นางพนิดา ทองสุข ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและรักษาการรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในฐานะประธานกรรมการตรวจรับโครงการติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (อีทิคเก็ต) รถเมล์ ขสมก. เปิดเผยว่า ขสมก.ได้ทดสอบการใช้งาน รถเมล์ธรรมดา (รถเมล์ร้อน) ที่ติดตั้งอีทิคเก็ตผ่านแล้ว 500 คัน และกำลังทดสอบอีก 300 คันให้แล้วเสร็จกลางเดือน ส.ค. นี้
ดังนั้นวันที่ 15 ส.ค. นี้ ขสมก. จะนำรถเมล์ร้อนที่ผ่านการทดสอบลอตแรก 100 คัน ในพื้นที่เขตการเดินรถที่ 7 มาวิ่งทดสอบให้ประชาชนผู้ถือนำบัตร คนจน ได้ทดลองชำระค่าโดยสารเป็นครั้งแรก โดยแตะบัตรกับเครื่องอีทิคเก็ตระบบจะหักเงินค่าโดยสารอัตโนมัติเพื่อขึ้นรถเมล์ฟรีคนละ 500 บาทต่อเดือนและทยอยทดสอบระบบที่เหลือต่อไป
นางพนิดา กล่าวต่อว่า ส่วนการปรับปรุงระบบอีทิคเก็ต จากระบบ 2.0 ให้เป็นระบบ 2.5 ตามมาตรฐานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รองรับ บัตรแมงมุมหรือตั๋วร่วมใช้กับรถเมล์ที่ติดตั้งอีทิคเก็ตครบ 2,600 คัน ในเดือน ต.ค. นี้ตามแผนของกระทรวงคมนาคมนั้น คาดว่าภายในเดือนนี้จะได้ข้อสรุปที่ให้บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ผู้ว่าจ้างดำเนินการตามกรอบระยะเวลาและวงเงินลงทุน
นางพนิดา กล่าวต่อว่า กรณีการขอยกเลิกติดตั้งเครื่องเก็บค่าโดยสารหรือกล่องเก็บค่าโดยสาร “แคชบ็อกซ์” (Cash box) 2,600 คันนั้นกรมบัญชีกลางได้ทำหนังสือตอบกลับ มาแล้วว่าการยกเลิกเป็นอำนาจหน้าที่ของ ขสมก. ดังนั้น คณะกรรมการพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.ตั้งขึ้นมาเป็นพิเศษเตรียมให้อนุกฎหมาย ขสมก.พิจารณากล่องเก็บค่าโดยสารและข้อสรุปดำเนินการ รวมทั้งตั้งคณะกรรมการ อีกชุดไปเจรจากับ ช ทวีฯ เรื่องการยกเลิกสัญญาและรายละเอียดการปรับลดวงเงินค่าเช่าต่อไปโดยต้องให้เกิดความรอบคอบที่สุด
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์