ขายบ้าน ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงทำตามขั้นตอนนี้ รับลองขายได้ชัวร์!!!

ขายบ้าน-1

สวัสดีค่ะ วันนี้เรากลับมาพบกันอีกครั้ง สำหรับท่านที่กำลังอยากจะ ขายบ้าน คอนโด หรือที่ดินต่างๆ หลายๆ ท่านคงคิดว่าขายยากแน่เลย หรือบางคนประกาศขายบ้านมานานแล้วขายไม่ออกสักที่ มีแต่ความเครียจว่าเมื่อไรจะขายได้ ดังนั้นวันนี้ทางเรา dotproperty จะมาช่วยชี้ช่องทางและร่วมกันช่วยหาทางออกของปัญหานี้กันค่ะ รับลองเลยว่าการขายบ้านจะไม่ยากอีกต่อไปถ้าทำตามขั้นตอนนี้ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลย

รู้ทันจังหวะช่วงเวลา การซื้อขายอสังหาฯ

ขายบ้าน-2เมื่อตัดสินใจจะขายอสังหาริมทรัพย์แล้วสมัยนี้สิ่งแรกที่ต้องทำนั้คือการหาข้อมูลที่รอบด้านก่อนเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆและหนึ่งในข้อมูลสำคัญคือช่วงเวลาในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

เพราะหากทราบช่วงเวลาก็จะส่งผลให้มีจังหวะที่ดีในการเตรียมการขายอย่างเต็มที่รอรับผลกำไรที่จะตามมาโดยอัตราการเก็บค่าทำเนียมด้านอสังหาริมทรัพย์จากกรมที่ดินในช่วง 20 ปี(2542-2561)ที่ผ่านมาจะเห็นว่า เดือนที่พบว่ามีการกระทำธุรกรรมด้านอสังหาฯ มากที่สุด คือเดือนธันวาคม จึงสรุปได้ว่าช่วงเวลานี้การขายบ้าน ที่ดิน คอนโดมิเนียมและอสังหาฯอื่นนั้นมีสภาพคล่องสูง

ส่วนเดือนที่น่าจับตามองรองลงมาคือเดือนมีนาคมและเดือนมิถุนายน เหตุผลที่คึกคักบางครั้งอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนที่อยู่เพื่อการศึกษาเพราะเป็นเวลาเปิดเทอม อย่างไรก็ตามในช่วงการเปลี่ยนเวลาเปิดเทอมรับ AEC ก็ต้องมาดูกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงช่วงหรือไม่ เพื่อยืนยันข้อนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อทำกำไรก็ควรมองหาช่วงที่ตลาดอสังหาฯซบเซา โดยสองอันดับคือเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งพบว่าเป็นช่วงโน้มเอียงที่จะซบเซามากที่สุดทำให้ง่ายในการต่อรองราคา หากอยู่ในฐานะผู้ขายก็อาจจะต้องหลักเลี่ยงการขายในช่วงนี้เพราะอาจส่งผลให้ได้ราคาที่ไม่น่าพอใจ

เพราะการวางแผนเป็นสิ่งสำคัญ การหาข้อมูลประกอบอย่างรอบด้านย่อมทำให้คุณได้เปรียบ เพราะลำพังบ้านที่ดีอาจขายยากหากจังหวะและโอกาสไม่เอื้ออำนวย ตั้งราคาขายที่เท่าไรและปัจจัยใดมีผลต่อราคาขาย by sellingguide.realestate

ขายบ้าน-3การประเมินมูลค่าทรัพย์สินนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากสามารถช่วยในการตัดสินใจซื้อ-ขายทรัพย์สินได้อย่างถูกต้องหากเรามีที่ปรึกษาที่ดีสำหรับการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน เพื่อให้สามารถขายได้ หากตั้งราคาไม่เหมาะสมก็จะเป็นอุปสรรคต่อการขายทรัพย์สิน ซึ่งมูลค่าของทรัพย์สินนั้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยแต่ละอย่าง ยกตัวอย่างเช่น

ที่ตั้งของตลาด –เป็นปัจจัยที่สำคัญ หากตลาดตั้งอยู่ในบริเวณที่มีการคมนาคมที่สะดวกและมีสิ่งอำนวยความสะดวก ราคาของทรัพย์สินก็จะเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากอิทธิพลจากบริเวณที่ตั้งของตลาด

อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน –เนื่องจากในแต่ละช่วงเวลา อัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับขึ้นหรือลดลง ดังนั้นควรตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยให้ถูกต้อง เพื่อที่เวลาประเมินราคาทรัพย์สินออกมาแล้วจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง ประเภทของอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์สินมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ หรือที่พักประเภทอื่นๆ ดังนั้นราคาของทรัพย์สินจะขึ้นอยู่กับประเภทด้วยเช่นกัน หากเป็นบ้านเดี่ยวอาจมีราคาที่สูง แต่หากเป็นห้องพักขนาดเล็กก็จะมีราคาที่ถูกลงเมื่อเทียบกับราคาบ้านเดี่ยว หรือทาวน์เฮาส์

ดูราคาของคุณสมบัติที่มีความคล้ายคลึงกันในพื้นที่ – ในพื้นที่แต่ละพื้นที่จะมีอสังหาฯที่หลากหลาย ดังนั้นลองมองหาทรัพย์สินที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึง ทำการศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูลโดยอาจตั้งราคาให้ต่ำกว่าเล็กน้อย หรือหากจะยืนราคาเท่ากันบ้านเองก็ต้องมีความโดดเด่นหรือจุดขาย ซึ่งจะทำให้ขายได้ง่าย

เมื่อพิจารณาข้อมูลโดยรวมก็จะสามารถตั้งราคาบ้านได้เองอย่างสมเหตุสมผล โดยอาจไม่ต้องพึ่งพาบริการที่เปลืองงบประมาณ เพียงแต่เจ้าของบ้านอาจต้องทำการบ้านหนักเล็กน้อย

ขายบ้าน ทำเลดี… มีชัยไปกว่าครึ่ง

ขายบ้าน-4แม้ว่าบ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้นจะมีหลากหลายรูปแบบ ชนิด ประเภท ทว่ารากฐานสำคัญที่กำหนดทิศทางของมูลค่าบ้านก็คือ ‘ทำเล’ ที่ตั้ง เพราะทำเลเกี่ยวข้องกับความสะดวกสบายในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ทำเลที่ดีอาจหมายถึงการตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญ และสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภค เช่น ระบบขนส่งมวลชนสมัยใหม่อย่างรถไฟฟ้า ซึ่งมีส่วนในการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ยิ่งหากเต็มไปด้วยสาธารณูปโภคย่อมมีโอกาสเรียกราคาได้ดีกว่า การจะรู้ว่าทำเลของบ้านเราดีหรือไม่ต้องสังเกตรายละเอียดทำเลทำรายได้ต่อไปนี้

  1. ย่านกลางเมือง

ละแวกที่ดีกลางเมืองคือละแวกที่อยู่ของชาวต่างชาติ เพราะพวกเขานิยมอยู่อาศัยแบบเกาะกลุ่มใกล้กันและมีสังคมของตนเอง เช่น ย่านคนญี่ปุ่น เกาหลี นิยมอาศัยแถวสุขุมวิท 21 ถึงช่วงทองหล่อ เป็นต้น หากท่านมีห้องชุดแถบนั้น นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะขายได้ในราคาดี

  1. ย่านที่คนต้องการความสะดวกในการเดินทาง

ทำเลใกล้เคียงรถไฟฟ้าใต้ดินบนดินนับเป็นทำเลทอง ทว่าหากท่านมีอสังหาฯซึ่งอยู่ในเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้า หรือต้องการซื้อเพื่อทำกำไรก็นับว่าคุ้มค่า ยิ่งหากมีตำแหน่งใกล้สถานีหรือติดถนน ก็รอรับทรัพย์ได้เลย

  1. ย่านสถานศึกษา

เพราะนักศึกษาย่อมมองหาที่พัก หากมีบ้านอยู่ในละแวกนั้น อาจจะพิจารณาแบ่งเช่า หรืออาจจะขายได้ราคาดีหากเจรจากับผู้ที่ทำงานที่นั้นๆซึ่งอาจต้องการลงหลักปักฐานใกล้ที่ทำงาน มั่นใจเลยว่าคุณมาของดีในมือ

  1. ย่านคนทำงาน

คนทำงานย่อมต้องการประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายและเวลา การมองหาที่พักใกล้ที่ทำงานจึงเกิดขึ้นได้ ทั้งประเภทกลางเมือง หรือรอยต่อระหว่างกรุงเทพฯชั้นใน กับชั้นนอก ซึ่งเป็นทำเลที่มีบริษัทและหน่วยงานมากมาย ก็สามารถตั้งราคาที่สูงได้เพราะมีกำลังซื้อสูง

ปรับเทคนิค ประกาศขาย

ขายบ้าน-5โดย Social Media ต่างๆก็เป็นอีกช่องทางที่ควรเลือกมาใช้ที่จะช่วยให้ผู้คนเห็นประกาศขายของคุณมากยิ่งขึ้น อย่าลืม!! เข้าไปอัพเดทประกาศของคุณเป็นระยะเพื่อให้ ประกาศของคุณ อัพเดทอยู่เสมอ เท่านี้ประกาศของคุณมีผู้สนใจมากยิ่งขึ้น นั้นถ้าเราปรับเทคนิคการลงประกาศขายให้โดนใจก็จะทำให้ประกาศของคุณเห็นผลได้เร็วขึ้น โดยเรามีเทคนิคมาฝากกันดังนี้

  1. การตั้งหัวข้อในการประกาศขาย ต้องชัดเจน ระบุว่าต้องการ ขายหรือเช่า บ้านหรือคอนโด ที่ตั้ง ให้ชัดเจน ในเนื้อหาของประกาศ ควรลงรายละเอียดให้ครบถ้วน ว่าเป็นบ้านประเภทใด หรือคอนโดของโครงการไหน
  2. ระบุรายละเอียดต่างๆให้ชัดเจน การตกแต่ง สไตล์เป็นอย่างไร ราคา รวมถึง ที่อยู่ที่จะใช้ในการติดต่อซื้อขายให้ชัดเจน อาจระบุสถานที่อำนวยความสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้าหรือสวนสาธารณะที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อช่วยดึงดูดความสนใจ อย่าลืมระบุขนาดพื้นที่ ด้วยว่ามีพื้นที่เท่าไร รูปสวยๆมีส่วนสำคัญมากในเพิ่มความสนใจให้ผู้ซื้อเกิดความสนใจมากขึ้น พยายามหาภาพที่เห็นพื้นที่กว้าง และเห็นรายละเอียดของบ้านหรือคอนโดได้ชัดเจน
  3. ช่องทางการประกาศ อันดับต่อมาเลือก เว็บไซต์ช่องที่ที่จะลงประกาศ ให้เหมาะสมกับประกาศ โดยเลือกเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับประกาศ

4.เทคนิคสุดท้าย อาจใช้เทคนิค Search Engine โดยการระบุคำสำคัญในประกาศของเรา เช่น เช่า , ซื้อ ,บ้าน,คอนโดหรือชื่อโครงการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้ที่กำลังค้นหามากขึ้น

ฝากขายกับเรื่องควรรู้ สัญญาแบบไหนที่ใช่คุณ

ขายบ้าน-6โดยวิธีการฝากขายบ้านกับนายหน้านั้นก็เป็นอีกวิธีที่เราจะทำให้ขายบ้านออกได้ไวแล้วเมื่อเทียบกับค่านายหน้าที่ต้องจ่ายก็ต้องนับว่าคุ้มค่าหากบ้านนั้นขายได้อย่างรวดเร็วและได้กำไรดี อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจจะใช้นายหน้าสิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจสัญญาฝากขาย(Listing Agreement) ซึ่งมีรูปแบบที่นิยม 4 ประเภท ดังนี้

  1. สัญญาแบบเปิดกว้าง (Open Listing) เป็นการทำสัญญากับนายหน้าหลายรายและจ่ายค่าตอบแทนให้นายหน้าที่หาผู้ซื้อมาให้ได้ แต่ก็เป็นสัญญาฝากขายที่ไม่จูงใจนายหน้ามากนักเพราะการลงโฆษณาอาจไม่ได้ผลประโยชน์
  2. สัญญาแบบทำกับนายหน้ารายเดียว (Exclusive Agency Listing) ซึ่งยังคงสิทธิการขายเป็นของผู้ขายโดยหากผู้ขายหาลูกค้าได้เองก็ไม่ต้องจ่ายค่านายหน้า
  1. สัญญาฝากขายแบบเบ็ดเสร็จ (Exclusive right to sell Listing) เป็นสัญญาฝากขายอสังหาริมทรัพย์โดยมอบหมายให้นายหน้าเป็นผู้จัดการขายอย่างเบ็ดเสร็จภายในกำหนดเวลาซึ่งสัญญาแบบนี้จะจูงใจนายหน้าได้ดีเพราะเป็นโอกาสที่จะได้รับค่าบริการและเปอร์เซ็นต์หากขายได้
  1. สัญญาที่ทำกับการขายเพียงครั้งเดียว (One time show Listing) สัญญาจะระบุตัวผู้นำเสนอขายบ้านให้กับผู้ซื้อที่มีศักยภาพหนึ่งหรือรายที่กำหนด และการันตีค่าตอบแทนหากขายบ้านให้คนคนนั้น

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะกับข้อมูลที่เรานำมาฝากกันหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านที่กำลังหาข้อมูลหรือแนวทางสำหรับขายอสังหาริมทรัพย์ ให้ได้ราคาดีและออกในราคาที่รวดเร็วนะคะ และพบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ

ลงประกาศฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย คลิ๊ก …

ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่