คนอยากมีบ้านเตรียมเฮ การเคหะเข้าพัฒนาตามแนวรถไฟฟ้าพร้อมคุมราคาบ้าน

โครงการใหม่
โครงการใหม่
โครงการใหม่
โครงการใหม่

มีข่าวแจ้งมาจาก นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เนื่องจากมีการขยายตัวของการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสีเขียวช่วงสำโรงสมุทรปราการที่มีระยะทางยาวกว่า 23 กิโลเมตรและมีสถานีถึง 9 สถานี นั้นซึ่งความคืบหน้าเป็นไปได้ด้วยดีแลเปิดให้บริการได้แน่นอนไม่เกินปี 2561 ทำให้มีการเข้าจับจองพื้นที่สร้างโครงการอสังหาฯประเภทที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและใกล้เคียง และ ยังพบว่ามีราคาที่ดินพุ่งขึ้นจากเดิมมาก และ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะต่อขยายรถไฟฟ้าไปยังบางปูระยะทางร่วม 10 กิโลเมตร

ซึ่งได้มีการศึกษาข้อมูลต่างๆ และนอกจากนี้ทาง รฟม.เองมีแนวคิดในการสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยโดยร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติ เพราะเล็งเห็นว่าปัจจุบันความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้ามีมากขึ้น และ หากให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวจะสร้างความเลื่อมหล้ำทางสังคมมากขึ้นไปอีก เพราะการที่เอกชนสร้างเองนั้นแน่นอนว่าต้องมีราคาแพง แต่หากเป็นการเคหะฯจัดสร้างจะมีราคาถูกกว่า และ ทำให้ผู้มีรายได้น้อยที่ถือว่าเป็นจำนวนประชากรที่มากในประเทศเรา ได้มีที่อยู่อาศัยได้น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า แต่ก็ต้องประเมินแผนงานและวางแผนให้รัดกุมเพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ และ ราคาไม่แพง เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่มีรายได้น้อยและต้องการมีบ้านเป็นของตนเอง

ส่วนการคาดการณ์ที่วางไว้ จะเริ่มที่บริเวณสถานีเคหะสมุทรปราการเป็นที่แรก หากประสบผลสำเร็จก็จะมีโครงการอื่นๆตามมา และนอกจากนี้ยังมีแนวทางสำหรับการเดินรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวใต้หรือช่วงต่อสมุทรปราการนั้น จะมีแผนการ 2 แบบ คือแบบแรกให้ทาง BTS เป็นผู้ดำเนินการเดินรถซึ่งประชาชนจะได้รับความสะดวก แต่ รฟม. จะไม่คุ้มค่าการลงทุน เพราะคาดว่าหากเปิดให้บริการ รฟม. จะมีคนใช้บริการประมาณ 1.5-1.8 แสนคนต่อวัน ในขณะนี้บีทีเอสมี ประชาชนใช้บริการวันละ 1 ล้านคนต่อวัน ดังนั้น รฟม. เห็นว่าไม่คุ้มทุนจึงต้องพิจารณาอีกครั้ง ส่วนวิธีการที่ สอง คือ รฟม.จะลงทุนจัดหาบริษัทเอกชนเข้ามาเดินรถเองข้อเสียคือประชาชนอาจจะต้องเปลี่ยนถ่ายรถที่บริเวณสถานีสำโรง ซึ่งได้วางแผนทำชานชาลาอยู่บริเวณตรงกลางมีรูปแบบคล้าย ๆ สถานีสยามเพื่อให้ประชาชนเดินไปขึ้นรถประมาณ 30 เมตร ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกการเดินรถรูปแบบใดก็สามารถกระทำได้ทั้งนั้นเพราะระบบโยธาได้ออกแบบมาเพื่อรองรับไว้แล้ว

หากโครงการดังกล่าวสามารถทำได้สำเร็จจะเป็นผลดีต่อประชาชนทั้งผู้ใช้บริการการคมนาคมสาธารณะ และ ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัย แต่ ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกโครงการต้องทำออกมาอย่างได้คุณภาพ มีการจัดการที่ดี ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาเหมือนโครงการของการเคหะที่ผ่านๆ มาคือบ้านคุณภาพต่ำ สภาพแวดล้อมไม่ดี ซึ่งหากต้องการแข่งกับเอกชนก็ต้องมีการลงทุนในระดับที่เหมาะสมเพื่อให้ขายได้ในราคาที่ถูก เพราะเอกชนเองนั้นบางโครงการก็แพงเกินจริง และ ไม่ได้คุณภาพก็มี ซึ่งหากหน่วยงานราชการตั้งใจที่จะทำเพื่อประชาชนก็อยากให้มีคุณภาพในด้านต่างๆที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน