กู้บ้าน โดยไม่ต้องง้อธนาคาร!!! กับตัวช่วย P2PL

กู้บ้าน-1

สวัสดีค่ะ วันนี้เรากลับมาพบกันเป็นประจำอีกเช่นเคยนะค่ะ หลายๆท่านคงเคยได้ยินคำว่า‘ทุกความฝันเป็นจริงได้….ถ้ามีเงิน’ ประโยคดังกล่าวนี้ มันอาจจะฟังดูโหดร้ายไม่ไว้หน้า แต่มันก็คือความเป็นจริงของโลกที่ขับเคลื่อนภายใต้เศรษฐกิจทุนนิยม ที่เงินตรา ทั้งแบบจับต้องได้และไม่ได้ ยังเป็นสื่อกลางสำคัญสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ที่ปัจจัยต่างๆ นั้น มีราคาที่ต้องจ่ายในอัตราที่มากน้อยแตกต่างกัน แต่โดยรวมแล้ว ก็อยู่ในระดับที่สูงถึงสูงมาก จนทางเลือกอย่างการ กู้บ้าน หรือสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ดูจะเป็นของจำเป็นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ (ก็ค่าแรง อิฐ หิน ปูน ทราย ยังไงมันก็ต้องจ่ายอยู่วันยังค่ำ…)

ดังนั้นแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่ดูจะสูงขึ้นทุกปีตามสภาพและการปรับตัวตามเศรษฐกิจ แม้จะไม่กระทบกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ (มากนัก) แต่กับประชาชนรายย่อยนั้น มันก็เป็นสภาวะที่น่าตื่นตระหนก กับภาระผูกพันที่ดูจะผันผวนไปตามสภาพเศรษฐกิจและดินฟ้าอากาศ อย่างไรก็ดี ด้วยยุคสมัยข่าวสารดิจิตอล  ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อธุรกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้น ให้ได้มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับธุรกรรมสินเชื่อและการเงิน ที่เดินหน้าเข้าสู่ทางเลือกใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘Peer-to-Peer Lending’ ที่น่าจะเป็นทางเลือกใหม่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับประชาชนทั่วไปที่คิดอยากจะ กู้บ้าน หรือผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายย่อยที่คิดจะลงทุนในกิจการต่างๆ

อะไรคือ Peer-to-Peer Lending?

กู้บ้าน-2ถ้าว่ากันตามหลักการโดยทั่วไปแล้ว Peer-to-Peer Lending (หรือ P2PL) นั้น ก็คือการให้กู้ยืม และคิดอัตราดอกเบี้ยเช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์ทั่วไป แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปนั้นคือ P2PL จะไม่ได้ถูกดำเนินการโดยธนาคาร ไม่มีหน้าร้าน แต่จะทำหน้าที่เป็นคนกลางเพื่อประสาน ‘ผู้กู้’ และ ‘ผู้ให้ยืม’ ในเงื่อนไขอันเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายได้มาเจอกัน โดยมีระบบออนไลน์และ Social Network ทำหน้าที่ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ประวัติทางการเงิน และจุดประสงค์ของการกู้ยืมได้อย่างทั่วถึง

ข้อดีของ Peer-to-Peer Lending

กู้บ้าน-3ด้วยการที่ระบบ P2PL นั้นไม่ต้องมีพนักงาน ไม่ต้องมีหน้าร้าน ทำให้สามารถคิดอัตราดอกเบี้ยได้ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ที่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชนทั่วไป ในวงเงินที่ไม่สูงมากนัก อีกทั้งการตรวจสอบความน่าเชื่อถือและประวัติทางการเงินแบบออนไลน์ด้วยระบบ Social Network และมาตรฐานของธนาคารกลางนั้น ก็ค่อนข้างประกันความมั่นใจแก่ผู้ให้ยืมได้ในระดับหนึ่งว่า การลงทุนให้กู้ยืมของเขา/เธอ นั้น จะได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน เป็นที่น่าพอใจ

ในทางการเงิน ระบบ P2PL นั้น ถือได้ว่าทลายข้อจำกัดทางด้านธุรกรรมแบบเดิมๆ ที่เคยมีมาในระดับที่แรงพอสมควร เป็นปรากฏการณ์ที่ขยายตัวไปสู่ประเทศต่างๆ อย่างรวดเร็ว อาทิ Zopa.com และ Prosper.com ของสหรัฐอเมริกา ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

ความไม่ยืดหยุ่นของ Peer-to-Peer Lending

กู้บ้าน-5แม้ว่าระบบ Peer-to-Peer Lending ของต่างประเทศ จะอ้างอิงจากมาตรฐานการตรวจสอบเครดิตของผู้ขอกู้ยืมเงินผ่านมาตรวัดต่างๆ อาทิ FICO Rating หรือการหมุนเวียนบัญชีและหนี้บัตรเครดิตจากธนาคารหลักที่เชื่อถือได้ แต่เกิดขึ้นตามการตกลงระหว่างผู้ยืมและผู้ให้ยืม นั่นอาจจะเป็นปัญหาสำคัญสำหรับผู้ขอกู้ยืมที่มีปัญหาด้านเครดิตอยู่แต่เดิม (ไม่ว่าจะด้วยเหตุผล หรือสถานะใด) ที่อาจจะไม่น่ามีความน่าดึงดูดสำหรับผู้ให้กู้ยืม ที่จะให้การลงทุนผ่านเงินกู้ และลืมไปได้เลยเรื่องใช้สินทรัพย์มาค้ำประกัน เพราะเมื่อไม่มีสื่อกลางอย่างธนาคารพาณิชย์ที่มีทุนสำรองเพียงพอ นี่จึงเป็นธุรกรรมแบบมือต่อมือขนานแท้ที่ต้อง ‘ตาดีได้ ตาร้ายเสีย’ กันอย่างเดียว ในด้านของผู้ให้กู้ยืมเองก็ใช่ว่าจะนอนใจ ด้วยเหตุผลเดียวกันคือการขาดสื่อกลางอย่างธนาคารพาณิชย์ การกำหนดดอกเบี้ยจึงไม่ได้ขึ้นตามเงื่อนไขกลไกทางการเงินในแบบปกติ แต่จะใช้การ Reverse-Biddingที่มุ่งเสนอเงื่อนไขดอกเบี้ยเงินกู้ที่น่าสนใจที่สัมพันธ์กับจำนวนเงินที่ผู้กู้ยืมต้องการ และแม้จะไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ แต่ผลตอบแทนในตอนท้ายก็ยากนักที่จะบอกว่า นี่คือการลงทุนที่ให้ผลคุ้มค่าจนสามารถจับเป็นแนวทางหลักได้

peer-to-peer lending ต่างจากธนาคารอย่างไร

กู้บ้าน-4สิ่งที่ทำให้peer-to-peer lending ต่างจากธนาคาร คือ ต้นทุนที่ต่ำเพราะว่าเป็นการนำสินเชื่อมาให้ผู้บริโภคแบบ streaming ไม่ต้องใช้พนักงานเยอะไม่ต้องมีหน้าร้านทำให้รูปแบบนี้ถูกกว่าธนาคาร ยกตัวอย่างเช่น

ธนาคาร ต้องมีต้นทุนของธนาคาร

  • คอมพิวเตอร์, เว็บไซต์
  • พนักงานกว่า 100,000 คน
  • สาขามากกว่า 1,000 สาขา

บริษัท p2p lending ต้องมีต้นทุน

  • คอมพิวเตอร์, เว็บไซต์
  • พนักงานน้อยกว่า 100 คน
  • สาขาเพียง 2–3 สาขา

เริ่มต้นกับ peer-to-peer lending

กู้บ้าน-6สำหรับท่านไหนที่สนใจ กู้บ้าน สามารถทำได้ดังนี้

สำหรับผู้กู้บ้าน เริ่มแรกให้ผู้กู้สมัครผ่านเว็บไซต์ จากนั้นเลือกจำนวนวงเงินที่ต้องการ จากนั้น สินเชื่อที่เราขอจะถูกนำขึ้นไปเสนอแก่ผู้ลงทุนเพื่อรับเงินลงทุน และทางบริษัทจะติดต่อกลับมาเมื่อเราผ่านเกณฑ์เพื่อทำการยืนยันตัวตนเพื่มเติม จากนั้น บริษัท p2p lending จะทำการสรุปสัญญา และดำเนินการโอนเงินให้ผู้กู้ จากนั้นผู้กู้ได้รับเงินและรอชำระค่างวดในแต่ละเดือนค่ะ

สำหรับนักลงทุน เริ่มแรกสมัครบัญชีลงทุนผ่านเว็บไซต์และอาจจะต้องมีการยืนยันตัวตนและจำนวนเงินสำหรับในการมาลงทุน จากนั้นเราจะสามารถเลือกอนุมัติสินเชื่อที่ผู้ให้บริการ p2p lending นำเสนอในเว็บไซต์ นอกจากนี้ผู้ลงทุนก็ยังจะสามารถเลือกลงทุนแบบไม่เต็มจำนวนวงเงินสินเชื่อได้อีกด้วย และเมื่อสินเชื่อได้รับการยืนยันตัวตนและอนุมัติ เงินลงทุนจะถูกโอนไปให้ผู้กู้

Peer-to-Peer Lending กับประเทศไทย…

กู้บ้าน-7ถ้าให้สรุปกันแบบกำปั้นทุบดินแล้วนั้น ยากนักที่ระบบ Peer-to-Peer Lending จะสามารถเกิดขึ้นในประเทศไทย จากข้อกฎหมายที่ยังไม่ได้ครอบคลุมแนวทางของระบบดังกล่าว ที่มีความเสี่ยงที่จะกลายสภาพเป็นเงินกู้นอกระบบที่เราเห็นกันเกลื่อนกลาดอยู่ในปัจจุบัน หรือกลายเป็นสถานการณ์แบบ ‘ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย’ ที่อาจจะทำให้ผู้เป็นเจ้าของเงินต้องหงายเอาได้ง่ายๆ และแม้ว่า ประมวลกฏหมายแพ่งฯ มาตรา 654 จะกำหนดให้ดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบไม่เกินร้อยละ 15 แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าระบบ Peer-to-Peer Lending จะไม่ถูกนำมาใช้เพื่อหลบเลี่ยงกฎหมายในทางปฏิบัติ (และอย่างที่ทราบ ในหลายต่อหลายกรณี มันต้องใช้เวลาไม่น้อยที่กฎหมายหนึ่งๆ จะสามารถตามความเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้ทัน ก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้น…)

แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่ได้รับการพิสูจน์ ในการมาถึงของระบบหรือแนวคิดใหม่ๆ นั้นคือ มันไม่เคยรอเวลาให้มีการ ‘กำกับ’ อย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะมีใครสักคนเริ่มต้นใช้มัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…กับเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับปากท้องเช่น Peer-to-Peer Lending นี้ และเราอาจจะได้เห็นระบบนี้เกิดขึ้นในทางปฏิบัติเร็วกว่าที่คิดก็เป็นได้

ลงประกาศฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย คลิ๊ก …

ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่