาที ทั้งที่สามารถทำเวลาได้ดีกว่านี้
ส่วน ”คุณพิษณุ” พนักงานออฟฟิศ เปิดเผยว่า ส่วนตัวโอเคกับการที่ กทม.เปิดให้บริการเรือโดยสารนี้ เพราะสะดวกและรวดเร็วกว่า จากเดิมที่ต้องนั่งรถไฟฟ้าแล้วต่อรถเพื่อเข้าไปทำงานแถวเขตพระนคร จะใช้เวลาอย่างน้อย 1-1 ชม.ครึ่ง แต่พอมีเรือโดยสารนี้ ทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็วกว่าเดิมอย่างน้อย 20 นาทีเลยทีเดียว
ที่มา prachachat.net
ทำความเข้าใจ อัตราการผ่อนชำระ ดอกเบี้ยบ้าน คนไทยประชารัฐ แบบง่ายๆ
ผู้มีรายได้น้อยเฮ 24 มิ.ย. ซื้อ บ้านราคาไม่ถึงล้าน ลดค่าโอนเหลือ 0.01%