คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบัน พื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศไทย ได้ถูกจับจองเป็นเจ้าของโดยชาวต่างชาติกันไปเรียบร้อยแล้วดังจะเห็นได้ว่าจากสถิติ มีจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานและลงทุนในประเทศไทยมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่ง ส่งผลให้คอนโดและบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการพักอาศัยของชาวต่างชาติเหล่านี้
สถิติ “ชาวต่างชาติ” ที่ได้รับอนุญาตทำงานในประเทศไทย (ธันวาคม 2555 / 2556 และ 2557)
สถิติ “ชาวต่างชาติ” ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย (ธันวาคม 2555 / 2556 และ 2557)
ถ้ายกมา 5 อันดับแรก จะเห็นได้ว่า สัญชาติที่เข้ามาทำงานมากที่สุดนั่นคือ ญี่ปุ่น, จีน, ฟิลิปปินส์, อังกฤษและอินเดีย และ 5 อันดับที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด นั่นคือ ญี่ปุ่น, จีน, อินเดีย, จีนไต้หวัน และเกาหลีใต้
คนต่างชาติเข้ามาเยอะขนาดนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่ธุรกิจอสังหาฯทั้งซื้อขายและให้เช่าจะได้รับโอกาสที่ดีใช่มั้ยล่ะคะ…แต่การที่จะขายของให้กับคนต่างชาติ ต่างภาษา และต่างวัฒนธรรม นอกจาก “ภาษา” จะเป็นสิ่งที่สำคัญแล้ว หากคุณใส่ใจกับรายละเอียดเรื่องไลฟ์สไตล์และลักษณะนิสัยประจำชาติให้มากสักหน่อย ก็จะช่วยให้คุณสามารถขายของชิ้นใหญ่นี้ให้กับชาวต่างชาติได้ไม่ยากค่ะ
ทีนี้เราจะขอยกตัวอย่าง กลุ่มชาวต่างชาติที่เห็นบ่อยๆในกรุงเทพฯ มาดูกันดีกว่าว่า ถ้าจะขายบ้าน-คอนโด ให้ 3 กลุ่มนี้ เราควรรู้อะไรบ้าง
ญี่ปุ่น : สุขุมวิทตอนกลาง ระหว่างอโศก – เอกมัย
สิ่งที่ให้ความสำคัญ : อยู่รวมกันแบบชุมชน เพื่อความอุ่นใจ ปลอดภัย, ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง โรงพยาบาลและความทันสมัย ไม่นิยมห้องใหญ่เกินไป พอใจที่ขนาดประมาณ 40-50 ตารางเมตร แต่ต้องมีอ่างอาบน้ำในห้องน้ำ เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของชาวญี่ปุ่นที่ติดการอาบน้ำ แช่น้ำในออนเซน
เกาหลี : พระราม 3 และ รัชดาภิเษก
สิ่งที่ให้ความสำคัญ : อยู่รวมกันแบบชุมชนและสนใจราคาที่สุด
ยุโรป-อเมริกัน : ราชดำริ, เพลินจิต และแนวรถไฟฟ้าย่านสุขุมวิทตอนต้น
สิ่งที่ให้ความสำคัญ : ทำเลและราคา ชอบห้องที่ใหญ่ขนาด 150ตารางเมตรขึ้นไป สำหรับ 2 ห้องนอน และ ไม่ต่ำกว่า 60 ตารางเมตร สำหรับห้องเดี่ยวนอกจากนั้น ชาวยุโรป จะชอบการตกแต่งห้องเอง จัดวางเอง และ ต้องมีเตาอบในห้องครัว เนื่องจากไลฟ์สไตล์ทำครัวที่นิยมใช้เตาอบ เป็นอุปกรณ์ในการทำอาหาร
ที่มา : รวบรวมข้อมูลจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว, ประชาชาติธุรกิจ