สวัสดีค่ะจากเมื่อวานที่เราได้ทำการอัพเดทความคืบหน้าโครงการ รถไฟความเร็วสูง ของไทยตลอดปี 2017 ที่ผ่านมาไปแล้ว ดังนั้นวันนี้ เราจะพาไปดู ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงของไทยตลอดปี 2017ที่ผ่านมากันบ้างไปดูกันว่า สร้างไปถึงไหนแล้วและจะพร้อมเปิดให้เราได้ใช้กันเมื่อไร เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ
โครงการ รถไฟความเร็วสูง ของไทย
- ช่วงที่ 1 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร
- ช่วงที่ 2 ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร
- ช่วงที่ 3 ระยะทางประมาณ 119 กิโลเมตร ช่วงที่ 4 ระยะทางประมาณ 119 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟ 6 สถานี ได้แก่ บางซื่อ – ดอนเมือง – อยุธยา – สระบุรี – ปากช่อง – นครราชสีมา 2 สถานีซึ่งสร้างบนพื้นที่ใหม่ ได้แก่ สระบุรี (ตรงข้ามโรบินสัน ถนนเลี่ยงเมือง) และปากช่อง (ที่ดินราชพัสดุ ซึ่งปัจจุบันเป็นกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 2 กองทัพบก)
ในส่วนของพื้นที่ ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟความเร็วสูงจะตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงรากน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา โดยสัญญาจ้างได้แบ่งออกเป็น 3 สัญญา
- สัญญาจ้างการออกแบบรายละเอียดการก่อสร้าง
- สัญญาจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง
- สัญญาจ้างเกี่ยวกับตัวรถ โดยขณะนี้ ในเฟสแรก งานผล EIA หรือ ผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ช่วงกรุงเทพฯ – บ้านภาชี ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว เหลือช่วงบ้านภาชี – นครราชสีมา อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมค่ะ ด้านอัตราค่าโดยสารและการให้บริการ กำหนดค่าโดยสารเบื้องต้นที่ 80 บาท บวก 1.8 บาทต่อกิโลเมตร จากอัตราดังกล่าว จะทำให้เส้นทาง กรุงเทพฯ-ปากช่อง อยู่ที่ 393 บาท และ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา 535 บาท ขบวนรถมีทั้งหมด 6 ขบวน ในระยะแรก ความจุผู้โดยสาร 600 คนต่อขบวน ความเร็วในการเดินทาง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้บริการเริ่มต้น 11 เที่ยวต่อวัน เดินทางทุก 90 นาที ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 17 นาที ระยะเวลาก่อสร้างทั้งโครงการ 4 ปี โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2564
- ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 384 กิโลเมตร แนวเส้นทางที่จะใช้ก่อสร้างส่วนใหญ่อยู่ในแนวเส้นทางรถไฟสายเหนือเดิม
- ระยะที่ 2 ช่วงพิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทาง 285 กิโลเมตร เป็นเส้นทางตัดใหม่ โดยจะก่อสร้างเส้นทางในระยะแรกก่อน คือ ช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทางประมาณ 380 กิโลเมตร
โดยมีผลตอบแทนของโครงการดีกว่าการก่อสร้างพร้อมกันทั้งโครงการไปถึงเชียงใหม่ ก็เพราะว่าถ้าสร้างเป็นเฟสจะ สามารถส่งต่อผู้โดยสารเข้ามาเสริมต่อรถไฟความเร็วสูงได้ จึงมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและการเงินได้นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาพื้นที่รอบสถานีและสองข้างทางได้ อีกทางด้วย
นอกจากนี้ ระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่นั้นจะ ใช้ระบบเทคโนโลยีซินคันเซน โดยการให้บริการจะเน้นขนส่งผู้โดยสารเป็นหลักและขนส่งสินค้าเป็นรอง โดยญี่ปุ่นจะสรุปผลการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของโครงการจากนั้นตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการออกแบบ โดยไทยตั้งเป้าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2561 ด้านรายละเอียดแนวเส้นทาง จากกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ส่วนใหญ่จะออกไปใช้เขตทางรถไฟสายเหนือเดิม อาจมีการปรับแนวเส้นทางบ้างในกรณีที่ต้องเจอทางโค้งมากๆ ส่วนสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนเพราะว่ารถไฟวิ่งด้วยความเร็วสูง จึงไม่สามารถไปทางโค้งมากๆได้นั้นเองค่ะ
โดยมีจุดเริ่มต้นที่บริเวณสถานีบางซื่อ วิ่งไปตามแนวรถไฟเดิม สิ้นสุดเส้นทางเฟสแรกที่จังหวัดพิษณุโลกจะมี 7 สถานีดังนี้ สถานีบางซื่อ ดอนเมือง อยุธยา ลพบุรี (ป่าหวาย) นครสวรรค์ พิจิตร โดยระยะห่างจากตัวเมือง ในส่วนทางด้านสถานีของพื้นที่จังหวัดกรุงเทพ มี 5 สถานีโดยจะสร้างอยู่ที่เดิมเป็นสถานีรถไฟในเมือง ในส่วนทางด้านสถานีของพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก มี 2 สถานีที่สร้างอยู่บนพื้นที่ใหม่ ได้แก่ สถานีลพบุรีจะสร้างอยู่ป่าหวาย โดยทั้งสองสถานีจะอยู่ห่างจากตัวเมือง 5 กิโลเมตร เท่านั้นสำหรับสถานีลพบุรี และห่างจากตัวเมืองประมาณ 2 กิโลเมตร สำหรับสถานีป่าหวาย ในส่วนศูนย์ซ่อมบำรุงที่สถานีเชียงราก
จากนั้นแนวเส้นทางจะเบี่ยงขวาไปทางทิศเหนือ ผ่านอำเภอวังชิ้นเข้าสู่อำเภอลอง ยกระดับรถไฟข้ามทางหลวงหมายเลข 1023 แล้วเป็นอุโมงค์ลอดใต้ทางหลวงหมายเลข 11 (เด่นชัย-แขวงลำปาง) ขนานไปตามทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านอำเภอแม่ทะ เข้าสู่สถานีรถไฟลำปาง และช่วง “ลำปาง-เชียงใหม่” จะมีแนวเส้นทางตัดใหม่และใช้พื้นที่เขตทางรถไฟเดิม โดยผ่านช่วงหนองวัวเฒ่า-สถานีห้างฉัตร เส้นทางรถไฟอยู่ในเขตทางรถไฟเดิม จากสถานีห้างฉัตร-ลำพูน เป็นแนวเส้นทางตัดใหม่
เริ่มต้นจากสถานีห้างฉัตร จะเบี่ยงแนวไปทางซ้ายของทางรถไฟเดิมไปอำเภอแม่ทา ตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 11 และทางรถไฟเดิมบริเวณสถานีศาลาแม่ทา ไปบรรจบกับทางรถไฟเดิมก่อนถึงสถานีรถไฟลำพูนประมาณ 10 กิโลเมตร วิ่งไปตามเขตทางรถไฟเดิมจนถึงสถานีรถไฟลำพูนและปลายทางที่สถานีเชียงใหม่ มี 5 สถานี ได้แก่ สถานีสุโขทัย ศรีสัชนาลัย ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ เป็นสถานีใหม่ 2 แห่ง คือสุโขทัย ห่างจากตัวเมือง 6 กิโลเมตร และศรีสัชนาลัย ห่างจากตัวเมือง 3 กิโลเมตร ส่วนอีก 3 สถานี จะใช้พื้นที่ของสถานีรถไฟเดิมอยู่ในตัวเมืองและมีศูนย์ซ่อมบำรุงที่จังหวัดเชียงใหม่
อัตราค่าโดยสารจะคิดตามระยะทาง แยกเป็น 3 ชั้น มี “ชั้นวีไอพี” มี 3 ที่นั่งต่อแถว ค่าแรกเข้า 200 บาท ค่าโดยสาร 4 บาทต่อกิโลเมตร “ชั้นธุรกิจ” มี 4 ที่นั่งต่อแถว ค่าแรกเข้า 100 บาท ค่าโดยสาร 2.50 บาทต่อกิโลเมตรและ “ชั้นมาตรฐาน” มี 5 ที่นั่งต่อแถว ค่าแรกเข้า 70 บาท ค่าโดยสาร 1.50 บาทต่อกิโลเมตร เบ็ดเสร็จ นั่งจากกรุงเทพยาวถึงเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 16 นาที เสียค่าโดยสารประมาณ 1,100-2,900 บาทต่อเที่ยว
ลงประกาศฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย คลิ๊ก …
ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่